จบลงแล้วกับงานประกาศรางวัล Oscars หรือ Academy Awards ครั้งที่ 97 ประจำปี 2025 เป็นอีกครั้งที่แฟนภาพยนตร์ทั่วโลกต่างนั่งชิดติดจอทีวีเพื่อส่งเสียงเชียร์ให้กับหนังเรื่องโปรด ยิ่งไปกว่านั้นออสการ์ยังเป็นอีกเวทีสำคัญที่บุคคลเบื้องหน้าและเบื้องหลังต่างมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองและยกย่องฝีมือความสามารถของเหล่าเพื่อน มนุษย์กับการใช้แพสชันและหัวใจที่เชื่อในการทำหนัง รังสรรค์โลกภาพยนตร์ขึ้นมา
สำหรับใครที่พลาดติดตามการถ่ายทอดสดงานประกาศรางวัลดังกล่าวก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะวันนี้ BrandThink สรุปทุกรางวัลมาให้สาวกออสการ์ตามกรี๊ดและจดลิสต์ไปตามเก็บหนังกันแล้ว
สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับงานประกาศรางวัลคงหนีไม่พ้น ‘Best Actress’ โดยผู้ชนะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘ไมกีย์ แมดิสัน’ (Mikey Madison) กับบทบาทโสเภณี ใน ‘Anora’ ภาพยนตร์ที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 6 สาขา และกวาดไปมากที่สุดทั้งหมดรวม 5 รางวัล ได้แก่ Best Original Screenplay, Best Film Editing,ฺ Best Directing ตามมาด้วยรางวัลสุดยิ่งใหญ่อย่าง Best Picture ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ ที่ส่งให้ฌอน เบเกอร์ (Sean Baker) ผู้กำกับ Anora คว้าไปถึง 4 รางวัล
ในขณะที่ ‘Best Actor’ ตกไปอยู่ในมือของ ‘เอเดรียน โบรดี’ (Adrien Brody) จาก ‘The Brutalist’ ภาพยนตร์ที่สะท้อนชีวิตครอบครัวผู้อพยพ ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้รับไปอีก 2 รางวัล ได้แก่ Best Score และ Best Cinematography
สำหรับภาพยนตร์ ‘Emilia Perez’ ที่มีชื่อเข้าชิงมากที่สุดในปีนี้ถึง 12 สาขา ก็ชนะไป 2 รางวัล ได้แก่ บทบาทของ ‘Rita’ ที่ส่งให้ ‘โซอี ซัลดานา’ (Zoe Saldaña) ชนะ Best Supporting Actress และ เพลง ‘El Mal’ ที่สามารหิ้วรางวัล Best Original Song ไปครอบครอง และหากมีรางวัลนักแสดงสมทบหญิงก็ต้องมี ‘Best Supporting Actor’ ซึ่งผู้ชนะคือ ‘คีแรน คัลกิน’ (Kieran Culkin) จากภาพยนตร์เรื่อง ‘A Real Pain’ นั่นเอง
ทางด้าน ‘I’m not a Robot’ ก็ชนะรางวัล Best Live-Action Short Film ไป ส่วนภาพยนตร์คุณภาพอย่าง ‘Clonclave’ คว้าไป 1 รางวัลกับ Best Adapted Screenplay รวมถึง ‘The Substance’ ที่แม้จะชวดนำหญิงและรางวัลสาขาอื่นๆ ไป แต่กับสาขา Best Makeup and Hairstyling ก็ต้องยกให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เลยจริงๆ
ในหมู่ภาพยนตร์แอนิเมชันของปีนี้ก็นับเป็นโมเมนต์ที่น่าจับตามอง เพราะแต่ละเรื่องที่เข้าชิงต้องบอกว่าสูสีกันมากๆ แต่สุดท้าย ‘Flow’ แอนิเมชันน้องแมวดำและผองเพื่อนก็ชนะ Best Animated Feature ไปในขณะที่ ‘In the Shadow of the Cypress’ ชนะรางวัล Best Animated Short Film นอกจากนี้ ‘Wicked’ ภาพยนตร์มิวสิกคัลแห่งปีที่พูดถึงความแปลกแยกและการแบ่งชนชั้น ก็ชนะไปอีก 2 รางวัล ทั้ง Best Production Design และ Best Costume Design ที่ส่งให้ ‘พอล แทซเวล’ (Paul Tazewell) กลายเป็นดีไซเนอร์ชายผิวดำคนแรกที่ได้รับรางวัลในสาขานี้
มากันที่ภาพยนตร์สารคดีซึ่งปีนี้ ‘The Only Girl in the Orchestra’ ชนะรางวัล Best Documentary Short Film ในขณะที่ ‘No Other Land’ ก็ได้ Best Documentary Feature Film ไปครอบครอง โดย ‘เบเซิล เอดรา’ (Basel Adra) ผู้กำกับสารคดีเรื่องนี้ได้กล่าวคำพูดอันน่าจดจำบนเวทีขณะรับรางวัลอีกด้วยว่า “We call on the world to take serious action to stop the injustice and to stop the ethnic cleansing of Palestinian people”
‘I’m Still Here’ ภาพยนตร์ส่งตรงจากบราซิล ชนะรางวัล Best International Feature Film ต่อด้วยมหากาพย์ภาพยนตร์เรื่อง ‘Dune: Part 2’ คว้าไปอีก 2 รางวัล ทั้ง Best Sound และ Best Visual Effects
นอกจากนี้ยังมีการแสดงโชว์พิเศษของลิซ่า (Lisa), โดจา แคต (Doja Cat) และเรย์ (Raye) ในช่วงทริบิวต์ James Bond ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมอีกด้วย ส่วนใครที่แอบเชียร์เรื่องไหน สามารถมาคอมเมนต์บอกกันได้นะ