วิทยุทรานซิสเตอร์กลายเป็นคำค้นยอดนิยมอยู่พักหนึ่งในไทยเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แนะนำให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องน้ำท่วมและภัยพิบัติผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ โดยระบุว่านี่เป็นระบบที่เคยใช้กันเมื่อปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ และไฟฟ้าดับหมด
เรื่องนี้ ‘อนุชา บูรพชัยศรี’ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่านายกฯ ให้คำแนะนำเช่นนี้เพราะวิทยุเป็นสื่อที่ยังเข้าถึงประชาชนได้ ‘ดีที่สุด’ และยังเป็นที่นิยมของประชาชนทุกช่วงวัย
โฆษกประจำสำนักนายกฯ อ้างอิงผลสำรวจพฤติกรรมการรับฟังรายการวิทยุทั่วประเทศที่จัดทำโดยสำนักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งสำรวจผู้ฟัง 3,655 คน พบว่า 85.9 เปอร์เซ็นต์รับฟังรายการวิทยุจากคลื่นเอฟเอ็ม ขณะที่ 17.5 เปอร์เซ็นต์ ฟัง ‘วิทยุออนไลน์’ และอีก 11.2 เปอร์เซ็นต์ฟังคลื่นเอเอ็ม
นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงเพิ่มเติมถึงผลสำรวจของบริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับฟังวิทยุปี 2022 ของผู้ฟังวิทยุคลื่นหลักในระบบเอฟเอ็ม จำนวน 40 สถานี จากทุกช่องทางในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และข้อมูลการโฆษณาผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงคลื่นหลักในระบบเอฟเอ็ม ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 36 สถานี (เผยแพร่ข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2022) พบว่าผู้ฟังกลุ่มอายุ 40-59 ปี เป็นกลุ่มที่ฟังวิทยุมากที่สุดถึงกว่า 3.5 ล้านคน
รองลงมาคือ ผู้ฟังกลุ่มที่มีอายุ 20-29 ปี ฟังวิทยุกว่า 3.3 ล้านคน ขณะที่กลุ่มอายุ 60-71 ปี ฟังวิทยุสูงเกือบ 2 ล้านคน และกลุ่มที่มีอายุ 12-19 ปี ก็มีการฟังวิทยุถึงกว่า 800,000 คน ซึ่งจะเห็นได้ว่าคนที่ฟังวิทยุรวมกันมากที่สุดคือคนรุ่นคาบเกี่ยวระหว่าง Gen X และเบบี้บูมเมอร์
อย่างไรก็ดี ถ้าไปดูผลสำรวจความเห็น NIDA Poll ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกันยายน 2022 จะพบว่าการรับฟังวิทยุของคนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแตกต่างจากผลสำรวจทั่วประเทศของเดอะ นีลเส็นฯ อยู่บ้าง โดยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปที่พักอาศัยหรือมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,314 หน่วยตัวอย่าง เมื่อเดือนมิถุนายน 2022 พบว่าช่วงวัยที่คนฟังวิทยุมากที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 22-41 ปี (Gen Y) คิดเป็น 38.89 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
รองลงมาเป็นกลุ่มคนอายุ 12-21 ปี (Gen Z) อยู่ที่ 24.96 เปอร์เซ็นต์ ต่อจากนั้นจึงเป็นคนที่มีอายุ 42-57 ปี (Gen X) คิดเป็น 23.90 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยคนอายุระหว่าง 58-76 ปี (Gen Baby Boomer) คิดเป็น 12.10 เปอร์เซ็นต์ และสุดท้ายคือคนที่มีอายุ 77 ปีขึ้นไป (Gen Silent) คิดเป็น 0.15 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่รับฟังรายการวิทยุคิดเป็น 63.01 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม และการฟังวิทยุส่วนใหญ่ 71.38 เปอร์เซ็นต์เป็นการรับฟังผ่าน ‘โทรศัพท์มือถือ’ และรองลงมาถึงจะฟังจากเครื่องรับวิทยุ คิดเป็น 50.36 เปอร์เซ็นต์
อ้างอิง
- Daily News. รัฐบาลเฉลยสาเหตุที่ ‘บิ๊กตู่’ แนะใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ยันดีที่สุด–คนฟังอื้อ–มีทุกตำบล. https://bit.ly/3VfyvDF
- Nida Poll. พฤติกรรมการฟังของผู้ฟังวิทยุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร. https://bit.ly/3VfAec7