พื้นที่สีเขียวคือพื้นที่ที่เรามีชีวิตร่วมกัน | Green space is “our” “living” space.
ผลงานนี้เน้นไปที่คำสองคำ คือ “OUR” และ “LIVING”
ในส่วนด้านซ้ายของภาพคือคำว่า “LIVING” พื้นที่ที่มีชีวิต
– หมายถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยและเอื้ออำนวยการมีอยู่และเติบโตของทุกชีวิต ทำได้โดยออกแบบส่วนหนึ่งของสวนให้เป็น wildlife-friendly มีองค์ประกอบที่เอื้อสำหรับสัตว์ต่าง ๆ ทั้งเล็กใหญ่ พืช เห็ดรา ร่วมกับพื้นที่ของมนุษย์ ถ้าอ้างอิงจาก The National Wildlife Federation สวนที่ wildlife-friendly ประกอบด้วยองค์ประกอบดังนี้
อาหาร – มีพืชหลากหลายชนิดเพื่อเป็นอาหารสำหรับสัตว์ต่าง ๆ โดยเน้นพืชท้องถิ่นที่ไม่เป็นชนิดพันธุ์รุกราน เช่น พืชอาหารสำหรับผีเสื้อ ดอกไม้พื้นถิ่นหลากหลายสีที่ทนทานและไม่ต้องการการดูแลนักเพื่อเป็นพืชน้ำหวานสำหรับแมลงต่าง ๆ (แมลงแต่ละชนิดมีการมองเห็นสี และถูกดึงดูดจากสีดอกไม้ที่ต่างกัน) เมล็ดพืชที่ปล่อยแห้งคาต้นเพื่อเป็นอาหารของนก มีผลไม้ สำหรับสัตว์ฟันแทะ ค้างคาว แมลง นก ฯลฯ
น้ำ – นอกจากบ่อน้ำใหญ่ ถ้าเพิ่มอ่างน้ำตื้น ๆ สำหรับแมลงและสัตว์เล็ก มีโขดหินให้เกาะสำหรับเพื่อนตัวจิ๋วด้วยก็คงจะดี
พื้นที่หลบภัย – สนามหญ้าตัดเรียบ เรียบร้อยสบายตาดีสำหรับมนุษย์แต่ไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับเจ้าเพื่อนจิ๋ว ๆ นัก สนามหญ้ายังคงจำเป็นสำหรับการเป็นพื้นที่ยืดหยุ่นได้สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่เราสามารถปล่อยบางส่วนของสนามหญ้าให้หญ้ายาว ดอกหญ้าขึ้นตามธรรมชาติ มีพุ่มไม้สูงต่ำ มีตอไม้เก่า กองใบไม้แห้งที่ไม่ต้องรีบกวาดไปทิ้ง เป็นพื้นที่อาศัยสำหรับเห็ดรา เป็นที่หลบภัย เลี้ยงดูเบบี๋ตัวน้อยของสัตว์ต่าง ๆ ด้วย
สุดท้ายคือยั่งยืน – ปลอดสารเคมีที่เป็นพิษ ปลอดภัยกับทั้งคน สัตว์ แหล่งน้ำ พื้นดิน อากาศ ให้ทุกสิ่งมีชีวิตอย่างดีไปพร้อมกันด้วย
**Wildlife friendly ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่เราอยากเห็นเกิดขึ้นกับสวนในเมือง สวนหน้าบ้านหลังบ้าน สวนริมระเบียงของทุกคนเพิ่มขึ้นอีกมาก ๆ เลยยย
“We can live together, it’s better for them and for us.”
ในส่วนขวาของภาพคือ “OUR” พื้นที่ของ “เรา”
– ส่วนหนึ่งก็มีความหมายคล้าย ๆ กับด้านบน คือไม่ใช่เพียงพื้นที่ของมนุษย์แต่รวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด แต่ในอีกแง่หนึ่ง “our green space” หมายถึงพื้นสีเขียวที่เป็นของคนในชุมชนจริง ๆ
ขอแอบเล่าเรื่องหนังสือ…
เราชอบหนังสือเรื่อง ในสวนลับ (The secret garden) มาก ๆ มีตอนหนึ่ง เด็กหญิง Mary Lennox ได้ขอร้องกับคุณเจ้าของที่ดินว่า “หนูขอที่ดินสักกระแบะมือได้ไหมคะ จะได้ปลูกเมล็ดพืชน่ะค่ะ…ปลูกให้มันโต ให้มันมีชีวิตขึ้นมา…”
เราเองเหมือนหนูน้อยแมรี่ ที่อยากมีที่ดินปลูกต้นไม้สักกระแบะมือนึงเหมือนกัน และเราเชื่อว่าหลายคนอยากลองปลูกพืชดูบ้างแต่สถานที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยนัก
น่าสนใจดีถ้าเปิด “ให้เช่าที่ดินใจกลางอารีย์” เป็น shared garden แปลงเพาะปลูกขนาดกระแบะมือให้เช่า (ไม่แน่ใจว่ากระแบะมือมันใหญ่แค่ไหนนะคะ พูดตามน้องแมรี่ 5555 อาจจะเท่าลังไม้สักลัง หรือกระถางใบใหญ่สักใบ…) โดยให้สิทธิจับจองแก่ผู้อยู่อาศัยย่านอารีย์ที่ไม่มีพื้นที่เพาะปลูกก่อน แต่สำหรับคนที่จองไม่ทัน ก็สามารถเอากระถางของตนเองมาร่วมเพาะปลูกในพื้นที่ที่กำหนดไว้ได้เช่นกันนะ!
อาจมีอุปกรณ์ทำสวนให้ยืม มีถังปุ๋ยหมักให้นำอินทรีย์วัตถุต่าง ๆ มาร่วมทำปุ๋ยหมักด้วยกันได้ ให้อิสระในการปลูกและทดลองปลูกอะไรก็ได้ในพื้นที่ของตัวเอง แต่ก็อยากสนับสนุนให้ปลูกเมล็ดพันธุ์ท้องถิ่นเพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศ มีช่องทางสั่งเมล็ดพืชให้ (ส่งต่อรายได้ถึงเครือข่ายผู้เพาะเมล็ดพันธุ์ท้องถิ่นในชุมชนอื่น ๆ ได้อีกด้วย) อาจมี workshop เรื่องการเพาะปลูกบ้าง
ในจินตนาการของเรา พื้นที่นี้เหมือนเป็นทั้งสนามเด็กเล่นและห้องทดลองขนาดย่อมที่คนทุกวัยในเมืองจะได้มีโอกาสเฝ้ามองสิ่งต่าง ๆ เติบโตขึ้นจากสองมือของตัวเอง
พื้นที่สีเขียวในอารีย์น่าจะทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ!