4 Min

ถนนไม่ใช่ของรถยนต์ แต่เป็นพื้นที่สาธารณะของ ‘ทุกคน’

4 Min
536 Views
26 Jan 2022

‘ถนน’ เป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้สอยได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน คนเดินเท้า หรือผู้ใช้รถเข็น แต่ปัจจุบันด้วยโครงสร้างผังเมืองและการสัญจรกลับไม่เอื้อให้การเดินทางรูปแบบอื่นๆ เป็นไปได้ง่าย ทำให้อัตรารถยนต์บนท้องถนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และครอบครองพื้นที่สาธารณะของ ‘ทุกคน’ อย่างทุกวันนี้

ถนนเป็นของใคร?

ในปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนมีความเห็นว่าถนนเป็นสิ่งที่ถูกก่อร่างสร้างขึ้นมาเพื่อ ‘รถยนต์’ ไม่ว่าจะเป็นถนน 4 เลน หรือทางด่วนลอยฟ้าล้วนถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์สี่ล้อที่ปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความจริงแล้วถนนเป็นของรถยนต์เท่านั้นจริงๆ เหรอ?

แน่นอนว่าถ้าหากย้อนกลับไป ถนนในรูปแบบปัจจุบันที่เราใช้อยู่นั้นเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อการเดินทางสัญจร เพราะในช่วงต้นทศวรรษ 1900 ในสหรัฐฯ และยุโรปเริ่มมีการปูทางถนนและสร้างเส้นทางใหม่ๆ แต่ในเวลานั้นคนส่วนใหญ่ในเมืองไม่สามารถเอื้อมถึงรถยนต์ได้ มันยังเป็นของเล่นที่เหล่าเศรษฐีนำออกสู่ถนนบ้างเป็นครั้งคราว การเดินทางระยะไกลส่วนใหญ่อยู่บนรถไฟซึ่งเป็นระบบราง ดังนั้นถนนในช่วงแรกจึงถูกออกแบบให้คนเดินเท้า รถม้า รถลาก เกวียน ไปจนถึงจักรยานได้ใช้ในการเดินทาง ทั้งยังเป็นพื้นที่ ‘สาธารณะ’ ให้ผู้คนได้สามารถใช้สอยและทำกิจกรรมต่างๆ ได้

Los Angeles in 1904 | VOX

แต่หลังจากที่รถยนต์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะเริ่มมีราคาถูกลงและเป็นที่นิยมมากขึ้น คนเดินเท้า เกวียน หรือจักรยาน ก็ถูกเบียดหายไปจากถนนมากขึ้น เช่นเดียวกับอัตราอุบัติเหตุทางท้องถนนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ในปี 1980 ในสหราชอาณาจักรได้เกิดกฎหมายทางหลวง (Highway Act) เพื่อจัดการการดำเนินงานของถนนและโครงสร้างใหม่ โดยส่วนหนึ่งของข้อกำหนดได้ห้ามไม่ให้มีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การสันทนาการหรือกิจกรรมอื่นๆ บนท้อง เหลือเพียงแค่หน้าที่ของถนนในฐานะที่เป็นเส้นทางสัญจรเท่านั้น และผู้ที่ครอบครองอำนาจการสัญจรมากที่สุดคือสิ่งที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุดอย่าง ‘รถยนต์’

อย่างไรก็ดี แม้ว่ารถยนต์จะมีบทบาทมากขึ้นบนท้องถนน แต่มันก็ยังไม่ได้หมดหน้าที่ในการเป็น ‘พื้นที่สาธารณะ’ ซึ่งเป็นของทุกคนและหลายประเทศยังคงให้ความสำคัญกับผู้สัญจรคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน คนเดินเท้า หรือรถเข็น และปัจจุบันมีแนวทางในการพัฒนาให้ถนนในเมืองกลับมามีบทบาทเป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถใช้สอยและทำกิจกรรมอื่นๆ ได้นอกจากการสัญจรด้วย

