ในทางวิทยาศาสตร์การจับคู่กันแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ คือ ‘homogamy’ คือการจับคู่กันระหว่างคนสองคนที่มีปัจจัยหลายอย่างคล้ายกันหรือเหมือนกัน ส่วน ‘hererogamy’ คือการจับคู่ระหว่างคนที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย และ ‘complementarity’ คือการจับคู่ระหว่างคนที่มีลักษณะเติมเต็มกันและกัน เช่น คนขี้อายคบกันชอบเข้าสังคม คนไม่ค่อยมีอารมณ์ขันคบกับคนตลก เป็นต้น
คำถามก็คือ ความสัมพันธ์แบบไหนที่ ‘ดึงดูด’ กันและกันมากที่สุด?
ในแง่มุมของงานวิจัย เฉลยเลยก็คือ ‘ความเหมือน’ ต่างหาก ที่ทำหน้าที่ดั่ง ‘เสน่ห์แรง’ ระหว่างคนสองคนในความสัมพันธ์โรแมนติกมากที่สุด ซึ่งตรงข้ามกับ ‘ความต่าง’ อย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ทฤษฎีที่ว่าคนเรามักชอบคนที่ต่างจากตัวเองนั้นออกจะ ‘ไม่ถูกต้อง’ เสมอไป
เนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้ว ‘เหมือน’ กัน
ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา มีนักสังคมศาสตร์ได้ทำวิจัยกว่า 240 ชิ้นเพื่อพยายามหาคำตอบว่า ‘ความเหมือน’ ทั้งในแง่ของทัศนคติ ลักษณะนิสัย ความสนใจภายนอก คุณค่า และลักษณะร่วมอื่นๆ นั้นสามารถนำไปสู่ ‘ความดึงดูด’ ได้หรือไม่ และในปี 2013 ‘แมทธิว มอนโทยา’ (Matthew Montoya) และ ‘โรเบริต์ ฮอร์ตัน’ (Robert Horton) สองนักจิตวิทยาก็ได้ร่วมกันศึกษาผลลัพธ์จากผลวิจัยเหล่านั้น (meta-analysis) และพวกเขาค้นพบว่า ‘คนคล้ายกันย่อมสนใจกัน’
ในภาษาวิทยาศาสตร์ การลงเอยกันระหว่างคนสองคนที่คล้ายคลึงกันนั้นจะเรียกว่า ‘assortative mating’ ซึ่งไว้ใช้อธิบายเวลาคนสองคนที่มีปัจจัยหลายอย่างคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ฐานะ และรวมถึง ‘หน้าตา’ มักจะจับคู่กัน
สรุปก็คือ ‘ความเหมือน’ คือปัจจัยของ ‘ความชอบ’ และความชอบก็นำไปสู่การเลือกคนๆ นี้มาเป็นคู่ครองอีกที
แต่ความแตก ‘ต่าง’ ไม่ได้ ‘เติมเต็ม’ หรือ?
คุณเคยได้ยินเรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่แตกต่างแต่กลับเติมเต็มไหม? นึกภาพในซีรีส์ที่สาวเรียบร้อยหลงรักกับหนุ่มแบดบอย บางคนเลือกคนที่มีในสิ่งที่ตัวเองขาดมาเป็นคู่ครอง เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะสามารถเติมเต็มในสิ่งที่ตนไม่มี หรือช่วยเติมเต็มข้อดีข้อเสียให้กันและกัน
คำถามก็คือทฤษฎีคิดเหล่านั้นเป็นจริงแค่ไหน คนแตกต่างช่วยเติมเต็มให้กันได้จริงหรือ?
