หายใจไม่ออก
เหมือนกำลังจมน้ำ
สำรวจอาการแพนิก ที่ไม่ควรมองข้าม
มีใครดูซีรีส์เกาหลีแนวจิตวิทยา ‘Daily Dose of Sunshine’ หรือชื่อไทย ‘รับแดดอุ่น กรุ่นไอรัก’ แล้วบ้าง? บอกไว้ก่อนว่า บทความนี้อาจมีสปอยล์เนื้อหาบางส่วน เพราะเราจะพาทุกคนไปสำรวจเกี่ยวกับ ‘โรคตื่นตระหนก’ (Panic disorder) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘โรคแพนิก’ กัน
ซีรีส์เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดภาพของคนที่มีภาวะต่างๆ ออกมาได้อย่างเห็นภาพ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า ผู้คนที่ประสบกับภาวะบางอย่างทางจิตใจนั้น รู้สึกอย่างไรและคิดอย่างไร
แน่นอน หนึ่งในโรคหรือภาวะทางจิตที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่คือ ‘โรคแพนิก’ คนที่ป่วยเป็นโรคนี้มักแสดงอาการตื่นตระหนกและหวาดกลัวอย่างรุนแรงว่าตัวเองเหมือนกำลังจะตาย โดยไม่มีที่มาที่ไป (Panic attacks) แม้จะอยู่ในสถานการณ์ปกติทั่วไปก็ตาม
อาการของโรคแพนิกที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
1 – หายใจไม่อิ่ม หายใจตื้น (รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ)
2 – ใจสั่น ใจหายวาบ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก
3 – ตัวสั่น มือสั่น เหงื่อแตก หนาวๆ ร้อนๆ
4 – จุกแน่นในลำคอ คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน
5 – วิงเวียน โคลงเคลง ชาตามร่างกาย คล้ายจะเป็นลม
6 – รู้สึกกลัวจนเหมือนควบคุมตนเองไม่ได้
โดยในซีรีส์ Daily Dose of Sunshine ได้จำลองการแสดงอาการของคนเป็นโรคแพนิกว่าเสมือนคนที่กำลังจะจมน้ำ เมื่อไหร่ที่อาการเริ่มแสดงจะเหมือนมีน้ำผุดขึ้นมาจากพื้น แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นตามความหวาดกลัวอย่างรุนแรง จนเหมือนกำลังค่อยๆ จมลงไปในน้ำ
หลายคนที่ป่วยทางใจด้วยโรคนี้มักจะกลัวและอายเกินกว่าจะขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเวลาที่มีอาการจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากปล่อยทิ้งไว้นาน อาการก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ดังสองตัวละครในซีรีส์ที่เป็นโรคแพนิก แต่มีระดับความรุนแรงของอาการแตกต่างกัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความเครียด ความกดดันในชีวิตประจำวันที่มากเกินจะรับไหว พักผ่อนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้ทั้งจิตใจและร่างกายไม่ยืดหยุ่น
บางกรณีเป็นเพราะเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้าย ฝังใจ จนกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก และสุดท้ายคือเกิดจากพันธุกรรมอย่างช่วยไม่ได้ ส่งผลให้ฮอร์โมนลดลงกะทันหัน ทำให้สารสื่อประสาทในสมองมีสถานะผิดปกติคล้ายกระแสไฟฟ้าช็อต เป็นเวลาประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงค่อยๆ ดีขึ้นจนเป็นปกติ
แต่อย่างที่ MOODY กล่าวไปตอนต้นว่า สาเหตุและระดับอาการของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ตัวละครแรกจะมีอาการเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเมื่อเผชิญกับความกดดัน หรือสิ่งที่มากระตุ้นความหวาดกลัวจึงแสดงอาการออกมา
แต่ขณะที่อีกตัวละครมักจะมีอาการเกิดขึ้นบ่อยกว่า อาจเพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร และยังต้องเจอกับความกดดันทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กับตัวละครแรกเขาเลือกที่จะออกมาจากความกดดันนั้น
ทว่าเรื่องราวในซีรีส์เป็นช่วงที่ตัวละครยังไม่ได้เข้ารับการรักษา อาการจึงแสดงให้คนรอบข้างเห็นจนถูกเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่มีใครเข้าใจแม้แต่ตัวพวกเขาเองก็ยังไม่ยอมรับ ดังนั้น ขั้นแรกคือการยอมรับว่าตัวเองกำลังไม่สบาย และไปเข้ารับการรักษา แล้วค่อยๆ อธิบายให้ผู้คนรอบข้างเข้าใจ
ขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตก็จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้อาการกำเริบ เนื่องจากโรคแพนิกก็เหมือนกับภาวะทางจิตทั่วไป เช่น มีอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า ที่แม้ว่าเราจะได้รับการรักษาด้วยการใช้ยา แต่นั่นไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืน แต่ยังต้องร่วมกับการปรับชีวิตประจำวันของตนเองไปด้วย
หากยังใช้ชีวิตแบบเดิม ต่อให้รับประทานยาก็ทำได้เพียงบรรเทาอาการให้ดีขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้ววิธีการรักษาแล้วได้ผลยั่งยืน ก็คือการรับประทานยาควบคู่ไปกับการมีสุขภาวะที่ดี ไม่กดดันตัวเองจนเกินไป ใจดีกับตัวเองให้เยอะๆ
อ้างอิง:
- โรคแพนิก (panic disorder) https://bit.ly/47pdv2S
- โรคแพนิค เป็นได้ ไม่รู้ตัว https://bit.ly/3MTOF2X