3 Min

บ้านไม่รวยแต่อยากเป็น ‘เศรษฐี’ ลองเริ่มฝึก 9 ลักษณะนี้ไว้

3 Min
1839 Views
06 Jan 2022

อยากรวยทำยังไง? สมัยก่อนในยุคฮาวทูพีคๆ เขาก็จะมีเช็คลิสต์ว่าคุณต้องทำแบบนั้นแบบนี้แล้วจะรวย แต่หลังๆ มันก็มักจะมาโป๊ะแตกว่าคนที่รวยๆ น่ะบ้านรวยเป็นฐานทั้งนั้น หรือพูดอีกแบบ ไม่ค่อยมีมหาเศรษฐีคนไหนเกิดมาจนแล้วไต่เต้าเป็นมหาเศรษฐีได้สักเท่าไรนัก

แต่แม้จะเป็นแบบนั้น เอาจริงๆ ถ้ามาดูคนที่เป็นมหาเศรษฐีพีคๆ ในยุคนี้แม้พวกเขาจะมีฐานว่าบ้านพอมีฐานะ’ (บางคนจะเรียกบ้านรวยก็ใช่ที่เพราะเขาคือชนชั้นกลาง‘) แต่ประเด็นคือ คนคนที่บ้านรวยหรือกระทั้งคนที่เป็นชนชั้นกลางสูงก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะไต่เต้าจนเป็นเศรษฐีหรือกระทั่งมหาเศรษฐีได้หมด และก็ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีพื้นเพอีกจำนวนมากที่นอกจากจะไม่ได้รวยเท่าที่บ้านแล้ว ใช้ชีวิตไปยังจนกว่าที่บ้านอีก

แม้ว่ามันจะไม่มีสูตรสำเร็จที่จะทำให้คนจนเป็นเศรษฐี แต่ก็มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้คนที่พอมีฐานะอยู่แล้วนั้นรวยขึ้นไปอีกจริงๆ แต่มันคืออะไรบ้างล่ะ? สิ่งเหล่านี้คือลักษณะร่วมของมหาเศรษฐีร่วมสมัยทั้งหมดที่รวยมาด้วยตนเองจากการศึกษามา ของ Manfred Kets de Vries นักวิชาการด้านการศึกษาชาวดัตช์ ซึ่งเรียกได้ว่าน่าสนใจทีเดียวและมีความเป็นเหตุเป็นผล

ลักษณะแรกที่ทุกคนมีร่วมกันคืออยากรวยอันนี้ก็พื้นฐานเลย ที่เห็นรวยๆ กัน ไม่มีใครตกกระไดพลอยโจนแล้วรวย มันรวยโดยเจตนาทั้งนั้น ดังนั้นถ้าไม่คิดจะรวย ก็อย่าหวังจะรวย

แต่เท่านั้นไม่พอ อยากรวยมันไม่พอ มันต้องมุ่งมั่นด้วย คืออยากรวยนี่ใครก็อยาก แต่ใครจะมีความมุ่งมั่นในเป้าหมาย และภารกิจต่างๆ ระหว่างทางมากพอก็บอกได้เลยว่าน้อยคน

ตรงนี้ อยากรวยแล้ว มุ่งมั่นแล้ว ก็ยังไม่พอ เพราะจะรวยระดับมหาเศรษฐี สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือต้องสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเอง ดังนั้น สิ่งที่ต้องมีก็คือสามารถในการดีลกับคนหรือเป็นคนดีลเก่งอันนี้สำคัญ บางคนมุ่งมั่น วิสัยทัศน์เลิศ แต่ทักษะในการดีลกับคนเป็นศูนย์ ก็อย่างหวังเลยว่าจะไปได้ถึงระดับมหาเศรษฐี

คุณอยากรวยแล้ว มุ่งมั่นแล้ว ดีลกับคนเก่งแล้ว คุณก็อาจไม่รวย ถ้าคุณไม่คิดและทำไม่เหมือนคนอื่น หรือคุณต้องคิดแปลกตรงนี้สำคัญ คุณอยากรวยและมุ่งมั่น คุณอาจเป็นผู้บริหารที่ดีได้ แต่ถ้าวิธีคิดคุณยังเป็นปกติ คุณไม่มีทางจะสร้างธุรกิจระดับพลิกโฉมอุตสาหกรรมและร่ำรวยไปกับมันได้

ที่นี้ อยากรวย มุ่งมั่น ดีลเก่ง คิดไม่เหมือนชาวบ้าน มันพอรึยัง คำตอบคือไม่ เพราะคุณมีลักษณะพวกนี้แล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือคุณต้องบ้างานพอควรเลยแหละ บ้าระดับที่พร้อมจะทำความสัมพันธ์กับคนรอบๆ ตัวพังเลย เพราะในโลกนี้ อย่าคิดว่าคุณคิดไม่เหมือนชาวบ้านคนเดียว คนเลเวลเดียวกับคุณมันมีเต็มไปหมด และในทุกอย่างที่เท่าๆ กัน บางทีมันไปวัดกันที่คุณทุ่มเทกับงานแค่ไหน

