ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่โอเอซิสชื่อว่าเทย์มาร์ มีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอยู่ชื่อว่า ‘หินอัลนัสลา’ (Al Naslaa) หินก้อนนี้สูงเกือบ 10 เมตร กว้างเกือบ 8 เมตร และยังมีรอยสลักอายุหลายพันปีนับตั้งแต่ยุคหิน
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งประหลาดอะไร ถ้าเทียบกับการที่หินก้อนนี้มี ‘รอยตัด’ แบบเนียนกริ๊บราวกับโดนแสงเลเซอร์ ซึ่งถ้าบอกว่ามีคนเอามาวางไว้ก็ไม่ใช่ เพราะหินนี้มันมีฐานเล็กๆ อยู่ทั้งสองฝั่งของรอยตัด พูดง่ายๆ คือมันยังติดอยู่กับพื้นดิน ไม่ได้แยกออก ดังนั้นคงไม่มีใครเอามาวางแน่ๆ
เรื่องนี้น่าจะถูกใจนักทฤษฎีสมคบคิดผู้เชื่อในมนุษย์ต่างดาว เพราะคนเหล่านี้ก็ย่อมฟันธงว่ารอยตัดเนียนกริ๊บขนาดนี้ในยุคก่อนที่มนุษย์จะมีอารยธรรมมันจะเป็นฝีมือใครได้นอกจากมนุษย์ต่างดาว
แต่ที่จริงมันมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์และธรณีวิทยาอยู่เต็มไปหมดที่จะอธิบายว่ารอยแตกที่ว่านี้ ‘เกิดตามธรรมชาติ’ ได้อย่างไร
คำอธิบายแรกเลยคือ หินที่ว่านี้ดันตั้งอยู่ตรงรอยแยกเปลือกโลกพอดี และพอเปลือกโลกขยับ มันก็เลยแยกออกจากกัน ซึ่งตอนแรกๆ ไม่เนียนหรอก แต่ลมพัดทรายผ่านเป็นพันปีก็เหมือนหินมันโดนกระดาษทรายถูจนทำให้เกิดรอยแยก จนคล้ายรอยตัดแบบเนียนๆ
คำอธิบายที่สอง หินมันอาจจะมีรอยแยกภายในอยู่แล้ว พอถึงเวลามันก็แตกออก ซึ่งตรงนี้ หลายคนที่เคยเห็นการแตกของหินที่รอยแตกมันเรียบสนิทก็คงจะร้องอ๋อ ถ้ามันเป็นไปได้กับหินก้อนเล็กๆ ฉะนั้นหินก้อนใหญ่ก็เป็นได้ไม่ต่างกัน
คำอธิบายที่สาม หินนี้อาจเคยผ่านยุคน้ำแข็งมา (เป็นไปได้ เพราะพื้นที่ทะเลทรายหลายแห่งก็เคยถูกหิมะปกคลุมในบางช่วงของประวัติศาสตร์) แล้วหินในตอนแรกมันอาจมีร่องเล็กๆ ที่น้ำเข้าไป พอน้ำเข้าไปแล้วแข็งตัวมันก็ขยาย (อันนี้เป็นวิทยาศาสตร์พื้นฐาน พอน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ปริมาตรมันจะมากขึ้น) จึงทำให้หินแตกได้เช่นกัน และเมื่อกาลเวลาผ่านไป ลมและทรายก็จะพัดพาจนทำให้มันเรียบในที่สุด
ส่วนฐานเล็กๆ นั้น คำอธิบายค่อนข้างชัดว่าน่าจะโดนลมเซาะ เพราะลมใกล้ผืนทรายจะพัดแรงกว่าข้างบนอยู่แล้ว ทำให้หินจำนวนมากมีฐานเล็กๆ ซึ่งสามารถพบปรากฏการณ์ในทะเลทรายนี้ได้ทั่วไป และมันเรียกว่า ‘หินเห็ด’ เนื่องจากมันมีหัวโตและฐานเล็กเหมือนเห็ด และฐานที่เล็กๆ นี้เกิดจากลมเซาะนี่เอง
คำอธิบายทั้งหมดก็น่าจะชัดแล้วว่ามันไม่ได้เกิดจาก ‘มนุษย์ต่างดาว’ แน่ๆ แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติปกตินี่แหละ
ถึงอย่างนั้น คนช่างสงสัยก็ยังรู้สึกถึงอีกหนึ่งความเป็นไปได้ ซึ่งก็คือความสงสัยว่า หรือจริงๆ รอยแยกของหินก้อนนี้มันเป็นฝีมือมนุษย์?
ก็เป็นไปได้ เพราะแม้แต่มนุษย์โบราณเองก็อาจทำให้หินมันแตกออกได้ ทว่าไม่ได้ทำง่ายๆ ต้องใช้ความพยายามและอาจใช้กำลังคนมากมาย นั่นก็นำมาสู่คำถามว่า แล้วคนโบราณจะทำไปทำไมกัน?
แน่นอนว่าถ้าจะอธิบายแบบนี้ มันทำให้เกิดคำถามต่อไปอีกมากมาย ดังนั้นมนุษย์ก็เลยยังเชื่อในคำอธิบายพื้นฐานว่ามันคือ ‘สิ่งที่เกิดตามธรรมชาติ’ มากกว่า
อ้างอิง
- IFLS. How Did The Al Naslaa Rock Formation Get Split In Two? https://bit.ly/3QAD1Ki
- DailyMail. The boulder that’s baffling the internet: Huge rock in Saudi Arabia looks like it was cut in two with a laser beam (so was it aliens?). https://bit.ly/3Ov9aBf