รู้ไหมว่าทุกวันนี้ ยังไม่มีใครเคยเห็นหน้าเจ้าของ Pornhub และเขาเป็นเจ้าของ Brazzlers ด้วย
Select Paragraph To Read
- ถามว่า MindGeek ยิ่งใหญ่แค่ไหน?
- ประวัติฉบับย่อของ MindGeek
- เจ้าของ MindGeek บุคคลปริศนาที่ไม่ยอมเปิดเผยใบหน้า
- ธุรกิจสีเทา ความขมุกขมัวที่เป็นประโยชน์
ถ้าจะพูดถึงเว็บโป๊อันดับ 1 ของโลก แม้ว่าจะผ่านมรสุมแค่ไหน เว็บที่ว่าก็คงยังเป็น Pornhub อยู่ดี และเรื่องที่น่าตื่นเต้นก็คือ บริษัทที่หากินกับ “หนังโป๊” จนร่ำรวยระดับโลกก็คือบริษัทที่เป็นเจ้าของ Pornhub อย่าง Mindgeek นั่นเอง
ถามว่า MindGeek ยิ่งใหญ่แค่ไหน?
บริษัทนี้เป็นเจ้าของเว็บสตรีมหนังโป๊ใหญ่ๆ ทั้ง Pornhub, YouPorn และ RedTube ไม่พอ แต่ยังเป็นเจ้าของค่ายหนังโป๊ใหญ่ๆ ของอเมริกาเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น Brazzers, Digital Playground, Mofos, Reality Kings, Twistys เป็นต้น
ดังนั้นหนังโป๊ของค่ายเหล่านี้ที่อยู่บน Pornhub จึงไม่ “ละเมิดลิขสิทธิ์” เพราะเป็นของ “เจ้าของเดียวกัน”

อาณาจักร์หนังโป๊บางส่วนของ Mindgeek | Twitter
แน่นอนว่าในทางธุรกิจนี่เป็นอะไรที่ “ล้ำ” มากๆ เพราะอุตสาหกรรมหนังโป๊ดั้งเดิมนั้นหนีการถูก “Disrupt” ด้วยการพ่วงเป็นเว็บดูหนังโป๊ฟรีออนไลน์ไปเลย หรือพูดง่ายๆ ถ้าเทียบกับอุตสาหกรรมดนตรี พวกค่ายเพลงนั้นในแง่หนึ่งก็ถูก Disrupt โดยแพลตฟอร์มอย่าง Spotify แต่ในโลกของหนังโป๊ตะวันตก สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะบริษัทหนังโป๊นั้น “ปรับตัว” สำเร็จ
และชื่อของ “การปรับตัว” ที่ว่าก็คือ MindGeek
ประวัติฉบับย่อของ MindGeek

ฟาเบียง ธิลมานน์ | Twitter
ประวัติของ MindGeek นั้นซับซ้อนมากๆ เพราะเกิดจากหลายบริษัทรวมกัน ถ้าจะเล่าประวัติทุกบริษัท อาจต้องใช้หนังสือเป็นเล่มๆ ในการเล่า
อย่างไรก็ดี ถ้าจะเล่าแบบพอหอมปากหอมคอ บริษัทนี้ตอนแรกชื่อว่า Manwin คนตั้งชื่อคือ ฟาเบียง ธิลมานน์ ชาวเยอรมัน
ฟาเบียง ธิลมานน์ ถ้าดูประวัติ เขาไม่ได้ต่างจากบรรดานักธุรกิจ Gen X ที่ก่อร่างสร้างตัวมาในยุค 1990’s คนอื่นๆ เท่าไร คือเขาเป็นโปรแกรมเมอร์แล้วได้เงินก้อนหนึ่งจากการทำโปรแกรมบางอย่าง และใช้เงินก้อนนั้นมาต่อยอดธุรกิจ
ความต่างคือ เขาไม่ได้เหมือน อีลอน มัสค์ ที่เอาเงินไปลงทุนกับ Tesla หรือปีเตอร์ ธีล ที่เอาเงินไปลงทุนกับ Facebook แต่เขาเอาเงินไปกว้านซื้อพวกบริษัทหนังโป๊ต่างๆ รวมถึงเว็บโป๊ต่างๆ
ตลอดทศวรรษ 2000 ธิลมานน์ไล่ซื้อเว็บโป๊มากมาย แต่ดีลที่ยิ่งใหญ่มากก็คือดีลซื้อบริษัท Mansef และ Interhub ในปี 2010 ซึ่งทรัพย์สินของ 2 บริษัทนั้นมีมากมาย ทรัพย์สินในของบริษัทแรกที่เรารู้จักกันดีคือ Brazzlers ส่วนของบริษัทที่สองคือ Pornhub
และนี่คือจุดที่บริษัท Manwin ถูกตั้งขึ้นมาเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของ “อาณาจักรหนังโป๊” ของฟาเบียง ธิลมานน์ ที่กำลังจะเติบใหญ่อย่างมาก เพราะหลังจากนั้น บริษัทก็ไล่เทคโอเวอร์อีกหลายบริษัทใหญ่ๆ อาทิ YouPorn และ Twisty ในปี 2011 Digital Playground และ Reality Kings ในปี 2012 และ RedTube ในปี 2013
ซึ่ง RedTube น่าจะเป็นผลงานท้ายๆ ของ “เจ้าพ่อเทคโอเวอร์แห่งอุตสาหกรรมหนังโป๊” อย่าง ฟาเบียง ธิลมานน์ เพราะในปี 2013 นั้นเขาได้ขายบริษัท Manwin ทิ้ง โดยไม่บอกเหตุผลใดๆ
เจ้าของ MindGeek บุคคลปริศนาที่ไม่ยอมเปิดเผยใบหน้า
ทีนี้ ความสนุกยังไม่จบ ผู้ที่ซื้อ Manwin ไป ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น MindGeek อันเป็นชื่อที่ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ และจนทุกวันนี้ MindGeek ก็ยังไม่หยุดยั้งในการไล่เทคโอเวอร์บริษัทหนังโป๊ ไม่ใช่แค่ในอเมริกา แต่เรียกได้ว่าวันนี้ลามมายุโรปแล้ว เพราะพวก CzechCasting และ FakeTaxi ก็อาจเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นที่ตอนนี้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรหนังโป๊ของ MindGeek แล้ว
