ถกประเด็น #เดียร์ลอง Onlyfans ครีเอเตอร์เต็มใจถ่าย คนจ่ายเต็มใจเปย์ แต่ ก.ม.ไทยไม่คุ้มครอง แถมเสี่ยงโดนข้อหาเพิ่ม

‘กวาง อาริศา’ นักร้องหญิงเสียงดีที่เคยได้รับฉายา ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ ซึ่งผันตัวมาเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์เซ็กซี่ลงแพลตฟอร์ม Onlyfans ในชื่อ #เดียร์ลอง ถูกผู้ใช้เน็ตนำคลิปออกมาเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ในไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ตำรวจไทยก็แถลงว่าจะเรียกเธอมาสอบปากคำ เพราะอาจเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซ้ำรอยเซ็กซ์ครีเอเตอร์ ‘ไข่เน่า’ ที่เคยถูกเรียกสอบปากคำก่อนหน้านี้ จนมีผู้ถกเถียงในทวิตเตอร์ว่าการหารายได้จากคอนเทนต์โอนลี่แฟนส์ ‘ผิดยังไง? ’ เพราะนี่คือแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ต้องจ่ายเงินสมัครถึงจะเข้าดูได้ ผู้ผลิตเองก็บรรลุนิติภาวะแล้ว คนที่นำคลิปมาปล่อยสู่สาธารณะน่าจะมีความผิดมากกว่า แต่ตำรวจกลับไม่สืบหาผู้ก่อเหตุ ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนก็มองว่าคอนเทนต์ของเดียร์ลองเข้าข่าย ‘ลามกอนาจาร’ ซึ่งผิดกฎหมายไทยแน่ๆ

ทวิตเตอร์เสียงแตก มีทั้งคนหนุนตำรวจ
และฝั่งที่อยากให้จับเว็บพนันมากกว่า

สื่อไทยหลายสำนักรายงานกรณี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานกรณีคลิปวิดีโอของเดียร์ลองถูกนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ในไทย หากพบว่าเข้าข่ายผิดข้อกฎหมายใดก็จะต้องดำเนินคดีทั้ง ‘เดียร์ลอง’ และ ‘ผู้ที่นำคลิปมาโพสต์เผยแพร่ส่งต่อ’ ในสื่อออนไลน์ของไทย

ประเด็นดังกล่าวทำให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากถกเถียงเรื่องนี้จนแฮชแท็ก #เดียร์ลอง ติดเทรนด์ยอดนิยมในประเทศไทยอยู่ช่วงหนึ่งของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยหลายคนมองว่าการผลิตคอนเทนต์ลงในโอนลี่แฟนส์ไม่น่าจะเป็นความผิดตามกฎหมายไทย เพราะเป็นการนำเข้าคลิปวิดีโอไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลในต่างประเทศ และเดียร์ลองก็เป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว เช่นเดียวกับผู้สมัครชมคลิปในโอนลี่แฟนส์ก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่มีเครดิตทางการเงิน ถ้าจะมีใครสักคนที่เข้าข่ายละเมิดกฎหมายและละเมิดผู้อื่น ก็น่าจะเป็นคนที่ลักลอบนำคลิปในแพลตฟอร์มแบบปิดมาเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะผิดทั้งกฎการใช้งานแพลตฟอร์ม และละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานของผู้อื่น

ส่วนผู้ที่เห็นด้วยกับตำรวจก็แย้งว่าคลิปของเดียร์ลองเข้าข่ายข้อมูลลามกอนาจาร ซึ่งผิดกฎหมายไทยอย่างแน่นอน อีกทั้งการผลิตและการนำเข้าข้อมูลลามกสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของเดียร์ลองก็น่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงน่าจะเข้าข่ายละเมิดกฎหมายไทย และต้องถูกดำเนินคดีในไทย เช่นเดียวกับที่กฎหมายลิขสิทธิ์ไทยไม่คุ้มครองข้อมูลที่เป็นความผิดทางกฎหมายอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนไม่น้อยมองว่ากรณีเดียร์ลองเป็นประเด็นขึ้นมาเพราะสังคมไทยไม่ยอมรับข้อเท็จจริงว่าการผลิตคอนเทนต์แนวเซ็กซี่ของผู้ใหญ่เป็นเรื่องถูกกฎหมายในหลายประเทศ และผู้ผลิตงานด้านนี้ก็ควรจะได้รับการคุ้มครองไม่ต่างจากงานอื่นๆ เพราะครีเอเตอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์บรรลุนิติภาวะแล้ว ถือเป็นการหารายได้ในโลกยุคดิจิทัล แต่เพราะค่านิยมเรื่อง ‘ศีลธรรมอันดี’ จำกัดหนทางทำมาหากินในเส้นทางนี้ของคนไทย และเป็นเรื่องย้อนแย้งมากที่ตำรวจไทยปราบปรามผู้ผลิตคอนเทนต์ออนไลน์อย่างเอาจริงเอาจัง แต่เวลาไปตรวจแหล่งท่องเที่ยวในยามราตรีและสถานบันเทิง-อาบอบนวดหลายแห่งทั่วประเทศ กลับไม่เคยเจอการค้าประเวณีในสถานที่เหล่านี้เลย