โอเค คุณอยากรวยแล้ว คุณมุ่งมั่นก็แล้ว คุณดีลเก่งและคิดไม่เหมือนชาวบ้าน แถมยังบ้างานอีก เป็นมหาเศรษฐีได้รึยัง? คำตอบคือยังห่างไกล เพราะมีอย่างที่ว่ามาทั้งหมด เอาจริงๆ คุณอาจเป็นได้แค่ลูกจ้างด้วยซ้ำ คุณจะเป็นนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการไม่ได้เลยถ้าคุณไม่กล้าเสี่ยงอันนี้ซีเรียสจริงจัง ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับความเสี่ยงได้ทั้งหมด แม้แต่คนที่มีทุนมหาศาลในมือ บางคนไม่เคยเสี่ยงก็กลัวความเสี่ยงด้วยซ้ำ ซึ่งขาดความกล้าได้กล้าเสียไปแล้ว คุณเริ่มธุรกิจที่ทำให้คุณเป็นมหาเศรษฐีไม่ได้หรอก

ณ ตรงนี้คุณอยากรวย มุ่งมั่น ดีลเก่ง คิดแหวกแนว ทุ่มเทกับงาน ก็แล้ว รับความเสี่ยงก็ได้ แต่สิ่งที่จะทำให้คุณไปได้ดีในการทำธุรกิจคือได้ คือคุณต้องชอบแข่งด้วย ซึ่งคิดง่ายๆ เลยก็ได้ ถ้าคุณเท่ากันทุกอย่างหมด คนหนึ่งทำแล้วเบื่อ คนหนึ่งทำแล้วสนุก ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าสุดท้ายคนหลังมันจะพัฒนาไปมากกว่าคนแรก ฉันใดก็ฉันนั้นเอง ในโลกธุรกิจคุณต้องแข่งขัน มันเป็นเรื่องชีวิตประจำวันที่คุณต้องไม่มองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ จะบอกอ่อนแอก็แพ้ไปก็ได้ แต่ความเป็นจริงคือในงานที่คุณต้องทุ่มเท ต้องเสี่ยง และถ้าคุณไม่สนุกกับมัน มันจะทำลายคุณในที่สุด และก็ไม่ใช่ทุกคนในโลกแน่ๆ ที่จะสนุกกับโลกแบบนี้

เอ้า อยากรวย มุ่งมั่น ดีลเก่ง คิดแปลก ทุ่มเท พร้อมเสี่ยง ชอบแข่ง มันพอรึยัง? มันอาจขาดอีกนิดเดียว และเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยากด้วยมันคือการที่คุณต้องมีสัญชาตญาณดีคือความสามารถในการตัดสินใจอย่างถูกตั้งแบบไม่มีเหตุผล อันนี้อาจฟังดูไม่แฟร์และไม่มีคำอธิบาย แต่มันเป็นความเป็นจริงที่ว่าในบรรดาคนที่คุณลักษณะพร้อมทุกอย่าง บางทีสิ่งที่กำหนดว่าคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จ อีกคนจะล้มเหลว มันไม่ใช่อะไรเลยแต่เป็นการตัดสินใจแค่ครั้งเดียวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และมันก็ไม่มีคำอธิบายอะไรด้วยว่าทำไมคนหนึ่งถึงตัดสินใจถูกหรือผิด นอกจากการบอกว่าสัญชาตญาณคนหนึ่งดีอีกคนไม่ดี

แน่นอน อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็คงรู้ว่า จริงๆ การจะไปถึงขั้นมหาเศรษฐีมันไม่ใช่ง่าย เพราะแม้คุณลักษณะจะพร้อมหมด ตัดสินใจผิดรอบเดียวก็ทำทุกอย่างพังดื้อๆ ได้ ดังนั้นคนจะไปถึงตรงนั้นมันจะบอกว่าต้องพึ่งดวงด้วยก็ไม่ผิด แต่จะบอกว่ามีแต่ดวงก็คงไม่ใช่เช่นกัน เพราะปราศจากลักษณะที่ว่ามาทั้งหมด โอกาสในการขยายทรัพย์สินเป็นเท่าทวีคูณมันก็เป็นไปได้ยาก

และสุดท้ายถ้าเราจะบอกว่าคนรวยได้เพราะรวยอยู่แล้วป่านนี้คนถูกหวยคงเป็นมหาเศรษฐีกันไปหมดแล้วล่ะครับ

อ้างอิง