‘แพนด้าแดง’ ถึงน้องน่ารักแต่น้องไม่น่ารอด อนาคตเสี่ยงสูญพันธุ์เพราะป่าหาย
ในธรรมชาติ ‘แพนด้าแดง’ เป็นสัตว์อีกชนิดที่ถูกกำหนดว่ามีสถานะ ‘เสี่ยงสูญพันธุ์’ มาตั้งแต่ปี 2008 ประเมินกันตอนนั้นว่าคงเหลืออยู่ในป่าไม่ถึง 10,000 ตัว กระทั่งผ่านมาถึงปัจจุบันก็ดูเหมือนจำนวนจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเลย ซ้ำยังส่อแววไปในทางลดลงเสียมากกว่า
โดย Wild Welfare องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าของสหราชอาณาจักร อ้างว่า ปัจจุบันแพนด้าแดงน่าจะเหลืออยู่ในป่าแค่ 2,500 ตัว แต่ข้อมูลตรงนี้ไม่มีอ้างอิงว่ามาจากการศึกษาหรืองานวิจัยใดๆ แนบท้าย จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นตัวเลขที่ถูกต้องหรือไม่
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า แม้เจ้าสัตว์น่ารักชนิดนี้จะเป็นที่รู้จักกันมากจากคลิปไวรัลน่ารักๆ หรือจากคาแรคเตอร์ใน ‘Turning Red’ น้องสายว้ากใน ‘Aggressive Retsuko’ ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ แต่เรื่องราวของน้องในธรรมชาติกลับถูกละเลยอย่างคาดไม่ถึง
วัดได้จากเอกสารงานวิจัยเกี่ยวกับสถานะและจำนวนประชากรของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้ที่มีอยู่น้อยชิ้นเอามากๆ นับรวมได้ทั้งหมด 5 ชิ้นเท่านั้นเอง!
เท่าที่ทราบ ตอนนี้แพนด้าแดงในธรรมชาติ อาศัยอยู่ในป่า 5 ประเทศ ประกอบไปด้วย เนปาล อินเดีย ภูฏาน เมียนมา และจีน
ซึ่งก็มีแต่ประเทศเนปาลเท่านั้นที่มีงานวิจัยมากหน่อย คือทำมาแล้วทั้งสิ้น 2 ชิ้น อ้างอิงได้ว่าเหลือน้องอยู่ในป่าราวๆ 500-1,000 ตัว
ในแง่ของการอนุรักษ์สัตว์ให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์ ยิ่งข้อมูลมีน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้งานอนุรักษ์เป็นไปได้ยากขึ้นเท่านั้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร ทำให้ไม่สามารถวางมาตรการหรือออกกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาที่มีอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม หากลองวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง และสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายต้องเผชิญกับการสูญพันธุ์ เราก็สามารถคาดเดาอนาคตของแพนด้าแดงได้ไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ
ซึ่งเหตุที่ทำให้ ‘เชื่อว่า’ จำนวนแพนด้าแดงกำลังลดลงและมีโอกาสสูญพันธุ์ เป็นเพราะอัตราการสูญเสียป่าในประเทศที่มีแพนด้าแดงยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเนปาล อินเดีย ภูฏาน มาจากโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของภาครัฐ อย่างเช่นการตัดถนน รวมถึงความยากจนของผู้คนทำให้เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่า
ในเมียนมา ป่าหายไปเพราะการค้าไม้เถื่อน และการทำเหมืองผิดกฎหมาย ซึ่งแต่เดิมเมียนมาขึ้นชื่อว่ามีระบบงานอนุรักษ์ค่อนข้างอ่อนแออยู่แล้ว พอเกิดการรัฐประหารก็ยิ่งแย่ลงไปอีก อ้างอิงได้จากภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกภาพป่าแหว่งได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบปีที่ผ่านมา
ส่วนในประเทศจีน นอกจากเรื่องการเสียผืนป่าแล้ว แพนด้าแดงยังคงถูกล่า เพื่อนำหางไปทำเป็นหมวก ซึ่งเป็นที่นิยมมากในอดีต ถึงปัจจุบันแม้ความต้องการจะไม่เปรี้ยงปร้างแล้วก็ตาม แต่ยังพบการเปิดออเดอร์หมวกจากหางแพนด้าแดงอยู่ในมณฑลยูนนาน
และจากข้อมูลการศึกษาการกระจายของแพนด้าแดงครั้งล่าสุดในประเทศเนปาล พบว่า ถิ่นที่อยู่อาศัยของแพนด้าแดงถูกจำกัดลง พวกมันกำลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านการโยกย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย
ด้วยนิสัยเป็นสัตว์สันโดษ แพนด้าแดงที่โตเต็มวัย จะแยกตัวมาสร้างอาณาเขตของตัวเอง แต่เมื่อป่าหายไป พวกมันจำเป็นต้องเลือก ระหว่างเสี่ยงไปอยู่ในดงเสือดาวที่พร้อมจะล่าพวกมันเป็นอาหารเมื่อหิว หรืออยู่ในพื้นที่ทับซ้อนกับคนที่เสี่ยงถูกล่าเพื่อผลประโยชน์ เสี่ยงป่วยเพราะสัตว์เลี้ยง หรือเสี่ยงอดตายเพราะไม่มีอาหาร
ชะตากรรมของแพนด้าแดงดูเหมือนจะเหลือเพียงสองทาง หากเราไม่ช่วยกันรักษาป่า ซึ่งเป็นบ้านของพวกมันเอาไว้
จากข้อมูลที่มีก็คงจะพอชี้ได้ว่า อนาคตของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ดูจะมืดมนเสียเหลือเกิน
อ้างอิง
- IUCN Red List, Red Panda, https://shorturl.asia/1ly2I
- Science Daily, Red pandas face a fractured future, https://shorturl.asia/AjVLk
- Wild Welfare, Red Pandas: Endangered and Unique, https://shorturl.asia/UT0cF
- Our Endangered World, Red Panda: Why Is it Endangered? https://shorturl.asia/O0Ku2