ทำไมการฉี่ลงพื้นห้องน้ำตอนอาบน้ำถึงช่วยโลกได้?

3 Min
1025 Views
21 Jul 2022

ทุกวันนี้โลกเรามีปัญหามากมาย หลายๆ ปัญหาการแก้กันคนละไม้คนละมือคงไม่พอ แต่ปัญหาบางอย่างการช่วยกันคนละไม้คนละมือในทุกๆ มิติก็น่าจะช่วยโลกได้ไม่น้อย

ซึ่งบางทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งเล็กๆ ที่เราทำเป็นปกติจริงๆ มันอาจเป็นสิ่งที่ช่วยโลกอยู่ก็ได้

และวันนี้เราจะนำเสนอว่าสิ่งเล็กๆ ที่หลายคนอาจทำกันเป็นปกติ จริงๆ มันช่วยโลกได้ไม่น้อยเลย และกิจกรรมที่ว่าก็คือ การฉี่ลงพื้นห้องน้ำขณะอาบน้ำ

แน่นอนว่าทุกๆ บ้านทุกวันนี้ถึงไม่มีโถฉี่ก็คงมีโถส้วมอยู่แล้ว ปกติเราก็คงจะฉี่ลงในนั้น แต่บางทีเวลาเราเข้าไปอาบน้ำแล้วปวดฉี่ เราก็อาจจะขี้เกียจเดินมาฉี่ที่โถส้วม และฉี่ลงพื้นห้องน้ำไปเลยตอนอาบน้ำ ซึ่งฉี่ของเราก็จะไหลลงท่อระบายน้ำไปในที่สุด

นี่เป็นพฤติกรรมที่คงไม่ได้มีใครได้รับการสั่งสอนให้ทำ แต่คนจำนวนมากก็ทำ เพราะมันก็ไม่ได้เลวร้ายเสียหายอะไร สุดท้ายฉี่จะลงโถส้วมหรือพื้นห้องน้ำ ฉี่มันก็ลงไปในท่อระบายน้ำเหมือนกัน และการฉี่บนพื้นห้องน้ำตอนอาบน้ำก็ไม่ได้ทำให้ห้องน้ำสกปรกอะไร เพราะฉี่ก็ถูกชำระล้างไปพร้อมๆ กับน้ำที่เราล้างสบู่ออกหลังอาบน้ำ และผลสุดท้ายพื้นห้องน้ำก็ยังสะอาดอยู่ดี ดังนั้นหลายๆ คนก็คงจะคิดว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งเสียหายอะไรเลยที่ทำแบบนี้ (เว้นแต่จะล้างไม่สะอาดก็อาจทำให้ห้องน้ำเหม็นฉี่ได้) แต่ก็คงจะไม่มีใครไปป่าวประกาศเช่นกันว่าตัวเองทำแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่น่าอวดอะไร

อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริง ฉี่ไปเลยตอนอาบน้ำ ถ้าเราทำกันทั้งโลก มันช่วยโลกได้พอสมควรเลยนะ เพราะมันจะลดการใช้น้ำลงไปมากๆ

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? เอาง่ายๆ คือ โถส้วมของเราเนี่ย กดชักโครกทีมันจะใช้น้ำไปราวๆ 6 ลิตร ซึ่งคนที่เป็นผู้ใหญ่ปกติก็จะฉี่กันราวๆ วันละ 7 รอบ ดังนั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งจะใช้น้ำวันละราวๆ 42 ลิตร ซึ่งพอรวมกันทุกคนแล้วนี่เป็นปริมาณไม่น้อยเลย

ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนฉี่ตอนอาบน้ำเลยเป็นปกติ? คำตอบง่ายๆ ก็คือ เราจะทำการกดชักโครกน้อยลงอย่างต่ำวันละ 1 รอบ (คิดบนสมมุติฐานว่า คนอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง) หรือใช้น้ำน้อยลงอย่างต่ำวันละ 6 ลิตรต่อคน

นี่อาจฟังดูน้อย แต่ถ้าลองคิดว่านี่คือกิจกรรมที่เกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้นปีๆ หนึ่งถ้าคนฉี่ขณะอาบน้ำเป็นกิจวัตรเลยก็จะประหยัดน้ำไปได้ 2,190 ลิตรเลยทีเดียว

