อ่อนไหวทางอารมณ์อย่างรุนแรง เมื่อต้องเจอกับการปฏิเสธ คุณอาจกำลังอยู่ใน ‘ภาวะ RSD’
คุณเป็นหรือเปล่า? รู้สึกปวดใจหนักมากเวลาโดนเพื่อนปฏิเสธนัด หรือเสียใจแทบรับไม่ไหวเวลาคนรักไม่รับโทรศัพท์ จนความเจ็บปวดทางอารมณ์เหล่านั้นทำให้คุณกลัวที่จะสนิทหรือผูกพันลึกซึ้งกับใคร หรือเวลาทำงานถ้าพลาดนิดหน่อยจนโดนติ คุณก็เก็บมาคิดโทษตัวเองอย่างหนักจนไม่เป็นอันทำอะไร
ถ้าคุณกำลังเผชิญกับสิ่งเหล่านั้น เป็นไปได้ว่าคุณอาจกำลังตกอยู่ในภาวะ ‘RSD’
RSD ย่อมาจาก Rejection sensitive dysphoria หรือภาวะที่รู้สึกอ่อนไหวทางอารมณ์อย่างรุนแรง และมีความเจ็บปวดทางจิตใจอย่างมากเมื่อต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธ วิจารณ์ หรือกระทั่งการหยอกล้อ ว่ากันว่าภาวะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโรคสมาธิสั้น (Attention-deficit hyperactivity disorder: ADHD)
ด้วยความที่ภาวะ RSD ยังใหม่อยู่ในทางจิตเวชศาสตร์ ภาวะนี้จึงยังไม่ถูกรวมเข้ากับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ และยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบจากโรคสมาธิสั้น?
“ภาวะอ่อนไหวทางอารมณ์ต่อการถูกปฏิเสธ (RSD) ปรากฏว่าดูจะเป็นสภาวะทางอารมณ์เดียวกันกับที่พบได้ในผู้ป่วยสมาธิสั้น” วิลเลียม ดับเบิลยู. ดอดสัน (William W. Dodson, MD) จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคสมาธิสั้น กล่าวในนิตยสาร Attention ปี 2016 “การวิจัยยุคแรกเริ่มเกี่ยวกับโรคสมาธิสั้นมักจงใจมองข้ามภาวะอ่อนไหวต่อการถูกปฏิเสธ เพราะมันไม่ได้ถูกสังเกตเห็นเสมอไป และมักซุกซ่อนอยู่ในผู้เป็นสมาธิสั้น อีกทั้งเป็นการยากที่จะชั่งตวงวัดอารมณ์ของการถูกปฏิเสธ”
มีงานวิจัยในปี 2019 ที่ค้นพบในเด็กอายุระหว่าง 10-15 ปี ซึ่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น มีอาการอ่อนไหวสูงต่อการต้องรับฟังความคิดเห็นในเกมจำลองเสมือน ซึ่งอาจอธิบายได้ถึงสาเหตุว่าทำไมผู้เป็นสมาธิสั้นถึงมีความผิดปกติในการเข้าสังคม
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน ภาวะอ่อนไหวทางอารมณ์ต่อการถูกปฏิเสธไม่ได้ถูกสรุปว่าเกี่ยวข้องกับโรคสมาธิสั้นเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเชื่อมโยงไปถึงภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล
อาการเป็นอย่างไรกันแน่?
กับผู้ที่มีภาวะอ่อนไหวทางอารมณ์ต่อการถูกปฏิเสธ ดอดสันบอกว่า เมื่อผู้ป่วยถูกปฏิเสธ วิจารณ์ หยอกล้อ หรือกลายเป็นความน่าผิดหวังต่อบุคคลสำคัญในชีวิตของพวกเขา หรือผิดหวังในตัวเองเมื่อไม่สามารถบรรลุเป้าหมายหรือมาตรฐานที่ตัวเองตั้งไว้ได้ ผู้ป่วยจะเผชิญความอ่อนไหวทางอารมณ์อย่างรุนแรงและความเจ็บปวดจะถูกกระตุ้น ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นจริงหรือผู้ป่วยคิดไปเองก็ตาม
คนที่ตกอยู่ในภาวะดังกล่าว ผลลัพธ์จึงอาจกลายเป็นคนที่ชอบเอาใจคนอื่น และละทิ้งหรือละเลิกเป้าหมายของตัวเองเพราะกลัวความล้มเหลว
“วิธีทั่วไปในการปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวดของผู้ที่ตกอยู่ในภาวะ RSD คือการยอมแพ้ที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เว้นแต่จะมั่นใจได้ว่าสิ่งนั้นจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและได้ดั่งใจจริงๆ” ดอดสันกล่าว “ความคิดของการพยายามแล้วล้มเหลวนั้นเจ็บปวดเกินกว่าที่จะยอมเสี่ยง พวกเขาเลยไม่ยอมไปเดท ไม่กล้าสมัครงาน ไม่กล้าพูดในที่ประชุม หรือแสดงความคิดเห็นและความต้องการของตนให้ใครรู้”
สรุปอาการที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่ตกอยู่ในภาวะ RSD คือ
- หมกมุ่นหรือคิดถึงประสบการณ์เชิงลบบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ที่ได้รับรู้การปฏิเสธที่เกิดขึ้นจริง
- อาจรับรู้ถึงการถูกปฏิเสธแม้มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง
- มองการถูกปฏิเสธเพียงเล็กน้อย เป็นความหายนะ
- กลัวการถูกปฏิเสธอย่างเรื้อรัง
- มักเข้าใจการวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ผิดไปเป็นเชิงลบ
- อาจเป็นพวกยึดติดกับความสมบูรณ์แบบและติดนิสัยเอาใจคนอื่น
ในตอนนี้ RSD ยังไม่ถูกนับว่าเป็นอาการป่วยหรือข้อวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ แต่นักบำบัดอาจระบุได้ว่าคนคนหนึ่งมีภาวะนี้หรือไม่ โดยพิจารณาจากการอธิบายถึงอาการที่เกิดขึ้น และนักบำบัดอาจวินิจฉัยภาวะนี้พ่วงกับภาวะอื่นๆ และงานวิจัยยังไม่อาจหาข้อสรุปได้ว่า ทำไมภาวะนี้ถึงเชื่อมโยงกับผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นมากกว่า แต่สาเหตุอาจเนื่องมาจากปัญหาการประมวลผลและควบคุมอารมณ์ด้วย
หากคุณสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคสมาธิสั้น หรือคิดว่าตัวเองมีภาวะ RSD ร่วมด้วย เราขอแนะนำให้คุณรับความช่วยเหลือ พูดคุยกับจิตแพทย์ นักบำบัด เพื่อเข้ารับการรักษาและหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อ้างอิง
- MedicalNewsToday. What to know about ADHD and rejection sensitive dysphoria. http://bit.ly/3UHhbq0
- CHADD. Rejection Can Be More Painful with ADHD. http://bit.ly/3UIKdFM