5 Min

รู้จัก Pathocracy ภาวะที่บ้านเมืองถูกปกครองโดย “ฆาตกรต่อเนื่อง” ในคราบผู้นำทางการเมือง

5 Min
422 Views
07 Sep 2021

Select Paragraph To Read

  • ว่าด้วย Psychopath
  • Psychopath ในเวทีการเมือง

ทุกวันนี้ถึงไม่มีโควิดโลกก็ยังวิปริต เพราะอย่างน้อยๆ ก่อนที่โควิดจะเกิดขึ้น โลกก็สั่นสะเทือนไปด้วยการประท้วงทั่วโลก และเหตุผลหนึ่งที่เป็นชนวนของการประท้วงก็เพราะ “ผู้นำประเทศ” หลายประเทศเริ่มมีลักษณะคล้ายๆ กัน

นั่นคือเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ฟังคนอื่น และทำสิ่งต่างๆ ราวกับไม่มีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์และสำนึกผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

พูดอีกแบบนี่คือภาวะที่เลยพ้นความขัดแย้งทางการเมืองแบบ “ซ้าย-ขวา” ในอดีตแล้ว แต่นี่คือภาวะที่ “คนบ้า” มีอำนาจทางการเมืองเหนือคนปกติ คนปกติก็เลยต้องลุกขึ้นประท้วงก่อนจะสายเกินไป

“ฝรั่ง” มีคำเรียกปรากฏการณ์แบบนี้ว่า ‘Pathocracy’ หรือการปกครองโดยคนกลุ่มที่มีความ “ผิดปกติทางจิต” แบบที่เรียกว่า Psychopath

ว่าแต่มันคืออะไร? เพราะคำว่า Psychopath เป็นคำที่ไม่มีคำแปลในภาษาไทยตรงๆ ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจร่วมกันก่อนดีกว่า

ว่าด้วย Psychopath

ดั้งเดิมแล้วในสังคมมนุษย์ “คนบ้า” นั้นหมายถึงคนที่มีอาการผิดปกติทางจิตแบบมองเห็นๆ เลย เช่น เชื่อในสิ่งที่คนอื่นไม่เชื่อ เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น หรืออารมณ์แปรปรวนร้ายแรงระดับ “ไม่มีเหตุผล”

ในอดีตมีการจัดการกับคนกลุ่มนี้ต่างๆ กันไป แต่หลักๆ แล้ว จะเรียกว่าเป็น “คนบ้า” คือเรื่องของภาวะภายนอกที่แสดงออกมา

ทีนี้เมื่อความรู้ของมนุษย์ก้าวหน้าไป เขาก็เริ่มพบว่ามี “คนบ้า” กลุ่มหนึ่งที่ ไม่มีอาการแสดงออกภายนอกในแบบที่เราเข้าใจกันทั่วไป

คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ ไม่มีอารมณ์ที่แปรปรวนใดๆ เขาเห็นในสิ่งที่คนอื่นเห็นตามปกติ แต่วิธีการประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับโลกของคนพวกนี้ต่างไปจากคนปกติ เพราะคนพวกนี้ในเบื้องลึกไม่มีอารมณ์ใดๆ พวกเขาไม่สามารถรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์คนอื่นได้ นี่ทำให้พวกเขาไม่สามารถรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้แบบคนปกติ ทำให้กลไกควบคุมทางสังคมใดๆ ทำงานกับพวกเขาไม่ได้ทั้งนั้น

และเหตุที่พวกเขา “ดูเป็นคนปกติ” ก็เพราะพวกเขาแค่เลียนแบบพฤติกรรมคนปกติได้แบบที่คนปกติแยกไม่ได้ แต่แท้จริงภายใน แล้วคนพวกนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง โดยพวกเขามีแนวโน้มภายในที่จะก่ออันตรายให้กับตนเองและผู้อื่นได้สูงมาก

ภาวะแบบนี้มีการตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ในศตวรรษที่ 19 และมีการศึกษามาเรื่อยๆ จนในปี 1941 นักจิตวิทยาชื่อ Harvey M. Cleckley ก็เขียนหนังสือชื่อดัง The Mask of Sanity ออกมา ซึ่งเป็นการขนานนาม “คนบ้าที่มีพฤติกรรมปกติภายนอก แต่วิปริตบิดเบี้ยวภายใน” เหล่านี้ว่า Psychopath

The Mask of Sanity

หนังสือ The Mask of Sanity ในปี 1941 | Wikipedia

หลังจากนั้นการศึกษา Psychopath ก็แพร่หลายขึ้น ในช่วง 1970’s คนจำนวนมากเริ่มรู้จักและเข้าใจตัวตนของคนกลุ่มนี้มากขึ้น นักจิตวิทยาเริ่มสังเกตว่าจริงๆ แล้วคนพวกนี้มีชีวิตปะปนกับคนปกติและมีสถานะที่สูงในทางสังคมด้วยซ้ำ ส่วนทางตำรวจก็เริ่มเข้าใจว่าจริงๆ แล้ว พวกฆาตกรกลุ่มหนึ่งที่ฆ่าคนจำนวนมากแบบ “ไม่มีเหตุผล” นั้นจริงๆ แล้ว พวกเขาก็มีภาวะที่เรียกว่า Psychopath นั่นเอง

