4 Min

ทำความรู้จัก RATCH อาณาจักรพลังงานและสาธารณูปโภคพื้นฐาน พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยหลัก ESG

4 Min
1522 Views
03 May 2022

พลังงานเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวัน อย่างการอาศัยอยู่ในบ้านก็ต้องใช้พลังงานให้แสงสว่าง รวมถึงการใช้ไฟฟ้าที่กระจายไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน หรือการออกนอกบ้านก็ต้องใช้ในการเดินทาง ระบบการขนส่งต่างๆ รวมถึงการขับเคลื่อนการทำงานในสำนักงานตลอดจนกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมอุปโภค บริโภค ที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

ผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานแห่งหนึ่งได้ผลิตไฟฟ้าควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน บริษัทนั้น คือ บมจ.ราช กรุ๊ป (‘RATCH’ หรือ ‘บริษัทฯ’) ซึ่งประกอบธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ โดยปัจจุบัน RATCH ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับภาครัฐและเอกชน เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของ RATCH และลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าในต่างประเทศ รวมถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ด้วยหลัก ESG

ล่าสุด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เดินหน้าสนับสนุนการเพิ่มทุนของ RATCH หลังคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 45 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 11,250 ล้านบาท ตามแผนการเพิ่มทุนของ RATCH ที่จะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 14,500 ล้านบาท เป็น 22,192 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 769,230,770 หุ้น และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้ RATCH มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering หรือ PPO) ซึ่งประโยชน์ที่ RATCH จะได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯ และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั่วไป รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อการเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน

สำหรับนักลงทุนหรือประชาชนทั่วไปที่ติดตามความเคลื่อนไหวและศึกษาข้อมูลของบริษัทฯ จะเห็นว่า RATCH มีธุรกิจอยู่ในมือ 4 ธุรกิจ ดังนี้

1. ธุรกิจผลิตไฟฟ้า 

เป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ ที่มีการดำเนินงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย 1) กลุ่มโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก ได้แก่ โรงไฟฟ้าราชบุรี, โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์, โรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กราชบุรีเวอลด์, โรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กนวนคร และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) (SCG) และ 2) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โซล่า เพาเวอร์ โคราช 3, 4 และ 7, โรงไฟฟ้าพลังงานลมห้วยบง 2 และ 3 และโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลสงขลา ไบโอแมส นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโรงงานไฟฟ้าในต่างประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม

2. ธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน

RATCH ดำเนินธุรกิจด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ น้ำประปา รถไฟฟ้า โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนที่มีสูงขึ้น และรองรับการคมนาคมให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว รวมถึงโครงข่ายสายใยแก้วนำแสงเพื่อการติดต่อสื่อสาร

3. ธุรกิจเกี่ยวเนื่องไฟฟ้าและพลังงาน

RATCH ให้ความสำคัญกับธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ในห่วงโซ่การจัดหาวัตถุดิบ รวมไปถึงปลายทางในการบริการงานเดินเครื่อง และการซ่อมบำรุงเครื่องจักรโรงไฟฟ้า และซ่อมกังหันก๊าซ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการลงทุนในนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องผ่านทาง INNOPOWER ที่เป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัทในกลุ่ม กฟผ. ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการไม่หยุดนิ่งพัฒนาธุรกิจให้เป็นไปตามกระบวนการทำงาน ในด้านการจัดการพลังงานและการบริการต่างๆ และพร้อมดำเนินธุรกิจเพื่อให้เป็นไปตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า รวมถึงความพร้อมสำหรับเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด

4. ธุรกิจบริการสุขภาพ

RATCH ได้เข้าลงทุนในโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากมองเห็นธุรกิจบริการสุขภาพมีศักยภาพและเติบโตได้ในระยะยาว ทั้งจากสภาวะสังคมผู้สูงอายุและพฤติกรรมของคนที่หันมาใส่ใจด้านสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ เช่น ไวรัสโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งการเติบโตที่สำคัญ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเห็นว่าโมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง ให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างมั่นคง เนื่องด้วยเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับความจำเป็นขั้นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต และที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป ซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในการจัดการความเสี่ยงและบริหารผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ

เมื่อมองไปที่ธุรกิจของ RATCH มีความกว้างขวางซึ่งเป็นอาณาจักรด้านพลังงาน ที่มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจด้วยผู้บริหารที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ โดยมีทิศทางการวางแผนธุรกิจทั้ง 4 ธุรกิจที่ชัดเจน รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากการที่เป็นเจ้าของธุรกิจโรงไฟฟ้าหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้กลยุทธ์ 3-G: Growth, Green, Generate ดังนี้

  • G-1 Growth มุ่งต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มกิจการในอนาคต 
  • G-2 Green สนับสนุนพลังงานทดแทน และยกระดับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน 
  • G-3 Generate เพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจเพื่อความเป็นเลิศขององค์กร 

ซึ่งกลยุทธ์ทั้ง 3-G จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและมีความพร้อมที่จะลงทุนพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกโอกาส

ทั้งนี้ RATCH ได้รับเครดิตการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย Moody’s Investors Service, S&P Global Ratings และ TRIS Rating ที่ระดับ Baa1, BBB และ AA+ ตามลำดับ และล่าสุด RATCH ได้รับรางวัล บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2564 กลุ่มทรัพยากร จัดโดยวารสารการเงินธนาคาร โดยพิจารณาจากบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการรวมยอดเยี่ยม

RATCH เป็นบริษัทที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด โดยมุ่งพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมโลก โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการใช้งานอย่างรู้คุณค่าและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำกิจกรรมต่างๆ 

นอกจากนั้น RATCH ยังเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่พร้อมเติบโตจากการลงทุนพัฒนาด้านพลังงานทั้งในและต่างประเทศ และมีความมั่นคง จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแน่นอนที่มากกว่า 9,000 เมกะวัตต์ และจากการสนับสนุนการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงการขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และธุรกิจอื่นๆ ซึ่งมีเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2568 คาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 10,000 เมกะวัตต์ โดยรวมกับการเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่ 15 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเดินหน้าเพิ่มมูลค่ากิจการให้ถึง 200,000 ล้านบาท และมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของบริษัทฯ 

ทั้งหมดนี้ นับว่า RATCH จะเป็นหุ้นพลังงานที่มีศักยภาพเติบโตสูงและจากกลุ่มผู้สนับสนุนธุรกิจพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายของพลังงานสู่ความยั่งยืนในอนาคต …