2 Min

เวลาเรากินส้มตำแล้ว ‘ขี้แตก’ ไม่ใช่เพราะ ‘สกปรก’ แต่เพราะมัน ‘เผ็ด’ ต่างหาก

2 Min
4115 Views
21 Jul 2022

สำหรับคนไทยจำนวนมากส้มตำคืออาหารรสเด็ดที่ต้องกินเรื่อยๆ แต่กับบางคนนั้นประสบการณ์กินส้มตำแล้วขี้แตกหรือท้องเสียถือเป็นของคู่กัน

เคยสงสัยไหมว่าทำไม?

บางคนคงเคยได้ยินคำอธิบายว่า เพราะส้มตำเจ้าเด็ดนั้นสกปรกเป็นส่วนใหญ่ เมื่ออาหารสกปรกที่ไม่ผ่านความร้อนเลย ก็อาจมีแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตปนเปื้อนในอาหาร พอกินเข้าไปก็เกิดอาการท้องเสียได้

แต่ถ้าลองสังเกตดีๆ จะพบว่า จริงๆ ไม่ใช่แค่ส้มตำที่กินแล้วท้องเสียแต่เวลาไปกินอะไรที่มันเผ็ดดุเดือดแบบหมาล่า’ (ไม่ว่าจะเป็นปิ้งย่างหรือหม้อไฟ) หรือแค่พวกอาหารป่า ยันอาหารใต้ที่รสชาติแบบคนใต้แท้ๆ มันก็ทำให้เกิดการท้องเสียได้เช่นกัน

ซึ่งของพวกนี้จะบอกว่าสกปรกก็ไม่น่าใช่ เพราะมันผ่านความร้อนทั้งกระบวนการอาหาร ถ้ามีเชื้อโรค มันก็ตายหมดแล้วแน่ๆ ตอนกินเข้าไป

แล้วทำไมเราถึงท้องเสีย? คำตอบคงไม่ยากนักถ้าดูปัจจัยร่วมที่อาหารทั้งหมดมีร่วมกัน นั่นคือ การใส่พริกลงไปเป็นจำนวนมาก

พูดง่ายๆ ก็คืออาหารทั้งหมดที่ว่ามามันใส่พริกไปเยอะที่สุดแล้ว และคนไทยทั่วไปที่ไม่ได้คลั่งพริกมากมาย ในมื้ออาหารปกติก็ไม่ได้กินพริกเยอะขนาดนั้นเวลากินส้มตำ หมาล่า อาหารป่า หรืออาหารใต้

พอคนปกติที่ไม่ได้กินพริกกันเป็นกิจวัตร การกินพริกแบบเกินโดสน่าจะทำให้ท้องเสียได้แน่นอน และเรื่องนี้ก็มีการพูดกันทั่วไปในทางการแพทย์ ซึ่งถ้าไปค้นพวกเว็บฝรั่งอาจจะฮาด้วย เพราะฝรั่งที่เขาไม่กินพริกเลย แค่กินพวกพริกหวานเขาก็ท้องเสียได้แล้ว

ถ้าจะอธิบายแบบเชิงชีววิทยา พริกทั้งหมดทั้งมวลมันมีสารชื่อแคปไซซิน’ (Capsaicin) สารตัวนี้แหละคือต้นตอของความเผ็ด ซึ่งตามธรรมชาติ พริกมันผลิตสารตัวนี้มาเพื่อไม่ให้สัตว์มากินมัน ยกเว้นนก เพราะนกมันรับความเผ็ดไม่ได้ พอนกกิน มันก็ไปขับถ่ายในที่ไกลๆ ทำให้พริกแพร่ขยายพันธุ์ได้

จะพูดว่าแคปไซซินคือสารพิษก็ได้ มันคือสารก่อให้เกิดความระคายเคืองอย่างรุนแรง ความเผ็ดมันคือความปวดแสบปวดร้อนตั้งแต่ทางเดินอาหารส่วนต้นยันส่วนปลาย และก็ไม่แปลกที่ในอารยธรรมของทวีปอเมริกาดั้งเดิม พริกมันเอาไว้ทรมานนักโทษด้วยซ้ำ หรือในอเมริกาช่วงปี 1962 แคปไซซินก็ถูกขึ้นทะเบียนเป็นยาฆ่าแมลงเพราะมันใช้ในการขับไล่พวกศัตรูพืชได้จริง

แต่ก็นั่นแหละ ด้วยเหตุบังเอิญทางประวัติศาสตร์หลายๆ อย่าง พริกก็เดินทางมาถึงเอเชียในที่สุด และกลายเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ของอาหารในหลายประเทศ และเราก็ใส่มันลงไปนิดๆ หน่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่ามันเผ็ดด้วยซ้ำ

ไทยก็เป็นชาติหนึ่งที่อาหารจัดว่าเผ็ดในระดับโลก คนไทยทั่วไปก็กินเผ็ดได้มากกว่าชาติอื่นๆ หรือพูดอีกแบบคือคนไทยเราฝึกร่างกายมาให้สารแคปไซซินเล็กๆ น้อยๆ นั้นทำอะไรเราไม่ได้

แต่ก็นั่นเอง พื้นฐานมันไม่ได้เปลี่ยน มันยังคงเป็นสารพิษที่ธรรมชาติพัฒนามาเพื่อเล่นงานระบบทางเดินอาหารของสิ่งมีชีวิตให้กินไปแล้วปวดแสบปวดร้อนจะได้ไม่กินอีก

ดังนั้นก็เช่นเดียวกับสารพิษอื่นๆ ถ้ามันไม่ได้ผลก็เพิ่มโดสเข้าไป พอถึงจุดหนึ่งมันก็จะได้ผล

พูดง่ายๆ สำหรับคนไทยแค่การกินพริกมันไม่ได้ทำให้ท้องเสียแบบฝรั่ง แต่คนไทยต้องกินพริกมากเกินไปต่างหากถึงจะทำให้ท้องเสียได้

และนี่คือที่มาของคำถามว่า ทำไมกินส้มตำแล้วขี้แตกคือส้มตำทั่วๆ ไปเป็นอาหารที่ใส่พริกแบบบ้าคลั่งมากๆ เรียกว่าเป็นอาหารไทยไม่กี่อย่างที่คนกินคาดหวังว่าคนทำจะไม่หวงพริกชนิดว่ามีเท่าไรก็สาดมันลงไป ถ้ากลัวไม่เผ็ดก็สั่งให้เผ็ดขึ้นอีกได้

พูดง่ายๆ คือมันเป็นอาหารที่ทำให้เรากินพริกระดับที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารระคายเคืองสุดๆ จนต้องขับออกมาในที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเรากินส้มตำแล้วถึงขี้แตก

เพราะความเผ็ดนี่แหละตัวการ ไม่ใช่ความสกปรก

อ้างอิง