The Wheel of Time (วงล้อแห่งกาลเวลา) ซีรีส์แฟนตาซีกับความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่ลงตัว

The Wheel of Time เป็นซีรีส์แฟนตาซีที่สร้างจากนวนิยายชุด ความยาว 14 เล่ม เล่าเรื่องราวของผู้ใช้พลังเวทที่พยายามปกป้องโลกด้วยการตามหามังกรที่กลับมาเกิดใหม่ ซึ่งการตามหาที่ว่านำพาให้หนึ่งในผู้หญิงเจ้าของพลังเวทแก่กล้าได้พบกับกลุ่มหนุ่มสาวจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หนึ่งในเด็กกลุ่มนี้คือ ‘มังกรจุติ’ ที่เธอตามหา และเธอต้องทำให้บุคคลนั้นค้นหาและใช้พลังที่ซ่อนอยู่ให้ได้ และให้ถูกต้องเหมาะสม เป็นการเล่าถึงการต่อสู้ของแสงสว่างกับความมืดที่เต็มไปด้วยตัวละครและความสัมพันธ์อันซับซ้อน น่าติดตาม

“นักแสดงเราควรเหมือนกับอเมริกาในอีกไม่กี่ร้อยปีข้างหน้า เป็นส่วนผสมที่สวยงามของคนขาว น้ำตาล ดำ และทุกเฉดสีที่เป็นได้”

คำพูดข้างต้นเป็นสิ่งที่ เรฟ จัดกินส์ (Rafe Judkins) ผู้สร้างซีรีส์ ‘The Wheel of Time’ พูดไว้เมื่อปี 2018 ก่อนที่แฟนๆ นิยายจะได้เห็นซีรีส์เต็มๆ เมื่อซีซันแรกออกฉายในปี 2021 ซึ่งเขาก็นำความหลากหลายทางชาติพันธุ์มาใส่ลงในโชว์ได้ตามที่พูดไว้จริงๆ และจนถึงตอนนี้ ที่ซีซันที่ 2 กำลังแพร่ภาพ เราก็อาจจะยังพูดได้ว่านี่คือคอนเทนต์ที่โอบรับความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของนักแสดงได้ดีที่สุด และใช้ประโยชน์จากการเป็นผลงานแนวแฟนตาซี -ที่ไม่ยึดโยงกับความจริง- ได้อย่างเต็มที่ด้วย

The Wheel of Time  Season 2 ที่เพิ่งเริ่มสตรีมเมื่อไม่นานมานี้ เล่าเรื่องต่อจากท้ายภาคแรก โดยเว้นระยะไว้ 2 ปี เล่าเรื่องราวเมื่อ มอเรน หนึ่งในผู้ใช้พลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด สูญเสียพลังทั้งหมดไปหลังต้องเผชิญหน้ากับสมุนของจอมมาร ทำให้เธอต้องทำภารกิจค้นหา ‘มังกรจุติ’ ต่อโดยไม่อาศัยเวทมนตร์ใดๆ ช่วย ขณะที่ เด็กหนุ่มเด็กสาวที่เธอรวบรวมมาทำภารกิจไปด้วยกันก็ประสบเหตุให้ต้องกระจัดกระจายหนีหายกันไปคนละทาง ซึ่งก็ยิ่งทำให้การรวบรวมกำลังเพื่อปกป้องโลกเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น

ซีรีส์ซีซันล่าสุดนี้กำกับโดยผู้กำกับ 2 คน และหนึ่งในนั้นคือผู้กำกับหญิงโมร็อกกัน-อเมริกัน ซานา ฮัมรี (Sanaa Hamri) ที่เน้นย้ำว่าผลงานชิ้นนี้ต้องนำเสนอความหลากหลายทางชาติพันธุ์และพลังของผู้หญิงอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง คือต้องฉายภาพกลุ่มคน กลุ่มวัฒนธรรมที่หลากหลาย ผ่านตัวละครหลายสีผิว และมีตัวละครหญิงที่เข้มแข็ง ขณะเดียวกัน ก็นำเสนอว่าผู้ชายที่มีพลังเวทหรือพลังเหนือมนุษย์นั้น ไม่ใช่สิ่งที่น่าปรารถนาจะเป็น กลับกัน ยังอาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นด้วย

