2 Min

3 บุคลิก แบบ ‘Perfectionist’ เมื่อความสมบูรณ์แบบนำมาซึ่งความเจ็บปวด

2 Min
1177 Views
11 Mar 2022

‘Perfectionist’ หรือสภาวะของบุคคลผู้คลั่งไคล้ในความสมบูรณ์แบบ โดยมีนิยามความหมายในชีวิตว่าทุกสิ่งที่ทำต้องออกมาดีเลิศ และเพอร์เฟกต์

โดยส่วนมากมักสร้างให้ตัวเองเกิดบุคลิกนิสัยที่หมกมุ่นในสิ่งที่ทำเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไร้ข้อกังขา ซึ่งในบางครั้งนิสัยที่ปรากฏออกมาเหล่านั้นอาจทำให้เกิดความทุกข์ อีกทั้งยังทำให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและคนรอบข้างนั้นพลอยแย่ตามไปด้วย

ถึงแม้ว่าความสมบูรณ์แบบจะทำให้สิ่งที่ทำอยู่ประสบผลสำเร็จอย่างไร้ที่ติ แต่ก็ต้องแลกมากับความเครียด และความวิตกกังวลในระหว่างทางก่อนประสบพบเจอกับผลลัพธ์ที่คาดคิด บุคคลเหล่านี้มักจะต้องพบกับความท้าทายที่มากกว่าคนทั่วไป เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ดีที่สุดตามมา

โดยบุคลิกของผู้คลั่งไคล้ความสมบูรณ์แบบนั้นมีอยู่ 3 ประเภท ซึ่งหากคุณสงสัยว่าตัวคุณนั้นเข้าข่ายภาวะความสมบูรณ์แบบนี้หรือไม่ ลองติดตามบทความนี้ต่อแล้วคุณจะรู้

     1. ความสมบูรณ์แบบที่มุ่งเน้นตนเอง

ผู้มีความสมบูรณ์แบบโดยมุ่งเน้นตนเองเป็นหลักนั้น มักเป็นผู้ที่มีการตั้งเป้าหมายต่อชีวิตของตนเองไว้สูง และมักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เข้ามาในชีวิตของตนเอง บ่อยครั้งที่ความสำเร็จของพวกเขามักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ดีไม่พอ เมื่อต้องพบกับความล้มเหลว รวมถึงความผิดหวัง เขาเหล่านั้นมักต้องตกอยู่ในห้วงเวลาแห่งความเศร้า ท้อแท้ และสิ้นหวัง

บ่อยครั้งที่คนเหล่านี้มักต้องหมดไฟกับสิ่งที่ทำ โดยมีสาเหตุมาจากความคาดหวังที่สูงนั้นไม่สัมพันธ์กับความสามารถที่จะทำได้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วการถอยออกมาคือทางออกที่ดีที่สุด อย่าปล่อยให้ความสมบูรณ์แบบนี้ครอบงำทั้งการกระทำและจิตใจของเราจนทำให้เกิดความทุกข์ที่เกิดต่อจิตใจตามมา

     2. ความสมบูรณ์แบบที่มีสังคมเป็นตัวกำหนด

ความสมบูรณ์แบบที่มีสังคมเป็นตัวกำหนด หรือสภาวะความสมบูรณ์แบบที่สังคมมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต คนเหล่านี้มักกลัวการปฏิเสธ และการตัดสินจากสังคม พวกเขามักชอบที่จะดันตัวเองให้เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรฐานที่สังคมตั้งเอาไว้ เพราะต้องการถูกยอมรับ และนับถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถในด้านใดด้านหนึ่ง

การกดดันตนเองไม่ได้ทำให้ทุกอย่างนั้นดีขึ้น หากคุณเป็นบุคคลในรูปแบบนี้ก็ควรเลือกที่จะปล่อยวางความคิดเหล่านั้นซะ เพราะในความเป็นจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด มาตรฐานของคนเรานั้นมีไม่เท่ากัน บางครั้งสิ่งที่คุณคิดว่ามันไม่ดี อาจจะมีค่ามากพอในสายตาผู้อื่นก็ได้ จงอย่าด้อยค่าของตนเองเพียงเพราะความคิดที่ว่ามันยังไม่ใช่ที่สุด

     3. ความสมบูรณ์แบบในเชิงอื่นๆ

ผู้คลั่งไคล้ความสมบูรณ์แบบประเภทนี้มักไม่ได้คาดหวังให้ตัวเองดีเด่นกว่าใคร แต่มักคาดหวังให้ผู้อื่น หรือผู้ที่ชื่นชอบเกิดความดีเลิศ และเพียบพร้อมไปในทุกๆ อย่าง

ความคาดหวังที่มีอย่างแรงกล้านี่แหละที่มักจะทำให้จิตใจของคุณพังพินาศ หากบุคคลนั้นๆ ไม่สามารถทำในสิ่งที่คุณหวังได้ คุณมักจะหมกมุ่นกับสิ่งที่คุณต้องการให้เขาทำได้ แต่ไม่สนใจเลยว่าเขาต้องแบกรับสิ่งใดไว้บ้างเพื่อไปถึงจุดจุดนั้น และบางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็มักจะทำให้ความสัมพันธ์อันดีที่เคยมีมาต้องร้าวฉาน และพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี

หากลองเปลี่ยนจากความคาดหวังเหล่านั้น ให้กลายเป็นความเห็นอกเห็นใจจะดีกว่าไหม คุณอาจจะเจ็บปวดที่ไม่ได้เห็นในสิ่งที่ต้องการ แต่เขาผู้นั้นก็ต้องเจ็บปวดจากความผิดพลาด และภาระต่างๆ ที่ต้องทนแบกรับไว้บนบ่าของตนเองเหมือนกัน สร้างความเข้าอกเข้าใจ และเลือกที่จะปลอบประโลมแทนที่ของการดุด่า เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีให้แน่นแฟ้นไว้จะดีกับทั้งคู่มากกว่า

ไม่มีใครเกิดมาแล้วสมบูรณ์แบบ คนเราเกิดมาต้องพบกับความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัดรู้จักเลือกที่จะปล่อยวาง คอยเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแห่งความสุขในชีวิต เดินทางและเติบโตไปพร้อมๆ กับสิ่งเหล่านั้น แล้วเราอาจจะพบว่าความไม่สมบูรณ์นี่แหละ คือความสวยงามในชีวิตที่ธรรมชาติมอบมาให้เรา

อ้างอิง