โควิดกรุงเทพฯ เบาลง หมอริทประกาศยุติอาสา และ “หวังว่าจะไม่ต้องกลับมาทำอีก”

เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา “หมอริท” เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช ได้ประกาศขอยุติโครงการ #หมอริทช่วยโควิด เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศไทยกลับมาสู่วันที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำกว่า 10,000 รายเป็นครั้งแรก หลังจากโครงการอาสานี้เปิดมาเป็นเวลากว่า 2 เดือนเพื่อดูแลผู้ป่วย home isolation ให้ได้รับยาและการดูแลที่จำเป็นอย่างเร็วที่สุด

เนื้อหาของประกาศระบุว่า ในปัจจุบัน ระบบสาธารณสุขในกรุงเทพและปริมณฑลสามารถรองรับและดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึง ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยใหม่ลดลง ทางทีมงานหมอริทช่วยโควิดจึงขอปิดรับเคสใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป และจะส่งยาให้ผู้ป่วยในวันที่ 30 กันยายนเป็นวันสุดท้าย

ในทวิตเตอร์ส่วนตัวของหมอริท เขากล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับโครงการนี้ไว้ว่า

“ขอบคุณอาสาสมัครทุกท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาช่วยกันทำโครงการนี้ ขอบคุณผู้บริจาคทุกท่านที่ช่วยเหลือให้โครงการเดินหน้าไปได้ และขอบคุณคนไข้ในการดูแลทุกท่านที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตัว เพื่อช่วยกันระงับการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ขอให้ไม่ต้องกลับมาทำอีก…สวัสดีครับ”

โครงการหมอริทช่วยโควิด ก่อตั้งขึ้นมาในช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ระบบสาธารณสุขยังมีความขัดข้องในการนำผู้ป่วยรายใหม่เข้าสู่ระบบ ทำให้เกิดปัญหาคนไข้โควิด-19 ไม่ได้รับการติดต่อกลับ หรือได้รับการติดต่อกลับช้ามากจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งในระหว่างช่วงรอนั้นเอง ที่ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเมื่อผู้ป่วยอาการน้อยไม่ได้รับยาที่จำเป็นในช่วงที่ต้องรอ ผู้ป่วยอาการน้อยอาจกลายเป็นเคสอาการหนักขึ้นมาได้ และอาจทำให้เกิดการสูญเสียโดยไม่จำเป็น อย่างที่เราเคยเห็นตามหน้าข่าวที่รายงานถึงเคสที่รอเตียงจนเสียชีวิต

แนวคิดของหมอริทและโครงการจึงเน้นการ “ส่งยาไปให้ถึงมือผู้ป่วยให้เร็วที่สุด” เพราะมีความเชื่อว่า “ยิ่งเร็ว ยิ่งรอด” โดยตั้งเป้าว่ายาต้องถึงมือคนไข้ภายใน 2 วัน เป็นความพยายามอุดช่องโหว่ในเรื่องความล่าช้าของระบบสาธารณสุขไทยในขณะนั้น เพื่อลดอัตราคนนอนโรงพยาบาลและลดอัตราคนเสียชีวิต

ในอัพเดตสถานการณ์ผู้ป่วยล่าสุดของโครงการหมอริทในวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา โครงการนี้รับเคสใหม่ได้เฉลี่ย 200 เคสต่อวัน และข้อมูลจากวันที่ 29 สิงหาคม ทีมหมอริทและอาสาสมัครมีผู้ป่วยที่กำลังรักษา 2,082 ราย ผู้ป่วยรักษาแล้ว 2,446 ราย และดูแลครบ 14 วัน/หายแล้ว 1,291 ราย และส่งต่อ/หาเตียงให้ผู้ป่วยได้แล้ว 1,147 ราย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ที่ผ่านมาวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้นได้จากการร่วมมือของทุกฝ่าย นอกเหนือจากภาครัฐแล้ว ก็มีทางฝั่งภาคประชาชนเองที่ลุกขึ้นมาประสานงานและช่วยเหลือกันบรรเทาวิกฤตการณ์

ในวันนี้ แม้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 จะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่นี่ยังไม่ใช่จุดจบที่แท้จริง

การจะมุ่งไปสู่การเปิดประเทศเต็มรูปแบบ หรือการใช้ชีวิตร่วมกับโควิดให้สำเร็จ ไม่เพียงแต่ต้องพึ่งพาการฉีดวัคซีนอย่างครอบคลุม แต่ยังต้องพึ่งพาระบบสาธารณสุขที่แข็งแรง ที่พร้อมรับการระบาดระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

โครงการหมอริทช่วยโควิดได้ยุติลงไปแล้ว แต่โรคโควิด-19 ยังอยู่ต่อไป ประโยคสุดท้ายที่หมอริทใช้กล่าวลา…

“ขอให้ไม่ต้องกลับมาทำอีก…สวัสดีครับ”

จะเป็นหนึ่งในเครื่องเตือนใจ ณ ช่วงเวลาปัจจุบัน ให้เราได้เฝ้าระวังตัวต่อไปในอนาคต และให้เราคาดหวังกับภาครัฐว่า ในครั้งหน้า…หากมีการระบาดระลอกใหม่ขึ้นมา ประชาชนผู้เสียภาษีจะได้รับการดูแลที่ทั่วถึงและทันท่วงที อย่างที่ไม่ต้องให้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาดูแลกันเองอีกเหมือนอย่างที่ผ่านมา

อ้างอิง:

• Matichon Online. แจ้งยุติโครงการ #หมอริทช่วยโควิด หลังระบบ สธ.ดูแลทั่วถึง ‘หมอริท’ หวังไม่ต้องกลับมาทำอีก. https://bit.ly/2ZKZgaw
• Dailynews Online. เปิดที่มา “หมอริทช่วยโควิด” ส่งยาเข้าปากคนไข้เร็วสุด ลดอัตราป่วยหนัก ลดอัตราตาย. https://bit.ly/3FfrJFP