‘พร้อม’ แต่ไม่ท้อง อยากมีลูกทำยังไงได้บ้าง?

อยากมีลูกให้มีเมื่อพร้อม แต่ถ้าพร้อมแล้วไม่มีสักที จะต้องทำยังไง?

โรงพยาบาลพญาไทเปิดเผยว่า คู่แต่งงานจำนวน 40% ประสบปัญหามีบุตรยาก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็มีปัจจัยมาจากทั้งฝ่ายชายและหญิง

ตามสถิติระบุว่า ภาวะมีบุตรยากเกิดในฝ่ายชายและหญิงเท่าๆ กันคือ 40% ส่วนอีก 20% คือมีปัญหาทั้ง 2 ฝ่ายรวมกัน

ภาวะมีบุตรยากนั้นเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ตั้งแต่พันธุกรรม ระบบภูมิคุ้มกัน วิถีชีวิต ความเครียด

บางคนมีภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด (Premature Ovarian Insufficiency: POI) ไปจนถึงปัจจัยเรื่องอายุ โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่มีการผลิตไข่ที่น้อยลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น และสภาพสังคมในปัจจุบันก็ทำให้ช่วงอายุการแต่งงานเพิ่มขึ้นด้วย

แต่วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันนั้น สามารถช่วยเหลือคู่สมรสที่อยากมีบุตรได้หลากหลายวิธี เช่น

1. การฉีดน้ำเชื้อ (ICI หรือ IUI)

คือการนำเชื้อฝ่ายชายมาผ่านกระบวนการคัดเลือกตัวอสุจิที่ดี เคลื่อนไหวดี และรูปร่างที่ปกติมากที่สุดมาฉีดให้ฝ่ายหญิง โดยอาจจะฉีดเข้าที่ปากมดลูก หรือฉีดเข้าที่โพรงมดลูก หรือฉีดเข้าสู่ท่อนำรังไข่ก็ได้

2. การทำกิฟต์ (GIFT)

วิธีนี้จะนำเอาไข่สุกเต็มที่ และเชื้ออสุจิที่คัดเลือกแล้วไปฉีดเข้าในท่อนำไข่ ซึ่งเป็นที่ที่มีการปฏิสนธิตามธรรมชาติ วิธีการนี้เป็นการช่วยเหลือให้ไข่และตัวอสุจิได้มีการปฏิสนธิในบริเวณและเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นวิธีการทำกิฟต์จึงมีข้อแม้อยู่ว่าฝ่ายหญิงจะต้องมีท่อนำไข่ที่ปกติอยู่อย่างน้อย 1 ข้าง

3. การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF&ET)

นำเอาไข่สุกเต็มที่แล้วไปผสมกับเชื้ออสุจิในหลอดทดลอง หรือจานแก้วที่มีสารเลี้ยงตัวอ่อนอยู่ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิขึ้นในหลอดทดลอง หรือจานแก้วดังกล่าว หลังจากนั้น 48 ชั่วโมง จะเกิดเป็นตัวอ่อนขึ้น ก็นำตัวอ่อนนั้นคืนกลับเข้าโพรงมดลูก

4. การทำด้วยเทคนิคพิเศษ (ICSI, MESA, TESE)

เป็นการคัดเอาตัวอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด ผ่านด้วยวิธีการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์และฉีดเข้าไป เพื่อให้ผสมกับไข่แบบเจาะจงด้วยเข็มขนาดเล็ก พอผสมกันแล้วจะนำไปเลี้ยงในห้องปฏิบัติการด้วยน้ำยาเลี้ยงพิเศษ แล้วจึงฉีดกลับเข้ามดลูกต่อไป

5. การอุ้มบุญ

การให้หญิงคนอื่นตั้งครรภ์จากการปฏิสนธิภายนอกร่างกายแทนคู่สามีภรรยาที่ไม่สามารถมีลูกได้อาศัย อนุญาตให้ทำได้เฉพาะคู่สมรสคนไทยที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คู่สมรสที่เป็นชาวต่างชาติทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์ทำ หญิงที่รับอุ้มบุญต้องเป็นคนไทยเป็นญาติสายตรงกับคู่สามีภรรยา และต้องเป็นหญิงที่มีบุตรมาแล้วเท่านั้น

ทั้งนี้แม้จะมีวิทยาการช่วยเหลือ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึง การกระตุ้นการตั้งครรภ์ด้วยเทคนิคต่างๆ นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วอย่างน้อยหลายแสนบาท ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้หลายคนต้องเอามาพิจารณาเช่นกัน

แต่สิ่งสำคัญคือเงื่อนไขของการ ‘แต่งงาน’ และจดทะเบียนสมรสเพื่อเข้าถึงกระบวนการเหล่านี้ แต่อีกด้านหนึ่งไม่ใช่เฉพาะผู้ที่แต่งงานจดทะเบียนเท่านั้นที่พร้อมและต้องการมีลูก คู่รักหลายคู่ไม่ได้จดทะเบียน และกลุ่มคู่รักหลากหลายทางเพศไม่สามารถเข้าถึงการมีลูกได้เลยแม้ว่าจะมีความพร้อมทั้งด้านสังคมและกำลังทรัพย์ รวมไปถึงผู้ที่ไม่ได้แต่งงาน แต่ต้องการมีบุตรก็ไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการได้

ดังนั้น ท่ามกลางปัญหา ‘ท้องไม่พร้อม’ ที่มักถูกพูดถึง คู่สมรสและไม่ได้สมรสหลายคนก็กำลังเจอกับภาวะ ‘พร้อมแต่ไม่ท้อง’ อยู่เช่นกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็นว่าทำไมการทำแท้งปลอดภัยจึงควรเป็น “ทางเลือก” พร้อมติด #ท้องเลือกได้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือบอกเล่าประสบการณ์เพื่อให้สังคมได้เห็นแง่มุมที่หลากหลายเกี่ยวกับการทำแท้งได้ที่: https://www.brandthink.me/campaign/tongluekdai

🗨 วิธีร่วมแสดงความคิดเห็น

1. เข้าเว็บไซต์ BrandThink หน้าเเคมเปญ #ท้องเลือกได้: https://www.brandthink.me/campaign/tongluekdai

2. กด ‘JOIN CAMPAIGN’ เเละสมัครสมาชิกเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการทำแท้งเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเด็น “ทำไมการทำแท้งปลอดภัยจึงควรเป็นทางเลือก”

3.กด Publish!

อ้างอิง:

• โพสต์ทูเดย์. ระดับฮอร์โมน AMH วัดความเสี่ยงภาวะมีบุตรยาก. https://bit.ly/3g9WaiZ
• คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. การช่วยเหลือผู้มีบุตรยากโดยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์. https://bit.ly/3iYdwAX
• โรงพยาบาลพญาไท. อุ้มบุญ(surrogacy). https://bit.ly/34eTo9Y
• ไทยรัฐ. ฝันสลาย! สาวโสดอยากมีลูก หมดสิทธิ์ขอบริจาคสเปิร์ม มัดมือชก บีบมีผัว. https://bit.ly/34cv0p7