และในวัฒนธรรมป๊อปอเมริกัน เราจะเห็นคนพวกนี้ได้มากมายในบุคลิกแบบ “ฆาตกรต่อเนื่อง” ไม่ว่าจะเป็นฆาตกรในซีรีส์ Hannibal, Dexter หรือในภาพยนตร์อย่าง Seven, Once Upon A Time in Hollywood ฯลฯ

Dexter Morgan รับบทโดย Michael C. Hall | The Hollywood Reporter

ยกตัวอย่างแบบนี้คงพอจะนึกออกว่า Psychopath เป็นยังไง คือคนพวกนี้ดูภายนอกเหมือนเป็นคนปกติ แต่พวกเขาสามารถจะแสดงออกอย่างโหดเหี้ยมได้แบบ “ผิดมนุษย์” ในภาวะจิตใจที่แท้จริงของพวกเขาที่ไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดีใดๆ

และถ้าตามป๊อปคัลเจอร์ คนพวกนี้ก็มักจะมี “ชีวิตคู่ขนาน” ของชีวิตปกติด้านหนึ่ง กับชีวิตฆาตกรต่อเนื่องอีกด้านหนึ่ง

แต่ทีนี้ ก็มีคนตั้งคำถามว่า จริงๆ คนเป็น Psychopath นั้นเป็นแค่คนทำงานสุจริตที่มีอีกชีวิตเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” จริงเหรอ?

หรือว่าจริงๆ แล้วพวกเขาสามารถขึ้นไปในระดับสูงของสังคมได้มากกว่านั้น และเป็นอันตรายยิ่งกว่า “ฆาตกรต่อเนื่อง”

Psychopath ในเวทีการเมือง

Andrew Lobaczewski นักจิตวิทยาชาวโปแลนด์เคยใช้ชีวิตใต้นาซีและระบอบสตาลิน เขาใช้เวลาทั้งชีวิตศึกษาระบอบอันวิปริตพวกนี้ (เขาเกิดปี 1921 ดังนั้นในปี 2021 เขาจะมีอายุครบ 100 ปี) และได้สร้างทฤษฎีที่มาจากสมมติฐานว่า หรือจริงๆ แล้ว “ผู้นำทางการเมืองอันโหดเหี้ยม” ในอดีตทั้งหลายคือ Psychopath ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็ขนานนามการปกครองของคนพวกนี้ว่า ‘Pathocracy’

จากการศึกษาทั้งชีวิต เขาพบว่าคนเป็น Pathocracy นั้นมีแนวโน้มจะโหยหาอำนาจและการยอมรับในระดับที่สูงกว่าปกติ ซึ่งคนพวกนี้ก็มีแนวโน้มจะ “เสแสร้งทำ” สารพัดเรื่องได้เก่งสุดๆ เพื่อไต่เต้าในทางการเมืองได้ เพราะพวกเขาไม่มีความรู้สึกผิดชอบอยู่แล้ว และนี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมพวก “นักการเมือง” ทั้งหลายในโลกถึงมักจะมีความเป็น Psychopath เล็กๆ

ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าคนที่เป็น Psychopath ก็สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ปกติได้มาตั้งแต่โบราณโดยสันติแล้ว เพราะอย่างน้อยๆ ถึงคุณจะไม่เข้าใจความรู้สึกคนอื่น คุณจะไม่มีสำนึกผิดชอบ แต่คุณอยากอยู่อย่างสันติ คุณก็ทำตัวตามๆ มนุษย์คนอื่นในสังคมไป ไม่จำเป็นต้องฆ่าคนเพื่อดำรงชีวิตแบบพวกฆาตกรต่อเนื่องในป๊อปคัลเจอร์แต่อย่างใด

แต่ทีนี้ บางครั้งก็มีคนเป็น Psychopath ระดับร้ายแรงหรือมีสภาวะจิตใจไม่ได้ต่างจากฆาตกรต่อเนื่องโผล่มา คนพวกนี้ไม่ได้แค่ไม่มีสำนึกผิดชอบ แต่ยังกระหายเลือดและความรุนแรง และบางทีคนพวกนี้ก็ไม่ได้เลือกจะมี “ชีวิตคู่ขนาน” มีงานสุจริตตอนกลางวัน เอาคนมาฆ่าตอนกลางคืน แต่คนพวกนี้กลับเลือกที่จะทะยานสู่อำนาจทางการเมือง และกลายมาเป็นผู้นำประเทศ

