ชวนรู้จัก ‘SCBX NEXT TECH’ เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งใหม่ใจกลางเมือง ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ
ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือ ‘ยุคดิจิทัล’ ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมากมายในแทบทุกวงการ โดยนวัตกรรมต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ส่งผลต่อการเรียนรู้ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนอีกต่อไป
จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก ‘SCBX NEXT TECH’ (เอสซีบีเอกซ์ เน็กซ์ เทค) หรือเทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต ที่ออกแบบบนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ เวิร์กช็อป บรรยาย และจัดแสดงแห่งใหม่ใจกลางเมือง
โดยเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพิ่งจัดงานเปิดตัว SCBX NEXT TECH โดยได้รับเกียรติจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประธานในพิธี และ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มาร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทรานส์ฟอร์มพื้นที่สยามพารากอน สู่การกำหนดนิยามใหม่อีกระดับที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ พร้อมกับตั้งใจอยากให้เป็นจุดหมายที่สำคัญระดับโลก
ซึ่งเทคคอมมูนิตี้แห่งใหม่ล่าสุด จะมีจุดเด่นอะไรบ้าง หรือมีความสำคัญต่อผู้คน สังคม ตลอดจนประเทศอย่างไร ไปติดตามกันต่อได้เลย!
ก่อนอื่นมารู้จักกันให้มากขึ้นว่า SCBX NEXT TECH คืออะไร?
SCBX NEXT TECH เรียกให้ง่ายๆ คือคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต ถือเป็นแพลตฟอร์มต้นแบบแห่งใหม่ที่มีความ ‘ทันสมัย’ รวมถึงมีการนำ ‘นวัตกรรมดิจิทัล’ มาประยุกต์ใช้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มที่มีความสนใจเทคโนโลยีทุกแขนง ได้มีพื้นที่แห่งการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ ได้อย่างเสรีและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นประเด็นทางสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี หรือประเด็นอื่นๆ
อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และมีคุณค่า สามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองและเติบโตอย่างมีคุณภาพได้
โดยพื้นที่แห่งนี้ เป็นไอเดียที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Smarter Better Richer’ ที่ต้องการตอบสนองนโยบายของภาครัฐ ในการสร้างสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีส่วนร่วมผลักดันประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคต่อไป
แล้วคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคตนี้มีความสำคัญต่อสังคมและประเทศไทยอย่างไร?
อย่างแรกที่เห็นชัดคือ ไม่ใช่เพียงความคาดหวังว่า SCBX NEXT TECH จะเป็นศูนย์กลางคอมมูนิตี้ชั้นนำเท่านั้น แต่ยังมองว่าพื้นที่นี้จะสามารถเป็นตัวอย่างให้กับองค์กรขนาดใหญ่ของบ้านเรา ในการลงมือทำความคิดให้กลายเป็นภาพจริงที่จับต้องได้
ถัดมาคือ พื้นที่แห่งการเรียนรู้นี้ อาจเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการนำประเทศไปสู่โลกสมัยใหม่ เพื่อแข่งขันกับต่างชาติได้ เนื่องจากประเทศไทยเราอาจจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีและกำลังพลให้มีคุณภาพ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของเหล่านักลงทุน
จึงจำเป็นหรือเป็นเหตุผลที่ต้องสร้างกลุ่มคนดิจิทัล หรือเหล่าคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่จะมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจด้านสังคมของประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้า
คอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต ซึ่งอยู่บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อหวังเติมเต็มยกระดับชีวิตของผู้คนให้ได้รับประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และตอบโจทย์ชีวิตในทุกมิติ