แต่ทว่า “เจ้าของใหม่” ของ “อาณาจักรหนังโป๊” นั้นกลับไม่เปิดเผยตัวแบบ ฟาเบียง ธิลมานน์ อีกแล้ว เพราะอย่างน้อยๆ ทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครเคยเห็นหน้า เบอร์นาร์ด เบิร์กมาร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และประธานบริษัทคนปัจจุบันของ MindGeek
และไม่ใช่แค่เขา แต่พวก “กรรมการบริษัท” ทุกคนก็มีชื่อแค่ในเอกสาร ไม่มีใครเห็นหน้าเห็นตาจริงๆ และก็ไม่ต้องพูดถึงบทสัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ที่ไม่มีให้เห็น
ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่แปลกนัก เพราะอย่างน้อยๆ ในญี่ปุ่นแม้ว่าเจ้าของเว็บ DDM.com อย่าง เคอิจิ คาเมยามะ จะติดอันดับคนรวยสุดในญี่ปุ่น แต่ถ้าไปค้นหา เราก็ไม่มีทางจะเห็นหน้าของเขา และเรียกได้ว่าการที่เขามาให้ “สัมภาษณ์แบบไม่เห็นหน้า” กับทาง Bloomberg ในปี 2017 ก็ทำให้หลายคนงงสุดๆ ก่อนเขาจะหายเข้ากลีบเมฆไปอีกรอบ
ไม่แปลกนัก เพราะถ้าคุณรวยขนาดนั้น กับธุรกิจ “สีเทาๆ” คุณก็คงไม่อยากออกสื่อนักหรอก และคุณก็รวยพอที่จะทำแบบนั้นได้
แต่กรณีของ MindGeek นี่อาจเป็นอีกระดับ เพราะตอนนี้คนสงสัยว่าบรรดา “เจ้าของ” ตามเอกสารมีตัวตนจริงหรือไม่
ธุรกิจสีเทา ความขมุกขมัวที่เป็นประโยชน์
ถามว่าอะไรพวกนี้ (เจ้าของไม่เปิดเผยตัวตน) แปลกไหม? คำตอบคือ “ไม่แปลก” เพราะบริษัทลึกลับที่เจ้าของตามชื่อในเอกสารไม่มีจริงแบบนี้มีมากมาย มันเป็นเรื่องของการเล่นแร่แปรธาตุของการจดทะเบียนบริษัทที่ใช้ “โนไมนี” ซ้อน “โนไมนี” ข้ามประเทศก็ไม่แปลกอะไร ถ้าต้องการจะปิดบังตัวตน “เจ้าของตัวจริง” ของบริษัท
แต่เคสของ MindGeek นี่ “สร้างปัญหา” ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะกว่า “บริษัทลูก” อย่าง Pornhub ไปก่อเรื่องเอาไว้มากมาย ตั้งแต่ลงหนังโป๊ของผู้หญิงที่ไม่ได้ยินยอมให้ถ่าย ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างที่ The New York Times ออกมาแฉว่ามี “หนังโป๊เด็ก” บนเว็บ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ “ล้ำเส้นศีลธรรมและกฎหมาย” แบบถึงที่สุดแล้วในโลกตะวันตก
ทีนี้ คนก็เลยพยายามจะเล่นงาน Pornhub ไล่ฟ้องและไล่สาวกัน ผลก็คือพบ “ทางตัน” เพราะไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของและคณะกรรมการบริษัทเป็นใครกันแน่ ซึ่งก็แน่นอน เขาก็ไม่ได้ขุดกันเล่นๆ นักกิจกรรมยันสื่อหลายสำนักช่วยกันขุด ก็ยังคว้าน้ำเหลว
ก็เรียกได้ว่า ฟาเบียง ธิลมานน์ ตัดสินใจถูกแล้วที่ออกจากการเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิหนังโป๊นี้ เพราะถ้าเดินทางสายนี้ การเปิดหน้าอาจไม่ดีต่อชีวิตเท่าไร และตอนนี้ก็คงจะโดนคนไปประท้วงถึงหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว
อ้างอิง:
- International Business Times. Who Is The Real Bernard Bergemar? Pornhub’s Owner Has No Traces Online. http://bit.ly/2Z8zoBS
- Insider. Pornhub is owned by a mysterious businessman through a ‘complex network of subsidiaries’ that have kept his identity a secret until now, according to a new report. http://bit.ly/3rLAm3w
- Financial Times. MindGeek: the secretive owner of Pornhub and RedTube.http://on.ft.com/3aaP5yL
- Bloomberg. Billionaire Porn King Reinvents Himself as Japan’s Startup Guru.http://bloom.bg/3aaAlzZ
- Wikipedia. MindGeek. http://bit.ly/3acy3jG