อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
การตรวจสอบบุคคลดังในแวดวงพุทธศาสนาไม่เคยเป็นเรื่องง่ายในสังคมไทย เพราะความศรัทธาของเหล่าลูกศิษย์ลูกหา รวมถึงฐานแฟนคลับในปัจจุบัน ต่างพยายามโต้กลับและเงียบเสียงที่ตั้งคำถามถึงความไม่ชอบมาพากล กรณี (อดีต) พระคนดังที่เกิดขึ้นล่าสุดก็สะท้อนให้เห็นว่าการปกปิดข้อมูลอื้อฉาวอาจลามไปถึงการใช้ ‘เงิน’ เป็นตัวช่วยปิดข่าว ขณะที่ข้อหา ‘นารีพิฆาต’ มักถูกหยิบยกมากล่าวโทษ ‘สีกา’ เสมอว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเหตุการณ์ประมาณนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะตบมือข้างเดียวได้
การยอมรับว่าตนเองเสพเมถุนของอดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง ที่โทษว่าเกิดจาก ‘ผู้หญิงเป็นฝ่ายยั่ว’ ตัวเองรู้สึกว่าเป็นฝ่าย ‘ถูกกระทำ’ ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย
พุทธศาสนาสายเถรวาทมีเรื่องราวมากมายที่ชี้ว่าผู้หญิงเป็นขวากหนามในหนทางตรัสรู้
ไม่ว่าเรื่องของ 3 บุตรีพญามารเปลือยกายยั่วยวนเจ้าชายสิทธัตถะเพื่อขัดขวางไม่ให้บรรลุนิพพาน หรือกรณีนางจิญจมาณวิการับงานจากพวกปริพาชก สร้างเรื่องว่าท้องกับพระพุทธเจ้า แต่สุดท้ายความแตก โดนธรณีสูบ สาแก่ใจชาวพุทธไทยยิ่งนัก
นักบวชพุทธสายเถรวาทที่ถือพรหมจรรย์เป็นหนทางแห่งการบรรลุ จึงมอง ‘เพศหญิง’ เป็นอุปสรรคต่อการตรัสรู้ ถึงขั้นกำหนดคำ ‘นารีพิฆาต’ ไว้ในสารบบของพุทธไทยและแค่กว่าสามทศวรรษก็เกิดกรณีเช่นนี้มากมาย
ปี 2533 กรณี ‘พระครูใบฎีกานิกร ธรรมวาที’ เจ้าอาวาสวัดสันปง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ถูกจับได้ว่ามีสัมพันธ์สวาทกับ อรปวีณา บุตรขุนทอง จนมีลูกด้วยกัน ท้ายที่สุดศาลสงฆ์มีมติระบุความผิดว่าเป็น ‘ปฐมปาราชิก’ ขาดจากความเป็นพระ แต่พระนิกรไม่ยอมถอดผ้าเหลือง จึงเป็นเหตุให้มีการแก้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 2) ให้ตำรวจ/อัยการ จับพระสึกได้
แต่ถึงขนาดนั้น นิกรยังนุ่งขาวห่มขาว ปฏิบัติธรรมต่อไปที่สำนักปฏิบัติธรรมพระธาตุดอยนางแล จังหวัดเชียงใหม่ สลับกับการไปปฏิบัติธรรมในต่างประเทศ หรือแม้วันที่เสียชีวิตเมื่อปี 2557 ก็มีลูกศิษย์ไปร่วมพิธีศพมืดฟ้ามัวดิน ด้วยเชื่อว่า ข้อกล่าวหาและคดีความต่างๆ เกิดจากการใส่ร้าย โดยใช้ ‘นารีพิฆาต’ เช่นกัน
ปี 2537 กรณี ‘พระยันตระ อมโรภิกขุ’ เจ้าสำนักวัดป่าสุญญตาราม เกริงกระเวีย อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี หรือ พระวินัย อมโร หรือ ‘วินัย ละอองสุวรรณ’ ทำเอาญาติโยมช็อกจนต้องหามส่งโรงพยาบาลหลายคน
พระหนุ่มรูปงามชาวนครศรีธรรมราชที่ชื่อเสียงกำลัง ‘ขึ้นหม้อ’ ถูกเปิดโปงเชิงลึกถึงความสัมพันธ์กับหญิงสาวมากหน้าหลายตาทั้งไทย, เทศ บ้างตั้งท้องจนคลอดลูก แต่พระชื่อดังไม่ยอมตรวจดีเอ็นเอ สุดท้ายต้องหนีออกนอกประเทศ
ในหลักฐานร้องเรียนระบุชัดถึงการ ‘เสพเมถุน’ กับหญิงสาวหลายคนระหว่างอยู่ยุโรปและออสเตรเลีย รวมถึงหลักฐานสลิปบัตรเครดิตที่นำไปใช้เที่ยวซ่อง แต่จนถึงวันนี้ลูกศิษย์จำนวนมากก็ยังเชื่อว่าเป็นแผนทำลายศาสนาพุทธ โดยใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือ
ถัดมาในปี 2538 คือ ‘พระภาวนาพุทโธ’ พระสายวิปัสสนาชื่อดัง วัดสามพราน จังหวัดนครปฐม ต้องคดีข่มขืนเด็กหญิงชาวเขา 6 คน ศาลสั่งจำคุกถึง 160 ปี แต่ลูกศิษย์เชื่อว่าเป็นแผนนารีพิฆาตของพวกนอกรีต และบริจาคเงินให้ในชื่อ ‘นช.จำลอง คนซื่อ’ ไปถึง 14 ล้านบาท
ปี 2554 ‘พระอิสระมุนี’ แห่งวัดธรรมวิหารี อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ถูกทีมงานรายการถอดรหัส สถานีโทรทัศน์ไอทีวีเปิดโปงว่ามีเพศสัมพันธ์กับ ‘สีกานิด’ เมื่อหลักฐานมากมายปรากฏ พระอิสระมุนีก็สึกจากสมณเพศทันที
ที่ผ่านไปไม่นานเมื่อปี 2556 ก็มี ‘หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก’ หรือ พระวิรพล ฉัตติโก วัดป่าขันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากข้อร้องเรียนเรื่องผู้หญิง แต่จากการเป็นพระร่ำรวย ใช้ของแบรนด์เนม นั่งเครื่องบินเจ็ต ฯลฯ จนถูกขุดคุ้ยว่าพระรูปนี้มีเมียถึง 8 คน และมีลูกแล้ว 2 คน สุดท้ายพระต้องชดใช้กรรมทั้งข้อหาฟอกเงินและฉ้อโกง ยาวเป็นหางว่าว
คดีพระสงฆ์ไทยกับสีกาจะเห็นได้ว่าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกยุคสมัยและมักเกิดกับพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงมีลาภยศบารมีควบคุมทุกอย่างภายในวัดได้แต่คุมตัวเองไม่ได้สุดท้ายหลงมัวเมา
และสังคมไทยมักไม่ยินดีให้ใครตรวจสอบตัวบุคคลที่ตนศรัทธา ยิ่งเปิดช่องให้เกิดความเสื่อม เมื่อเกิดข่าวฉาว จึงมักไพล่ไปโทษแต่ผู้หญิง สร้างวาทกรรม ‘นารีพิฆาต’ กลบเกลื่อนความจริง โทษว่าคนนอกศาสนาเข้ามาบ่อนทำลาย ทั้งที่ความเน่าเฟะเกิดจากเนื้อในทั้งสิ้น