ตามวัฏจักรของชีวิต การ ‘สูญเสีย’ เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากมันได้ คนเราเกิดมาก็ต้องดับไปนั่นคือกฎของธรรมชาติ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือความเศร้าโศกเสียใจของคนที่ยังอยู่ บางคนใช้เวลาเป็นเดือนเพื่อลืมความสูญเสีย บางคนใช้เวลานับปีเพื่อก้าวผ่านความเจ็บช้ำและเก็บเรื่องราวเหล่านั้นให้กลายเป็นเพียงความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
ไม่ว่าจะเป็นใครเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการสูญเสียก็มักจะเป็นเรื่องยากเสมอในการทำใจยอมรับ คนบางคนเสียใจถึงขั้นที่ทำให้ชีวิตเกิดความยุ่งเหยิง กินไม่ได้นอนไม่หลับ เนื่องจากการจากไปของคนที่รักอย่างกะทันหัน หรือมีความผูกพันมากๆ บางคนต้องหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเติมเต็มเพื่ออุดรอยรั่วเหล่านั้น และให้ชีวิตสามารถดำเนินต่อไปได้
ซามูเอล จอห์นสัน (Samuel Johnson) ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ไม่มีวิธีการหรือกลยุทธ์หลักใดที่ดีที่สุด ที่จะสามารถรับมือกับช่วงเวลาในการไว้ทุกข์ของคนเรา แต่ละคนมีปฏิกิริยาในการรับมือที่ต่างกัน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถแนะนำเทคนิคใดๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้โดยตรงกับทุกคนได้ ”
ถึงอย่างไรมนุษย์คือผู้ที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าเราไม่อาจหยุดการสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ แต่เราสามารถอยู่กับมันได้ ทุกๆ คนสามารถทำให้ตัวเองนั้นกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง เมื่อสามารถเผชิญหน้าและสามารถจัดการกับความเสียใจที่เกิดขึ้นเหล่านั้นได้แล้ว
สำหรับคนบางคน พวกเขามักไม่แสดงความโศกเศร้าออกมาให้เห็นและเลือกเก็บไว้ด้วยตัวคนเดียว อย่างเช่นกลุ่มเด็กๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจว่าความตายนั้นคืออะไร หลายๆ คนในวัยนี้มักจะเก็บความเศร้าโศกไว้ด้วยตัวเอง แต่ก็มีบางคนที่เราสามารถรับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าของเขาได้แม้มองจากภายนอก
กระนั้นก็มีอาการหลายอาการที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณยังไม่สามารถผ่านพ้นจากช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ ประกอบไปด้วย
- ไม่สามารถพูดถึงคนรักที่เสียไปได้ : ทุกช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์เมื่อเกิดการสูญเสียย่อมมีจุดสิ้นสุดลง ในบางครั้งต้องมีการคุยกับใครสักคนถึงการสูญเสียที่เกิดขึ้น เพื่อเปิดใจ บรรเทาทุกข์ ปล่อยผ่านเรื่องราวเหล่านั้นและทิ้งสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็นเพียงอดีต แต่หากว่าเวลาได้ผ่านไปเนิ่นนาน แต่ความโศกเศร้าเสียใจยังคงเหนี่ยวรั้งเราไว้จนไม่สามารถเอ่ยแม้กระทั่งชื่อของคนที่เราสูญเสียไปได้ เมื่อนั้นเราควรต้องพบกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความช่วยเหลือ และเปิดอกพูดคุยถึงเรื่องนี้
- สิ่งเร้าที่กระตุ้นปฏิกิริยาทางอารมณ์ : คนบางคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข แต่ก็มักจะมีบางครั้งที่พวกเขาต้องเผชิญกับภาวะทางอารมณ์เมื่อถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง วัตถุ สถานการณ์ ณ ตอนนั้น เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบางครั้งทำให้แผลในใจของผู้ที่สูญเสียถูกเปิดออกอีกครั้ง
- การเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่อง : ในบางครั้งก็มีข้อเท็จจริงเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่สูญเสียไม่สามารถเอาชนะช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกเหล่านั้นไปได้ นั่นคือการแสดงออกที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บางคนมักเปลี่ยนงานบ่อยๆ หาอะไรทำไปเรื่อยๆ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนความสนใจในสิ่งที่ชอบอยู่เสมอ เพื่อลืมความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงกับความทุกข์ ความเบื่อหน่ายที่พบเจอ
- มีอารมณ์ที่แปรปรวน : บางคนมีช่วงเวลาที่เกิดอารมณ์ที่แปรปรวน พวกเขาอยู่ในช่วงระหว่างความโดดเดี่ยว เพื่อคิดไตร่ตรองในเรื่องดังกล่าว และต้องความต้องการที่จะรายล้อมไปด้วยคนหมู่มาก สิ่งเหล่านี้ทำให้อารมณ์ของพวกเขาเกิดความอ่อนไหว และในบางครั้งมักจบลงด้วยปัญหาของโรคซึมเศร้า
อาการเหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงภาวะที่คนเรานั้นไม่สามารถเอาชนะวิกฤตแห่งการสูญเสีย ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งภาวะสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ตามมา แต่กระนั้นเราต้องทำความเข้าใจและให้สมองได้ปรับตัวถึงกับความสูญเสียและความเป็นจริงที่ต้องเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
จริงอยู่ที่การสูญเสียเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรผู้ที่ยังอยู่ก็ต้องยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่ต้องพบเจอ เศร้าได้เสียใจได้ แต่อย่าปล่อยให้ความเศร้าในครั้งนั้นมาเป็นเครื่องมือสร้างความเจ็บช้ำซึ่งกัดกร่อนจิตใจไปเรื่อยๆ เลือกที่จะเก็บเรื่องราวดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นเหล่านั้นไว้ในจิตใจ และก้าวไปข้างหน้าเพื่อสร้างความทรงจำครั้งใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นต่อไป
อ้างอิง
- verywellmine. I Don’t Want to Grow Up: What Should I Do About That? . https://bit.ly/3Iztoai