ถ้าลองคิดไปให้มากกว่านั้นว่า ทุกคนในโลกทำแบบนี้กันหมด แล้วคนในโลกนี้มี 7,400 ล้านคน ดังนั้นปีๆ หนึ่งพฤติกรรมนี้ก็จะประหยัดน้ำให้มนุษยชาติไปได้ปีละราว 16 ล้านล้านลิตร หรือราวๆ 16,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ตัวเลขมันฟังดูเยอะมากเลยใช่ไหม? ซึ่งก็คงจินตนาการยากว่ามันเยอะขนาดไหน เราก็เลยอยากจะเทียบว่า เมืองไทยนั้นปีๆ หนึ่งใช้น้ำกันราว 1,400 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

ดังนั้นหมายความว่า ถ้าทุกคนบนโลกพร้อมใจกันฉี่ตอนอาบน้ำกัน 1 ปี ปริมาณน้ำที่ประหยัดไปได้แค่ปีเดียวนี่มันเพียงพอให้เมืองไทยใช้ทั้งประเทศได้เป็นสิบปีน่ะ ดังนั้นมันก็ชัดเจนมากว่าพฤติกรรมแบบนี้ช่วยมนุษยชาติประหยัดน้ำไปได้ไม่ใช่น้อยๆ เลย

อ่านมาถึงตรงนี้บางคนอาจรู้สึกงงว่าการประหยัดน้ำจะช่วยโลกยังไง? คำตอบพื้นฐานคือ เอาจริงๆ กระบวนการผลิตน้ำที่ใช้กันทุกวันนี้ของมนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งของภาวะโลกร้อน ซึ่งก็คือกระบวนการปั๊มน้ำในส่วนของการทำน้ำประปาที่มันกินไฟไปเยอะมาก และกระบวนการผลิตไฟฟ้าในประเทศส่วนใหญ่มันก็ไม่ได้สะอาดและทำให้มีการเผาไหม้และส่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปในชั้นบรรยากาศ จนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

กล่าวคือ ยิ่งเราใช้น้ำเยอะ ก็คือเรายิ่งทำให้โรงผลิตน้ำใช้ไฟฟ้าเยอะ และนี่ทำให้เราใช้ไฟเยอะ และทำให้โลกร้อนในที่สุด

ซึ่งปัญหาโลกร้อนจากการผลิตน้ำของมนุษย์นี่ก็เป็นปัญหาแน่ๆ แต่เขาไม่ค่อยรณรงค์กัน เขาไปเน้นเรื่องการผลิตไฟฟ้าที่เป็นต้นเหตุแทน แต่ความเป็นจริงก็คือ การจะเปลี่ยนการผลิตไฟฟ้าให้เป็นแบบสะอาดมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดังนั้นในขณะนี้ การใช้ไฟฟ้าของเราที่มากขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในตอนนี้ก็กำลังทำให้โลกร้อนขึ้นตลอดเวลา

นี่เองที่ทำให้การทำอะไรก็ตามที่จะช่วยมนุษยชาติประหยัดการใช้น้ำประปามันจึงเป็นการช่วยโลกแน่นอนในตอนนี้ ซึ่งก็อย่างที่เล่ามาแล้วว่า การฉี่ตอนอาบน้ำเป็นกิจวัตร มันก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยประหยัดน้ำประปาได้มากจริงๆ

ทั้งนี้ ทั้งหมดที่เล่ามานี่ก็เป็นไอเดียตลกๆ ที่ทางเว็บไซต์ IFLScience! เสนอมา ซึ่งมันอาจฟังดูโคตรเพี้ยน แต่ในทางตรรกะ มันไม่มีอะไรเกินจริงเลย

ซึ่งก็ไม่แน่ว่า ถ้าสักวันภาวะโลกร้อนมันหนักขึ้นมา (จริงๆ ทุกวันนี้ก็หนักแล้ว) หรือมนุษยชาติผลิตน้ำกันไม่ทันใช้หรืออะไรก็ตามแต่ ไอเดียเพี้ยนๆ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็อาจถูกนำมาใช้จริงก็ได้ 

เพราะก็อย่างที่ว่า ถ้าทุกคนในโลกพร้อมใจกันลดการกดชักโครกวันละครั้งด้วยการฉี่ไปพร้อมอาบน้ำเลย ก็หมายถึงการประหยัดน้ำได้เป็น 10 เท่าของที่ประเทศไทยใช้ต่อปี และนั่นมันก็ไม่น้อยเลย

อ้างอิง