2 Min

หินก้อนนี้ เกิดขึ้น ‘ตามธรรมชาติ’ ได้อย่างไร?

2 Min
946 Views
22 Jun 2022

ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่โอเอซิสชื่อว่าเทย์มาร์ มีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอยู่ชื่อว่าหินอัลนัสลา’ (Al Naslaa) หินก้อนนี้สูงเกือบ 10 เมตร กว้างเกือบ 8 เมตร และยังมีรอยสลักอายุหลายพันปีนับตั้งแต่ยุคหิน 

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งประหลาดอะไร ถ้าเทียบกับการที่หินก้อนนี้มีรอยตัดแบบเนียนกริ๊บราวกับโดนแสงเลเซอร์ ซึ่งถ้าบอกว่ามีคนเอามาวางไว้ก็ไม่ใช่ เพราะหินนี้มันมีฐานเล็กๆ อยู่ทั้งสองฝั่งของรอยตัด พูดง่ายๆ คือมันยังติดอยู่กับพื้นดิน ไม่ได้แยกออก ดังนั้นคงไม่มีใครเอามาวางแน่ๆ

เรื่องนี้น่าจะถูกใจนักทฤษฎีสมคบคิดผู้เชื่อในมนุษย์ต่างดาว เพราะคนเหล่านี้ก็ย่อมฟันธงว่ารอยตัดเนียนกริ๊บขนาดนี้ในยุคก่อนที่มนุษย์จะมีอารยธรรมมันจะเป็นฝีมือใครได้นอกจากมนุษย์ต่างดาว

แต่ที่จริงมันมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์และธรณีวิทยาอยู่เต็มไปหมดที่จะอธิบายว่ารอยแตกที่ว่านี้เกิดตามธรรมชาติได้อย่างไร

คำอธิบายแรกเลยคือ หินที่ว่านี้ดันตั้งอยู่ตรงรอยแยกเปลือกโลกพอดี และพอเปลือกโลกขยับ มันก็เลยแยกออกจากกัน ซึ่งตอนแรกๆ ไม่เนียนหรอก แต่ลมพัดทรายผ่านเป็นพันปีก็เหมือนหินมันโดนกระดาษทรายถูจนทำให้เกิดรอยแยก จนคล้ายรอยตัดแบบเนียนๆ

คำอธิบายที่สอง หินมันอาจจะมีรอยแยกภายในอยู่แล้ว พอถึงเวลามันก็แตกออก ซึ่งตรงนี้ หลายคนที่เคยเห็นการแตกของหินที่รอยแตกมันเรียบสนิทก็คงจะร้องอ๋อ ถ้ามันเป็นไปได้กับหินก้อนเล็กๆ ฉะนั้นหินก้อนใหญ่ก็เป็นได้ไม่ต่างกัน

คำอธิบายที่สาม หินนี้อาจเคยผ่านยุคน้ำแข็งมา (เป็นไปได้ เพราะพื้นที่ทะเลทรายหลายแห่งก็เคยถูกหิมะปกคลุมในบางช่วงของประวัติศาสตร์) แล้วหินในตอนแรกมันอาจมีร่องเล็กๆ ที่น้ำเข้าไป พอน้ำเข้าไปแล้วแข็งตัวมันก็ขยาย (อันนี้เป็นวิทยาศาสตร์พื้นฐาน พอน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ปริมาตรมันจะมากขึ้น) จึงทำให้หินแตกได้เช่นกัน และเมื่อกาลเวลาผ่านไป ลมและทรายก็จะพัดพาจนทำให้มันเรียบในที่สุด

ส่วนฐานเล็กๆ นั้น คำอธิบายค่อนข้างชัดว่าน่าจะโดนลมเซาะ เพราะลมใกล้ผืนทรายจะพัดแรงกว่าข้างบนอยู่แล้ว ทำให้หินจำนวนมากมีฐานเล็กๆ ซึ่งสามารถพบปรากฏการณ์ในทะเลทรายนี้ได้ทั่วไป และมันเรียกว่าหินเห็ดเนื่องจากมันมีหัวโตและฐานเล็กเหมือนเห็ด และฐานที่เล็กๆ นี้เกิดจากลมเซาะนี่เอง

คำอธิบายทั้งหมดก็น่าจะชัดแล้วว่ามันไม่ได้เกิดจากมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติปกตินี่แหละ

ถึงอย่างนั้น คนช่างสงสัยก็ยังรู้สึกถึงอีกหนึ่งความเป็นไปได้ ซึ่งก็คือความสงสัยว่า หรือจริงๆ รอยแยกของหินก้อนนี้มันเป็นฝีมือมนุษย์?

ก็เป็นไปได้ เพราะแม้แต่มนุษย์โบราณเองก็อาจทำให้หินมันแตกออกได้ ทว่าไม่ได้ทำง่ายๆ ต้องใช้ความพยายามและอาจใช้กำลังคนมากมาย นั่นก็นำมาสู่คำถามว่า แล้วคนโบราณจะทำไปทำไมกัน?

แน่นอนว่าถ้าจะอธิบายแบบนี้ มันทำให้เกิดคำถามต่อไปอีกมากมาย ดังนั้นมนุษย์ก็เลยยังเชื่อในคำอธิบายพื้นฐานว่ามันคือสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติมากกว่า

อ้างอิง

  • IFLS. How Did The Al Naslaa Rock Formation Get Split In Two? https://bit.ly/3QAD1Ki
  • DailyMail. The boulder that’s baffling the internet: Huge rock in Saudi Arabia looks like it was cut in two with a laser beam (so was it aliens?). https://bit.ly/3Ov9aBf