2 Min

รู้ไหม ตอนที่เรากินสับปะรด สับปะรดก็กำลัง ‘กิน’ เราเหมือนกัน!

2 Min
1811 Views
28 Jun 2021

มีใครเคยกินสับปะรดแล้วรู้สึกเจ็บแสบ ยุบยับทั้งลิ้นทั้งกระพุ้งแก้มบ้าง?

บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเพราะความเปรี้ยวของสับปะรดที่มีฤทธิ์เป็นกรดทำให้เราแสบๆ คันๆ ไปทั่วปากเมื่อกินสับปะรดเข้าไปมากๆ โอเค ถึงแม้ว่าสับปะรดจะมีกรดซิตริกอยู่ในตัว แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เราแสบยุบยิบไปทั่วปาก

แต่สาเหตุเป็นเพราะเวลาที่เรากินสับปะรด สับปะรดก็กำลังกิน เรากลับเหมือนกัน!

แน่นอนว่ามันไม่ได้มีปากเขมือบลิ้นเราจนเจ็บแบบนั้น แต่สิ่งที่กำลังกัดลิ้นเราอยู่คือเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในสับปะรดชื่อว่า bromelain ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นเอนไซม์ชนิดสำคัญที่สามารถย่อยโปรตีนได้ 

บิงโก ช่องปากเราสร้างจากโปรตีน

| Imagesvc

ดังนั้นเมื่อเรากินสับปะรดเข้าไปเจ้าเอนไซม์ bromelain ก็ทำการย่อยโปรตีนบนผนังช่องปากเราไปด้วย โดยที่ bromelain จะมีความเข้มข้นที่สุดเมื่อเข้าใกล้แกนสับปะรด ซึ่งความสามารถในการย่อยของเอนไซม์สับปะรดนั้นเราจะเห็นได้ชัดเวลาทำอาหาร หนึ่งในวิธีที่ทำให้เนื้อนุ่มที่นิยมมากที่สุดคือการหมักเนื้อกับสับปะรด เอนไซม์ตัวนี้เองที่ทำการย่อยโปรตีนในเนื้อและทำให้เนื้อวัวหรือหมูนุ่มได้จนออกมาเป็นอาหารจานอร่อย

แต่ไม่ต้องกังวลว่าสับปะรดจะร้ายจนกระพุ้งแก้มเราเหวอะหวะ มันกัดเบาๆ เฉพาะผิวชั้นนอกและร่างกายของมนุษย์สามารถฟื้นฟูผิวใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

| Bon Appétit

แต่อันที่จริงแล้วการถูกสับปะรดกินเป็นสิ่งที่พอจะหลีกเลี่ยงได้บ้าง

อันดับแรกให้จำไว้ว่าสับปะรดที่กัดเราได้คือสับปะรดที่ยังไม่ตาย สับปะรดสดๆ มีเอนไซม์อย่างหนาแน่นและมันกัดลิ้นเราเสมอ ดังนั้นถ้าอยากหลีกเลี่ยงเรื่องนี้จริงๆ ก็จงฆ่า สับปะรดซะ!

คุณสามารถเอามันไปเผา ย่าง ต้ม ทอด หรืออะไรก็ตามแต่เพื่อไม่ให้มันกัดช่องปากคุณอีก เพราะเมื่อผ่านความร้อนแล้วเอนไซม์ภายในทุกชนิดจะถูกทำลายทันที ส่วนหลายคนเชื่อว่าแค่ปอกสับปะรดและทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานๆ จะทำให้ bromelain ตาย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริง เอนไซม์อยู่รอดได้ในอุณหภูมิปกติอย่างน้อย 1 สัปดาห์เลยทีเดียว 

ซึ่งถ้าหากใครสังเกตก็จะเห็นว่าเราไม่เคยเจ็บลิ้นจากการกินสับปะรดปลายไม้บาร์บีคิว ในแกงต่างๆ หรือแม้แต่บนหน้าพิซซ่าฮาวายเอี้ยน เพราะพวกมันผ่านความร้อนจนไม่มีคุณสมบัติกัดลิ้นเราอีกนั่นเอง

แต่ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่รักรสชาติของสับปะรดสดๆ ก็อาจต้องทำใจแบ่งผนังช่องปากยอมให้สับปะรดกินเราคืนบ้างเจ๊าๆ กันไป

อ้างอิง