ผ่านพื้นที่ที่สามารถทำกิจกรรม ทำงาน ฟังสัมมนาต่างๆ ที่เป็นความรู้ เพื่อเตรียมเข้าสู่โลกอนาคตในยุคดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ‘ONESIAM SuperApp’ ที่ผู้คนได้เข้ามามีส่วนร่วม พร้อมรับประสบการณ์เหนือระดับสำหรับสมาชิก ONESIAM ที่เชื่อมต่อโลกออนไลน์ และออฟไลน์ไว้ด้วยกัน ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ONESIAM SuperApp เพื่อร่วมสนุกกิจกรรม และลุ้นรับของรางวัล
อีกทั้งมีผลงาน ‘Robot Milling’ หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์แกะสลัก ที่เป็นการขึ้นรูปชิ้นงานสามมิติ เพื่อนำมาช่วยเหลือขั้นตอนการทำงานในส่วนแกะสลักขั้นแรก ก่อนจะส่งต้นแบบของงานไปยังขั้นตอนต่อไป เพื่อให้เกิดชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบ อีกทั้งช่วยลดความผิดพลาด แถมยังช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือผนึกกำลังกับพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งมากกว่า 10 องค์กร, พันธมิตรใน Tech Ecosystem กว่า 100 องค์กร ยังมีผู้นำความคิดและผู้เชี่ยวชาญในสายเทคกว่า 1,000 คนทั่วโลก เช่น SCBX, Focus, BITCAST, Connex, DEPA, JIB, looloo tech x Samitivej,Siam Nexsus Lab, SiamSandbox, Synnex, Techsauce, TFA, TIKTOK, ในการร่วมกันสร้างพื้นที่เป็น ‘แหล่งเรียนรู้’ และ ‘เสริมทักษะ’ เทคโนโลยี มีการสอนอาชีพ สอนการลงทุนให้เกิดขึ้น ในหลากหลายดิจิทัลแพลตฟอร์ม
และอย่างที่บอกไปว่า SCBX NEXT TECH เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มที่มีความสนใจในเทคโนโลยีทุกแขนง เพราะปัจจุบันได้แบ่งพื้นที่นำเสนอเป็น 7 ด้านด้วยกัน ได้แก่
1 – DEV CONNECT พื้นที่สำหรับการเชื่อมโยงเหล่านักพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่างๆ
2 – BLOCKCHAIN WEB3 & FINTECH พื้นที่สำหรับการเรียนรู้เทคโนโลยีบล็อกเชน และสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเทคโนโลยีทางการเงินรูปแบบใหม่ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี
3 – NEW TECH พื้นที่สำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจ Startup ให้เติบโต
4 – HEALTHTECH HUB พื้นที่สำหรับนวัตกรรมการดูแลสุขภาพและวิธีการที่ยั่งยืน
5 – GAMER’S GUILD พื้นที่ในการแลกเปลี่ยนของเหล่าเกมเมอร์และคนที่ชื่นชอบเกม
6 – AI ARENA เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคนในโลกออนไลน์ รวมถึงสร้างโอกาสให้ผู้คนได้แบ่งปันความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีที่สร้างความบันเทิง
7 – SOCIAL CO-CREATORS พื้นที่สำหรับอินฟลูเอนเซอร์และผู้สนใจ ที่จะเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์และความรู้ร่วมกัน
สุดท้ายนี้ยังมี ‘SCBX NEXT STAGE’ เป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ในรูปแบบ ‘สัมมนา’ ‘เวิร์กช็อป’ และเป็นพื้นที่สำหรับการ ‘จัดแสดงผลงานศิลปะ’ ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรองรับผู้คนได้มากถึง 300 คน
โดยภายในงานที่ผ่านมา มีการจัด ‘The Global Tech Talk’ เพื่อถ่ายทอดแนวคิดและการขับเคลื่อนเทคโนโลยีในอนาคต ที่มีเหล่า Speaker ระดับโลก เช่น THE SANDBOX, HASHED, Microsoft และ Ant Group ยักษ์ใหญ่บริษัทเทคโนโลยีการเงิน หรือฟินเทค มาร่วมเป็น Speaker แบ่งปันองค์ความรู้ไว้ในงานเดียวได้มากที่สุด อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า SCBX NEXT TECH เป็นเทคคอมมูนิตี้ในไทยแห่งใหม่ ที่น่าจับตามอง ซึ่งถ้าหากกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือคนไหนที่สนใจในเรื่องดิจิทัลไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง และในอนาคตก็คงต้องดูกันต่อไปว่าจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาให้ได้ติดตามกันอีก