ซึ่งก็ต้องเน้นว่า Psychopath ไม่ใช่ “คนบ้า” หรือคนสติปัญญาต่ำ คนพวกนี้บางคนมีสติปัญญาสูงกว่ามนุษย์ปกติด้วยซ้ำ

และในหลายๆ ครั้ง คนเห็นก็จะชอบเสียด้วย เพราะก็อย่างที่บอก คนพวกนี้ไม่มีแก่นสาร ทำอะไรเหมือน “ใส่หน้ากาก” หมด และเขาเลือกจะมีบุคลิกอะไรก็ได้ที่ดึงดูดคน และก็แน่นอน มีคนที่ชื่นชอบพวกเขาอย่างหัวปักหัวปำ และนี่เลยทำให้ Psychopath นั้นแทบจะเป็น “นักปลุกระดมที่ดี” กันเป็นส่วนใหญ่ถ้าบังเอิญเป็นคนพูดเก่ง

คำอธิบายแบบนี้คือคำอธิบายว่าทำไมตั้งแต่ Hitler ถึง Trump สามารถขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองได้ คนพวกนี้มีความเก่งกาจเป็นพิเศษ การเกลี้ยกล่อมของพวกเขาทำให้สังคมบิดเบี้ยว ให้คนทั้งสังคมยอมรับในสิ่งที่ผิดไปจากมโนธรรมสำนึกได้อย่างหน้าตาเฉย

แต่คนที่เป็น Psychopath ที่มีอำนาจในประวัติศาสตร์มนุษย์มีแค่นี้เหรอ

ก็คงไม่ใช่ เพราะประวัติที่สังคมถูกปกครองด้วยคนแบบนี้ก็มีมานานกว่านั้น เพราะจริงๆ จักรพรรดิโรมันหลายๆ คนไปจนถึงกษัตริย์ยุคกลางโรคจิตๆ จำนวนไม่น้อยก็อาจจะเข้าข่าย Psychopath เช่นกัน

ถามว่าทำไมมันถึง “เป็นประเด็น” ในปัจจุบันนี้? หรือให้ตรงกว่านั้น ทำไมยุคปัจจุบัน คนไม่น้อยถึงต้องการคนที่ “เหมือนฆาตกรต่อเนื่อง” มาเป็นผู้นำ?

เพราะก็ต้องไม่ลืมว่า บรรดาผู้นำยุคปัจจุบันที่เป็น Psychopath แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในอเมริกา อังกฤษ บราซิล ตุรกี ไปจนถึงฟิลิปปินส์ ก็มีต้นกำเนิดมาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยกันทั้งนั้น (แม้ว่าบางคนจะขึ้นสู่ตำแหน่งแล้วทำลายประชาธิปไตย)

คำตอบที่เร็วก็คือ เพราะปัจจุบัน เศรษฐกิจการเมืองโลกถึงทางตัน มองไปทางไหนก็มีปัญหา วิธีการปกติแก้ปัญหาทางการเมืองไม่ได้ ดังนั้นคนจำนวนหนึ่งเลยรู้สึกว่า คนที่ “เสนออะไรบ้าๆ ” นี่ “มีลุ้นจะเป็นทางออกของประเทศ”

ซึ่งความต้องการของคนทั่วไปแบบนี้เรียกว่า “เข้าทาง” พวกผู้นำแนว Psychopath เลย เพราะคนพวกนี้กล้าจะพูดอะไรที่ถูกใจคนกลุ่มหนึ่งแต่ทำร้ายจิตใจคนอีกกลุ่มมากๆ ไปจนถึงการเสนอ “ทางออกของประเทศ” ที่ฟังดูบ้าระดับที่คนปกติไม่กล้าเสนอด้วย

และก็ไม่แปลกที่คนพวกนี้ขึ้นสู่อำนาจกันสนุกสนานในช่วงหลัง

แต่มันเป็นเรื่องเลวร้ายโดยสิ้นเชิงไหม? คำตอบคือไม่เสมอไป เพราะความ “ไม่สนใจสังคม” ของคนพวกนี้บางทีก็นำมาสู่สิ่งที่ดี โดยเฉพาะในสังคมที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบถึงรากอย่างรวดเร็ว เพราะอย่างน้อยๆ อดีตประธานาธิบดีอเมริกาผู้ยิ่งใหญ่หลายคนนั้นก็น่าจะเป็น Psychopath ซึ่งนี่ก็คงจะเป็นหลักฐานที่ดีว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้มี “พิษภัย” ต่อสังคมเสมอไป

แต่ก็นั่นแหละ เราก็ไม่รู้หรอกครับว่า คนพวกนี้จะเป็น “นักปฏิวัติสังคม” ในทางที่ดี หรือจะเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” ที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แล้วสั่งอุ้มฆ่าคน สั่งจับคนที่คิดต่างขังคุกจนหมด ไปจนถึงบิดเบือนระบบกฎหมายทั้งระบบ เพื่อสำเร็จความใคร่ทางอำนาจของตัวเอง

อ้างอิง