ทวงความยุติธรรม! หมูสามชั้นสไลซ์ไม่ใช่เบคอน

หมูสามชั้นสไลซ์ ไม่ใช่เบคอน!

เรามักจะเห็นบางคนหรือบางร้านอาหารเรียกหมูสามชั้นสไลซ์ว่า ‘เบคอน’ แต่ในความเป็นจริงแม้ว่าหมูทั้งสองแบบจะมีความใกล้เคียงเรื่องวัตถุดิบ แต่ว่าเบคอนมีกรรมวิธีที่มากกว่าการสไลซ์หมูสามชั้นให้เป็นแผ่นบางอยู่มาก วันนี้เราขอชวนคุณมารู้จักเบคอนให้ใกล้ชิดมากขึ้นกัน

| the novicechef blog

“เบคอน” (Bacon) คือหมูที่ผ่านการถนอมอาหารเพื่อให้อยู่ได้นานไม่เน่าไปซะก่อน โดยการทาเกลือ ผสมเครื่องเทศ และรมควันตามสูตรแต่ละพื้นที่ หลังผ่านกระบวนการรมควันตั้งแต่ 3 ชั่วโมงไปจนถึงหลายวัน และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เบคอนเป็นที่รักของนักกิน เพราะรสชาติที่เค็มจากเกลือ กลิ่นสมุนไพร และกลิ่นรมควันทำให้เบคอนมีรสชาติความซับซ้อนน่าค้นหา

ที่สำคัญคือเบคอนไม่จำเป็นต้องใช้หมูสามชั้นหรือส่วนท้องหมูมาทำเสมอไป เพราะความจริงเบคอนมีหลายประเภทมาก แต่ที่เรานิยมกินและเห็นบ่อยๆ ในประเทศไทยคือ Side bacon หรือ Streaky Bacon ซึ่งทำจากส่วนท้องและมีมันมาก ถ้าหากนำส่วนอื่นๆ ของหมูมาใช้กรรมวิธีเดียวกันชื่อเรียกเบคอนก็จะต่างกันออกไป เช่น Back Bacon คือเบคอนจากสันนอก collar Bacon มาจากสันคอ หรือ Cottage Bacon จากสะโพกหมู

ซึ่งก็แล้วแต่พื้นที่อีกว่า เบคอนส่วนไหนได้รับความนิยมมากกว่า เช่นในสหรัฐฯ ก็นิยมกิน Side Bacon ที่มีมันมาก แต่ในอังกฤษหรือแคนาดาจะนิยมกิน Back Bacon มากกว่า แต่ที่แน่ๆ คือเบคอนเป็นที่นิยมมากจนเราเห็นเบคอนเป็นองค์ประกอบของอาหารเช้าชาวตะวันตกและกลายเป็นภาพจำไปแล้วในปัจจุบัน

ดังนั้นในเบื้องต้นที่รสชาติเบคอนผ่านกระบวนการหมัก หรือรมควันมาก่อน ทำให้มีกลิ่นและความเค็มที่แตกต่างจากหมูสามชั้นอย่างไม่ต้องสงสัย และเบคอนก็ไม่ใช่หมูสามชั้นเสมอไปด้วย

| english breakfast society

เรายังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดแน่นอนว่าเบคอนแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเกิดขึ้นตอนไหนกันแน่ แต่ที่แน่นอนคือในภาษาอังกฤษมีสำนวนที่ปรากฏคำว่าเบคอนมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เช่น Bring home the bacon ที่แปลว่าคู่สามีภรรยาที่ไม่ทะเลาะกันเลย จากธรรมเนียมของโบสถ์ในเมือง Dunmow ของอังกฤษว่าถ้าคู่ไหนไม่ทะเลาะกันครบปีจะได้เบคอนจากโบสถ์กลับบ้าน และได้รับยกย่องจากชุมชน

ดังนั้นการมีอยู่ของเบคอนต้องเก่ากว่านั้นแน่นอน ถ้าหากเราดูกรรมวิธีการทำก็อาจเดาได้ไม่ยากเพราะมันเป็นการถนอมอาหารแบบดั้งเดิม นักโบราณคดีเชื่อว่าเบคอนอาจเกิดขึ้นจากจีนก่อนเป็นที่แรกเมื่อราว 1,500 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากจีนมีประวัติศาสตร์การเลี้ยงหมูมาก่อนยุโรปมากกว่า 3 พันปี แต่กรรมวิธีทำเบคอนแบบจีนคือการใส่เกลือไปต้มกับเนื้อหมูจนเค็ม

ต่อมามีการขยายวัฒนธรรม “หมูเค็ม” ไปเรื่อยๆ และเชื่อว่าชาวกรีก-โรมันได้เรียนรู้การทำเบคอน (Petaso) จากการพิชิตตะวันออกกลางในตอนนั้นแต่กรรมวิธีอาจแตกต่างจากของจีนและปัจจุบัน

หลายพันปีผ่านไปความนิยมเบคอนไม่เคยเสื่อมคลาย สัญชาตญาณของมนุษย์ยังถูกกระตุ้นให้หิวโหยเมื่อเห็นไขมันและโปรตีนชั้นเยี่ยมในเบคอนจนถึงปัจจุบัน

| images2

เอาเป็นว่าเบคอนเป็นอาหารที่ได้รับความรักมากพอตัว ไม่ใช่แค่ได้ขึ้นโต๊ะเป็นอาหารเช้าคู่กับไข่ดาวเท่านั้น แต่ความรักที่คนมีต่อเบคอนยังมากพอที่จะทำให้เกิด “ศาสนาเบคอน” ที่บูชามันเป็นพระเจ้า (ไม่ว่าจะในเชิงเสียดสีหรือไม่ก็ตาม) และเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเบคอนกรอบๆ มันเยิ้มๆ ตอนถูกทอดนั้นมันบาดจิตบาดใจ ชวนให้เราอยากกินอย่างหนัก

แล้วคุณล่ะชอบกินเบคอนไหม? (ปล. ทิ้งท้าย หมูสามชั้นสไลซ์ไม่ใช่เบคอน!)

อ้างอิง:

• The spruce eats. What Is Bacon? . https://bit.ly/2MHyDxc
• Baconscouts. Bacon History. https://bit.ly/3qgFZpf
• english breakfast society. THE HISTORY OF BACON. https://bit.ly/3sHa96o