2 Min

ไม่ต้องรูดบัตร-โอนผ่านมือถืออีกต่อไป! รู้จักการชำระเงินแบบใหม่ผ่านไมโครชิปที่ฝังในร่างกาย

2 Min
693 Views
05 May 2022

ในวันที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกล โลกเราก็เข้าใกล้ภาพยนตร์ไซไฟเข้าไปทุกที ล่าสุดก็มีความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อมีการปลูกถ่ายไมโครชิปเข้าสู่ฝ่ามือเพื่อชำระเงินค่าบริการต่างๆ แทนการใช้บัตรหรือโอนผ่านมือถือกันแล้ว

เรื่องมีอยู่ว่า แพทริค เพาเมน (Patrick Paumen) ได้สร้างความฮือฮาทุกครั้งเวลาที่จ่ายเงินเพื่อซื้อของในร้านค้าหรือร้านอาหาร นั่นเป็นเพราะว่าชายชาวเนเธอร์แลนด์วัย 37 ปีคนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรธนาคารหรือโทรศัพท์มือถือเพื่อชำระเงินเขาเพียงวางมือซ้ายไว้ใกล้กับเครื่องอ่านบัตรแบบไร้สัมผัสเพื่อจ่ายเงินแทน

สาเหตุที่เพาเมนสามารถทำได้ เพราะในปี 2019 เขาได้ฝังไมโครชิปชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสใต้ผิวหนังของเขานั่นเอง

อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการฝังไมโครชิปในมนุษย์ เนื่องจากไมโครชิปถูกฝังครั้งแรกในมนุษย์ เมื่อปี 1998 แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเทคโนโลยีนี้มีการวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์เท่านั้น

และเมื่อพูดถึงชิปชำระเงินแบบฝังชิปลงในร่างกาย ‘Walletmor’ บริษัทฟินเทคสัญชาติอังกฤษโปแลนด์ กลายเป็นบริษัทแรกที่เสนอขายชิปเหล่านี้ ชิปของ Walletmor มีน้ำหนักน้อยกว่าหนึ่งกรัมและใหญ่กว่าเมล็ดข้าวเพียงเล็กน้อย ประกอบด้วยไมโครชิปขนาดเล็กและเสาอากาศที่ห่อหุ้มด้วยพอลิเมอร์ชีวภาพ ซึ่งเป็นวัสดุคล้ายกับพลาสติกที่มาจากธรรมชาติ

ทางบริษัทยังยืนยันว่าเมื่อติดตั้งเสร็จสมบูรณ์แล้ว ระบบจะทำงานอย่างปลอดภัย โดยผู้ใช้บริการจะได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบ สามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากฝัง และจะคงอยู่ในตำแหน่งเดิมอย่างมั่นคง นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้แบตเตอรี่หรือแหล่งพลังงานอื่นๆ ขณะนี้ Walletmor มียอดขายมากกว่า 500 ชิป ในประเทศอังกฤษ (ซึ่งในปัจจุบันยังสามารถฝังชิปได้ที่ประเทศอังกฤษเพียงที่เดียว)

เทคโนโลยี Walletmor ใช้เป็นการสื่อสารระยะใกล้หรือ NFC (Near-Field Communication) ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสบนสมาร์ทโฟน การปลูกถ่ายการชำระเงินอื่นๆ ขึ้นอยู่กับการระบุความถี่วิทยุ (RFID) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน มักพบในบัตรเดบิตและบัตรเครดิตแบบไม่ต้องสัมผัส

แม้สำหรับบางคนความคิดที่จะฝังชิปดังกล่าวในร่างกายเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่จากการสำรวจในปี 2021 จากกลุ่มตัวอย่าง 4,000 คนทั่วประเทศอังกฤษและสหภาพยุโรป พบว่า 51 เปอร์เซ็นต์ สนใจการฝังไมโครชิปนี้ลงในร่างกายของพวกเขา

ปัจจุบันคนจำนวนมากเปิดรับแนวคิดเรื่องการฝังไมโครชิปมากขึ้น เนื่องจากจะทำให้การจ่ายเงินเป็นไปอย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันผลประโยชน์ที่จะได้รับก็อาจถูกชั่งน้ำหนักด้วยความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชิปนั้นมีข้อมูลส่วนบุคคลของเราอยู่ด้วย ประเด็นนี้ยังคงเป็นคำถามที่เราต้องติดตามดูกันต่อไปในอนาคต

อ้างอิง