ในการค้นพบของแมทธิว ดี. จอหน์สัน (Matthewศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยบิงแฮมตัน ทฤษฎีนี้ ‘ไม่จริงเสมอไป’ เพราะเขาค้นพบว่าไม่มีผลวิจัยใดเลยที่ช่วยสนับสนุนว่าคนที่แตกต่างกัน ทั้งทางบุคลิกภาพ ความสนใจ การศึกษา ทัศนคติทางการเมือง พื้นฐานการถูกเลี้ยงดูมา และทางด้านปัจจัยอื่นๆ จะดึงดูดเข้าหากัน
กลับกันผลวิจัยกลับยืนยันในเรื่องเดิม นั่นคือบอกว่าความเหมือนสิถึงใช่
ตัวอย่างผลวิจัยจาก Journal of Personality and Social Psychology ปี 2003 ก็ค้นพบว่าในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยมักจะเลือกแฟนที่บรรยายข้อมูลส่วนตัวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับตัวเอง หรือไม่ก็มีลักษณะเป็นคนในแบบที่ตัวเองอยากเป็น มากกว่าจะเลือกคนลักษณะที่มีในสิ่งที่ตนไม่มี หรืออีกผลวิจัยหนึ่งจากปี 1998 ก็ค้นพบคล้ายๆ กัน เช่น ค้นพบว่าคนที่ชอบเข้าสังคม (extrovert) ไม่ได้ดึงดูดกับคนเก็บตัว (introvert) มากไปกว่าคนประเภทอื่นๆ
แต่ถ้าคุณสังเกตดู จะพบว่าในสังคมก็ยังมีคู่รักที่แตกต่างแต่ลงเอยมีความสุขกันได้ หรือไม่ก็แตกต่างแต่ก็ยังครองรักกันได้นาน เพราะอะไร?
เรื่องนี้พอมีคำอธิบายอยู่บ้าง
แตกต่างแต่อย่างดี
แอนดริว คริสเทนเซน (Andrew Christensen) ไบรอัน ดอสส์ (Brian Doss) และ นีล ยาคอบสัน (Neil Jacobson) สามนักจิตวิทยาที่ช่วยกันเขียนหนังสือเรื่อง Reconcilable Differences หรือ ‘แตกต่างอย่างปรองดอง’ อธิบายไว้ว่า จริงๆ คู่รักก็ลงเอยกันเพราะ ‘เหมือนกัน’ นี่ล่ะ แต่ ‘เวลา’ จะช่วยเกลาความต่างของคนสองคนขึ้นมาให้เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ทั้งคู่ได้ทำหน้าที่เติมเต็มกันและกันในความสัมพันธ์อีกที ข้อเท็จจริงนี้ได้รับการสนับสนุนจากผลวิจัยจากปี 2005 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NSF)
ตัวอย่างเช่น คู่รักคู่หนึ่งเป็นคนที่คล้ายๆ กัน แต่มีอีกฝ่ายที่จะตลกกว่าอีกฝ่าย ‘นิดนึง’ เมื่ออยู่ด้วยกันไปนานๆ ความตลกของอีกฝ่ายก็จะดูโดดเด่นในความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจ้าตัวต้องรับบทเป็นคนโปกฮา ส่วนอีกฝั่ง ในทางตรงข้าม ความจริงจังก็จะเด่นขึ้นเพราะตัวเองต้องรับบทขั้วตรงข้าม
เรื่องนี้จึงกลับมาสรุปได้เช่นเดิมว่า ‘ความเหมือน’ นั้นแสนจะดึงดูดด้วยปัจจัยสนับสนุนมากมาย ส่วนความคิดที่เชื่อว่าความแตกต่างดึงดูดให้คนลงเอยกัน อาจจะมาจากภาพคู่รักที่เป็นตัวอย่างของทฤษฎีที่ว่า เมื่อเวลาผ่านไปคู่รักจะหาหนทางพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อเติมเต็มกันและกันในความสัมพันธ์นั่นเอง
เหล่านี้ก็เป็นเพียงผลวิจัยที่ช่วยอธิบายความสัมพันธ์บางส่วน ลองกลับมาส่องโลกความเป็นจริงด้วยการย้อนกลับมาดูคู่ของคุณ และประสบการณ์ที่ผ่านมากันดีกว่า
พวกคุณลงเอยกันเพราะอะไร…เพราะ ‘เหมือน’ หรือเพราะ ‘ต่าง’ กันล่ะ?
อ้างอิง
- The Conversation. No, opposites do not attract. https://bit.ly/35rXEpi
- SAGE journal. Do People Know What They Want: A Similar or Complementary Partner. https://bit.ly/3hAAoYT
- SAGE journal. Unique Matching Patterns in Remarriage: Educational Assortative Mating Among Divorced Men and Women. https://bit.ly/3KeF6Yr
- SAGE journal. Partner Selection for Personality Characteristics: A Couple-Centered Approach. https://bit.ly/3tojWQS
- APA PsycNet. Interpersonal attraction and personality: What is attractive–self similarity, ideal similarity, complementarity or attachment security? . https://bit.ly/3Cl44Tq
- Wiley Online Library. When does performance feedback prompt complementarity in romantic relationships? . https://bit.ly/3hABX8X