2 Min

เลิฟซีนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ‘Intimacy Coordinator’ กับการดีไซน์ ‘บทรัก’ ใน Red, White & Royal Blue

‘Red, White & Royal Blue’ เรื่องนี้เล่าถึงลูกชายประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากับเจ้าชายอังกฤษที่มาตกหลุมรักกัน

2 Min
419 Views
21 Aug 2023

ฮอตฮิตติดลมบนและทำเอาคนดูหัวใจฟูกันไปทั่ว สำหรับหนังที่สร้างจากนิยายโรแมนติกชื่อเดียวกันอย่าง ‘Red, White & Royal Blue’ โดยเรื่องนี้เล่าถึงลูกชายประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากับเจ้าชายอังกฤษที่มาตกหลุมรักกัน แต่เรื่องราวรักๆ ก็ประกอบด้วยรายละเอียดมากมาย และการจะนำเสนอภาพความรักของคนทั้งสองก็ต้องคิดมาอย่างรอบคอบที่สุด

เพราะนี่ไม่ใช่แค่การบอกเล่าชีวิตของตัวละครในเรื่องเท่านั้น แต่ยังเป็นโมเมนต์สำคัญที่ฮอลลีวูดนำเสนอภาพความรักระหว่างตัวเอกผู้ชายกับผู้ชายในคอนเทนต์ที่รับชมได้ทั่วไป และ ‘แมส’ มากๆ ด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นโจทย์สำคัญของตำแหน่ง Intimacy Coordinator หรือ ผู้ประสานงานฉากความสัมพันธ์ใกล้ชิด อย่าง ร็อบบี เทย์เลอร์ ฮันต์ (Robbie Taylor Hunt) ที่ต้องทำให้ตัวละครแสดงออกได้ตั้งแต่ ‘สุดเหวี่ยง’ และสนุกกับชีวิตมากๆ ไปจนถึงเปราะบางและเปลือยเปล่าในความรู้สึกต่อกันอย่างที่สุดด้วย

ไม่นานมานี้ คนดูมีตัวเลือกการรับชมคอนเทนต์เควียร์ที่ฉีกขนบจากการบอกเล่าเรื่องราวแบบเดิมๆ จากผลงานอย่าง ‘Bros, Fire Island’ และ ‘My Policeman’ โดยที่ก่อนหน้านี้ก็มีผลงานคุณภาพอย่าง ‘The L Word’ และ ‘Queer as Folk’ ให้ได้รับชม จากยุคสู่ยุค ความสำเร็จหนึ่งสู่ความสำเร็จหนึ่ง ประเด็นการนำเสนอฉากเซ็กส์ของตัวละคร LGBTQ+ ยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าควรออกมาแบบไหน นำเสนออะไรได้บ้าง และมันจะชี้นำความรับรู้ของสังคมไปในทางไหน เพราะที่ผ่านมา ‘เซ็กส์ของเควียร์’ ถูกกำกับ หรือมองผ่าน ‘เลนส์’ ของผู้กำกับที่ไม่เควียร์มาโดยตลอด

สุดท้ายแล้ว อะไรคือฉากความสัมพันธ์ถึงเนื้อถึงตัวที่ซื่อตรงต่อความเป็นจริง และนำเสนอความหลากหลายของเควียร์ได้อย่างเหมาะสมกันแน่?

สำหรับนักแสดงจาก My Policeman อย่าง แฮร์รี สไตลส์ (Harry Styles) เคยให้สัมภาษณ์กับ Rolling Stone ว่า การนำเสนอฉากรักเกย์ส่วนใหญ่มักให้ตัวละครชายทั้งสอง ‘พุ่งเข้าใส่กัน’ มากกว่า ไม่ค่อยเผยให้เห็นความนุ่มนวลในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ขณะที่นักแสดงจากอีกโปรเจกต์ ลุค แม็กฟาร์เลน (Luke Macfarlane) จากเรื่อง ‘Bros’ กลับเห็นว่าไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไรที่เซ็กส์ระหว่างเกย์ไม่ดูลึกซึ้ง มีความหมาย เพราะเซ็กส์ที่แท้จริงก็ไม่ได้เป็นไปในทางใดทางหนึ่งแบบเดียว และการพยายามจะ ‘เรียบร้อย’ และสื่อสารเซ็กส์ออกมาในทางที่ไม่หวือหวา ก็เป็นเพราะว่าผู้สร้างกลัวจะไปกระทบความรู้สึกคนดู หรือ ‘นอร์ม’ ของสังคมมากกว่า

ร็อบบี เทย์เลอร์ ฮันต์ บอกเล่าถึงการออกแบบฉากถึงเนื้อถึงตัวในเรื่อง Red, White & Royal Blue ว่า เซ็กส์เป็นเรื่องการแสดงถึงตัวตนของตัวละครมากเสียกว่าจะแสดงถึงความสัมพันธ์ด้วยซ้ำ ทำให้การถ่ายฉากเซ็กส์ระหว่างตัวละครเควียร์ยิ่งยากขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ เขาและผู้กำกับ แมทธิว โลเปซ (Matthew Lopez) ต้องการให้ฉากเซ็กส์หรือฉากใกล้ชิดแบบนี้มีความหมาย รวมถึงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนและจำเป็นต่อเนื้อเรื่องจริงๆ โดยที่ในแต่ละครั้งต้องปรับเปลี่ยนไปตามไดนามิกของตัวละครทั้งคู่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้คนดูเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนาไปเรื่อยๆ มากขึ้นด้วยเช่นกัน

และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ การที่ฉากรักเป็นสิ่งจำเป็นต่อเรื่องจริงๆ นั้น จะยิ่งทำให้นักแสดงรู้สึกสบายใจและปลอดภัยพอที่จะเล่น ซึ่งนี่ไม่เพียงแต่จะแสดงว่าผู้สร้างใส่ใจและเคารพนักแสดงเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความใส่ใจและเคารพต่อบทประพันธ์และคนดูอีกด้วย ถึงเวลาแล้วหรือยังนะ ที่ผู้สร้างคอนเทนต์ทั่วโลกต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองต่อ ‘ฉากล่อแหลม’ หรือ ‘ฉากหวือหวา’ เหล่านี้?

Red, White & Royal Blue สตรีมทาง Prime Video

อ้างอิง:
‘Red, White & Royal Blue’ Intimacy Coordinator on Why Representations of Queer Intimacy Remain Complicated for Audiences https://www.hollywoodreporter.com/movies/movie-features/red-white-and-royal-blue-intimacy-coordinator-queer-sex-interview-1235560855/

#BrandThinkCinema