การดูแลโลกไม่ควรเป็นเรื่องยากและไม่มีใครเป็นฮีโร่แค่เพียงคนเดียว

ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่เรามองเห็นปัญหานี้กันมาหลายทศวรรษและตระหนักรู้เรื่องนี้กันมานานแล้ว ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีที่เราทุกคนตื่นรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ แต่จะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าหากเราแก้ไขมันไปด้วยกันได้

เพราะสิ่งที่จะทำให้เรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น คือการลงมือทำอย่างจริงจัง จากความร่วมมือของทุกคน ทุกฝ่าย โดยมีเป้าหมายเดียวกัน

โดยเป้าหมายที่ว่าเราจะคงอุณหภูมิของโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จำเป็นจะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงครึ่งหนึ่งให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งจากการประมาณการของ Schneider Electric เรายังสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนนี้ได้ แต่เราจะต้องดำเนินการให้เร็วขึ้นสามเท่า โดยการนำดิจิทัลหรือโซลูชันมาปรับใช้ในการจัดการระบบพลังงานเป็นสิ่งที่ทำได้เลย ทั้งสำหรับการจัดการอาคาร และในระบบอุตสาหกรรม

เพราะการร่วมมือขององค์กรใหญ่อย่างภาคธุรกิจนั้นส่งผลต่อภาพใหญ่ในสังคม อย่างการจัดทำโครงการ Green Heroes for Life โดยโครงการนี้เป็นโครงการด้านความยั่งยืนที่ริเริ่มโดย Schneider Electric มีเป้าหมายเพื่อที่จะสร้างชุมชนของพลเมือง ธุรกิจ และสถาบันที่มีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

เพื่อให้มีกิจกรรมร่วมกันเพื่อนําไปสู่การนําวิธีปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมาปรับใช้ ทั้งพลังงานทดแทน พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบอัตโนมัติ ระบบดิจิทัล และแนวคิดใหม่ของการจัดการระบบไฟฟ้า เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของทั้งบุคคลและองค์กร

ซึ่ง Schneider Electric ไม่ได้คิดหรือทําเรื่องนี้เพียงลําพัง แต่ยังมีกลุ่มองค์กรซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ Schneider Electric ที่เห็นตรงกันว่าเรื่อง sustainability เป็นเรื่องสําคัญ และพร้อมจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, True IDC หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)

 

คุณสกุณา ปัญญาวิวรรธน์ Senior Vice President-Head of IT Operations Dept. ฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า
“เรื่องของสิ่งแวดล้อมต้องทำเร็ว แม้ผลในยุคนี้จะไม่เกิดแต่จะเกิดในอนาคต หากแก้ไขไม่ทันจะยิ่งหนักขึ้น เราได้นำซอฟแวร์มาช่วยให้ได้ข้อมูล ต่อยอดได้ว่าเราจะโฟกัสจุดไหน เพราะหากไม่มีข้อมูลจะเหมือนกับคนตาบอด แม้ว่าการจะถึงเป้าหมาย Net Zero จะไกล ก็ต้องรีบทำ แม้จะยังไม่เห็นผลก็ตาม”

 

คุณธีรพันธุ์ เจริญศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป True IDC กล่าวว่า
“”ทรู ไอดีซี ได้นำนวัตกรรมมาช่วยหนุนความยั่งยืน เรานำไอโอทีมาใช้บริหารจัดการพลังงานให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด มีระบบเอไอ เพื่อช่วยคำนวณการใช้พลังงาน พร้อมหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพื่อช่วยการลดการใช้พลังงาน จัดการการใช้พลังงานได้อย่างยั่งยืน”

 

คุณภาณุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) กล่าวว่า
“เมื่อเรามีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีการใช้พลังงานน้อยลงและประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ หากเทคโนโลยีในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดมีประสิทธิภาพมากเพียงพอในอนาคต จะลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลได้อย่างมีนัยสําคัญ”

เราไม่สามารถขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนได้โดยลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกองค์กร และเรารอไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่เร่งด่วน ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคล ทีม องค์กร หรือบริษัทระดับโลก ทุกคนล้วนมีพลังในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เราทุกคนต้องการ

 

สเตฟาน นูสส์ (Stephane NUSS) ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมา และลาว Schneider Electric ได้กล่าวเชิญชวนทุกคนให้ร่วมโครงการนี้ไปด้วยกัน

“การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศของโลก นับเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เราต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับ ที่ Schneider Electric เรามุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่แท้จริง เพื่อสร้างความยั่งยืนในระบบนิเวศทั้งหมดที่เราดำเนินการอยู่ เราไม่ต้องการเพียงแค่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างความตระหนักและร่วมกันกับองค์กรต่างๆ ในการผลักดันเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ตอนนี้ โลกต้องการ Green Heroes เช่นคุณ ผมในฐานะตัวแทน Schneider Electric ประเทศไทย ขอเชิญชวนองค์กรต่างๆ มาร่วมเป็น Green Heroes ด้วยกัน สร้างองค์กรที่ยั่งยืน และเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย Net Zero ในอนาคตร่วมกัน”