แต่สำหรับประเทศไทย เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเช่นกันว่า ถนนเป็นเส้นทางสัญจรของรถยนต์ ในขณะที่การเดินทางแบบอื่นๆ กลับไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค รวมถึงในปี 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนสูงเป็นอันดับสองของโลก โดยที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คือผู้ใช้รถจักรยานยนต์และคนเดินถนน

traffic | cntraveler

ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือการวางโครงสร้างผังเมืองและเส้นทางการคมนาคมตั้งแต่เริ่มต้น โครงสร้างเส้นทางไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกต่อการเดินเท้า การใช้ จักรยานยนต์ หรือจักรยาน

เราจะเห็นว่าขนาดทางเท้าตามรายงานจากศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) ควรมีไม่ต่ำกว่า 20-25 เปอร์เซ็นต์ของท้องถนน ทว่าในกรุงเทพฯ มีสัดส่วนเพียงแค่ 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และทางเท้าที่มีอยู่ในปัจจุบันยังมีความกว้างน้อยกว่ามาตรฐานข้างละ 1.5 เมตร รวมถึงเลนจักรยานนั้นถูกรวมอยู่กับเส้นทางสัญจรของรถยนต์หรือทางเท้า

โครงสร้างท้องถนนที่ไม่เอื้อต่อการสัญจรแบบอื่นๆ ประกอบกับระบบขนส่งสาธารณะของไทยกระจุกตัวแค่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรือรถใต้ดินซึ่งก็ยังถือว่ามีราคาค่าตั๋วที่สูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพและรายได้เฉลี่ยต่อประชากร รวมถึงปัญหาเรื่องความปลอดภัยในขนส่งประเภทอื่นๆ เช่น รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ ส่งผลให้ความต้องการใช้รถยนต์เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปี 2563 มีการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่สะสมแล้วมากกว่า 41 ล้านคัน เฉพาะในกรุงเทพฯ แห่งเดียวมีรถยนต์จดทะเบียนสะสมมากกว่า 10 ล้านคัน

traffic | reason

การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบขนส่งและคมนาคมให้ความสำคัญกับผู้ใช้พาหนะส่วนตัวบุคคลประเภทรถยนต์ นั่นคือการคำนึงถึงประชากรผู้มีรายได้สูงและระดับปานกลางค่อนไปทางรายได้สูง แต่การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานในไทยได้ลดความสำคัญของผู้เดินเท้า ผู้ขับขี่รถจักรยาน และผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง โดยการลดพื้นที่บริการนั้นนำไปสู่สิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้คน และในอีกทางหนึ่งก็พบกันว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างรุนแรงมักเป็นกลุ่มที่สัญจรด้วยจักรยานยนต์หรือทางเท้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยกว่า ยิ่งเป็นการสะท้อนภาพ ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนน

แต่เมื่อเรากลับมาที่คำถามแรก โดยพื้นฐานและการกำเนิด ‘ถนน’ ยังคงสถานการณ์เป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนควรเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นรถเข็น จักรยาน จักรยานยนต์ หรือคนเดินเท้า แต่ด้วยโครงสร้างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทำให้เราเห็นความสำคัญและบทบาทของรถยนต์เป็นเจ้าของถนนมากกว่าคนอื่นๆ อย่างในปัจจุบัน

อ้างอิง

  • Vox. “Roads were not built for cars”: how cyclists, not drivers, first fought to pave US roads. https://bit.ly/3KAOpmD
  • The guardian. 19th century cyclists paved the way for modern motorists’ roads. https://bit.ly/3qVjIkd
  • Chula. ความเหลื่อมล้ำบนท้องถนนไทย. https://bit.ly/3rNnqvx
  • Wikipedia. Highways Act 1980. https://bit.ly/3fOVoKs
  • กรมการขนส่งทางบก. กรมการขนส่งทางบก เผยสถิติการจดทะเบียนรถใหม่ป้ายแดงทั่วประเทศตลอดปี 2563 (เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563) รวม 2,638,466 คัน ลดลงเฉลี่ย 14%. https://bit.ly/33D8h85
  • นิสิตนักศึกษา. ทางสัญจรในกรุงเทพฯ ไม่ใช่ของทุกคน. https://bit.ly/3fTlADG
  • SDG Insights. รถ ถนน การเดินทาง : ทำไมประเทศไทยจึงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดในโลก. https://bit.ly/3tU46iX