แต่ตัวละครมากมายในภาพจำของนักอ่านหลายคนไม่ได้หลากหลายอย่างภาพปัจจุบันที่เราเห็นจากเวอร์ชันซีรีส์ เป็นเหตุให้แฟนๆ หนังสือบางส่วนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยที่ตัวละครที่พวกเขาคุ้นเคยจะถูกแสดงโดยนักแสดงหลากหลายเชื้อชาติแบบนี้ เมื่อครั้งที่มีการประกาศจะสร้างเวอร์ชันคนแสดง แต่เมื่อพิจารณากันจริงๆ จะพบว่าบทบรรยายถึงแต่ละตัวละครในงานเขียนก็ไม่เคยกล่าวถึงสีผิว หรือวัฒนธรรมพื้นถิ่นเลยแม้แต่น้อย ทำให้ผู้สร้างสามารถเลือกนักแสดงให้เป็นใครก็ได้

ซีรีส์ ‘Game of Thrones’ และแฟรนไชส์หนัง ‘Lord of the Rings’ ถูกยกมาเป็นตัวอย่างอยู่บ่อยครั้ง เมื่อต้องพูดถึงคอนเทนต์แฟนตาซี ‘ขาวจัด’ หรือคอนเทนต์ที่มีแต่ตัวละครผิวขาวเป็นหลัก ซึ่งแม้ว่า Game of Thrones จะมีตัวละครผิวสีบ้าง ก็เป็นผิวสีที่ค่อนไปทางขาว หรือไม่เช่นนั้น ตัวละครผิวดำที่มีก็เป็นตัวละครทาส ซึ่งก็ยิ่งเน้นย้ำให้เห็นปัญหาของการนำเสนอ รวมถึงการตีความบทและแคสต์นักแสดงโดยรวมด้วย

อาจารย์เชอร์รี วิลเลียมส์ (Sherri Williams) จาก American University กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ผลงานพีเรียดหรือโปรดักชันที่มีรากฐานจากยุโรปยุคกลาง มักไม่นำเสนอตัวละครผิวสี ซึ่งประเภทคอนเทนต์เดียวกันนี้สามารถจินตนาการสิ่งเกินจริงอย่างมนุษย์หมาป่าได้ แต่กลับยอมไม่จินตนาการว่าคนเรามีผิวได้หลากหลายสี โดยการละเลยที่จะนำเสนอเช่นนี้มีมาจนเป็นปกติในทุกยุคทุกสมัย

แม้ว่าคอนเทนต์ในยุคหลังๆ อย่าง ‘The Witcher’ ‘His Dark Materials’ และ ‘Shadow and Bone’ จะมีตัวละครผิวสีบ้าง แต่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเปิดกว้างและถูกชูเป็นจุดเด่น ซึ่งก็ยิ่งทำให้การมาถึงของโปรเจกต์อย่าง The Wheel of Time และการคัดเลือกนักแสดงของผู้สร้างถูกจับตามากยิ่งขึ้น เปิดมิติใหม่ของความหลากหลายอย่างแท้จริง ถือว่าเป็นการ ‘เบิกทาง’ ที่ดีสำหรับการทำคอนเทนต์ฟอร์มยักษ์ในยุคที่ความหลากหลายและความแตกต่างควรจะถูกมองเป็นสิ่งสวยงาม

อ้างอิง:

Director Sanaa Hamri Explores Empowerment and Diversity Through ‘The Wheel of Time’ New Season https://www.news18.com/entertainment/webseries/director-sanaa-hamri-explores-empowerment-and-diversity-through-the-wheel-of-time-new-season-8558569.html

Amazon’s The Wheel Of Time Is The Diverse Fantasy Series We’ve Been Waiting For https://www.refinery29.com/en-gb/amazon-the-wheel-of-time
ติดตาม BrandThink Cinema ช่องทางอื่นๆ ได้ที่: https://linktr.ee/brandthinkcinema