นอกจากนี้ยังมีผู้แสดงความเห็นว่าตำรวจไทยที่ทำคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์น่าจะไปตรวจสอบหรือหาทางปิดเว็บไซต์ที่ล่อลวงให้คนเล่นพนันออนไลน์หรือเว็บไซต์หลอกลวงให้คนลงทุนมากกว่าจะมาหาทางดำเนินคดีกับคนทำคอนเทนต์ในโอนลี่แฟนส์ซึ่งเป็นระบบปิด เพราะกรณีเว็บพนันออนไลน์นั้นทำกันอย่างเปิดเผยและมีการส่งลิงก์สแปมล่อลวงให้คนคลิกเข้าไปในสื่อสังคมออนไลน์และกลุ่มไลน์ต่างๆ จนทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย

‘เดียร์ลอง’ เสี่ยงเจอข้อหาอะไรใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ในส่วนของตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสอบปากคำเดียร์ลองมีการพูดถึง พ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตำรวจก็เรียกสอบปากคำ ‘ไข่เน่า’ เซ็กซ์ครีเอเตอร์ชื่อดังชาวไทยที่เผยแพร่งานในโอนลี่แฟนส์โดยอ้างอิงกฎหมายนี้เช่นกัน

ประเด็นนี้มีคำอธิบายจาก พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เคยให้ข่าวว่า เซ็กซ์ครีเอเตอร์ (Sex Creator) หรือ พอร์นฮับเบอร์ (Pornhubber) ที่นำภาพหรือคลิปของตนเองในลักษณะลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น OnlyFans หรือเว็บไซต์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน รวมถึงกลุ่มลับต่างๆ ที่เปิดรับสมาชิกและมีการเรียกเก็บค่าเข้ากลุ่มเพื่อรับชมคลิปหรือภาพลามกอนาจาร ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายของไทย เพราะผู้ที่ปรากฏในคลิป ผู้ผลิต หรือผู้นำคลิปไปเผยแพร่ ‘ได้รับประโยชน์ใดๆ ’ จากผู้อื่นเป็นค่าตอบแทน และที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาโดยตลอด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติย้ำด้วยว่า แม้พฤติการณ์ดังกล่าวในหลายประเทศถือว่าไม่เป็นความผิด แต่สำหรับประเทศไทย กฎหมายได้บัญญัติไว้เป็นความผิดอย่างชัดเจนในกรณีต่างๆ กัน โดย ‘ผู้ผลิต’ และ ‘ผู้ที่ปรากฏในสื่อลามกผู้ใหญ่’ (อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป) รวมถึง ‘ผู้นำเข้า เผยแพร่ สู่ระบบคอมพิวเตอร์’ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมีบทลงโทษจำคุกตั้งแต่ 3-5 ปี หรือปรับเงินตั้งแต่ 60,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ ‘ผู้ครอบครองสื่อลามกผู้ใหญ่’ ที่ผู้ปรากฏในสื่อมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ถ้าเป็นการครอบครองสื่อลามกเด็ก หรือ Child Pornography (บุคคลในสื่อลามกอายุต่ำกว่า 18 ปี) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อ้างอิง

• Twitter. #เดียร์ลอง. https://bit.ly/3rl9qKm
• CSD. เผยแพร่ข้อมูลลักษณะลามก อนาจาร รับโทษหนัก. https://csd.go.th/5111/
• The Standard. ‘ค่าตอบแทนแค่ยาพิษเคลือบน้ำตาล’ ตำรวจเตือนถ่ายคลิปเซ็กซ์ลงใน OnlyFans แลกเงิน ผิดกฎหมายไทย. https://bit.ly/3INorKW