‘โอฮิโตริซามะ’ วิถีของคนที่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะมันคล่องตัว ไม่ต้องรอใคร
‘ความคนเดียว’ มักถูกพูดถึงบ่อยมากทั้งอินโทรเวิร์ต โลกส่วนตัวสูง สันโดษ แยกตัวออกจากสังคมแบบฮิคิโคมิริ และอีก buzzword หนึ่งที่ดูเหมือนจะถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้งคือ
‘โอฮิโตริซามะ’ (Ohitorisama) หรือในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Super Solo เพื่อเรียกวัฒนธรรมของวิถีชีวิตการทำอะไรคนเดียว เพียงลำพัง เพราะคล่องตัว ไม่ต้องรอใคร และมีความสุขกับการอยู่กับตัวเองของคนญี่ปุ่น
ก่อนอื่นขอเท้าความที่มาที่ไปของวิถีแห่ง โอฮิโตริซามะ ก่อน โดยบางแหล่งอ้างอิงกล่าวว่ามาจากหนังสือ ‘Ohitorisama’ ในปี 2001 ที่ผู้เขียนได้แปลงความหมายของคำนี้ที่แปลว่า คนเดียว ให้กลายเป็นวิถีการดำเนินชีวิตแบบคนเดียว ซึ่งอ้างอิงมาจากการเปลี่ยนแปลงของชีวิต คุณค่า และบทบาทของผู้หญิงร่วมสมัยของญี่ปุ่น รวมถึงแนวคิด ‘พื้นที่ส่วนตัว’ ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น
หลายคนเลือกที่จะใช้ช่วงเวลาส่วนตัวอย่างมีความสุขโดยไม่ถูกรบกวนหรือรบกวนผู้อื่น แม้ความจริงพฤติกรรมเหล่านี้จะเคยเป็นวิถีของพนักงานออฟฟิศชายวัยกลางคนที่ยังโสดมาก่อนก็ตาม แต่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็เลือกที่จะไปกินข้าว ไปบาร์ ดื่มเบียร์ หรือทำกิจกรรมต่างๆ คนเดียวได้อย่างปกติ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในญี่ปุ่น
.
แล้วการใช้ชีวิตแบบวิถี โอฮิโตริซามะ มันดีต่อใจอย่างไร?
.
เพราะถูกมองว่าเป็นวิธีการฝึกฝนการพึ่งพาตนเอง ใช้สำรวจความสนใจส่วนตัว และค้นหาการเติมเต็มในประสบการณ์ของแต่ละคน มักถูกมองว่าเป็นแนวคิดเชิงบวกและเสริมพลัง เน้นความสำคัญของการดูแลตนเองรวมถึงการเติบโตส่วนบุคคล
MOODY ขออธิบายรายละเอียดของประโยชน์แต่ละข้อไว้ ดังนี้
- ส่งเสริมความเป็นอิสระ พึ่งพาตนเอง รวมถึงดูแลตัวเอง: ส่งเสริมให้แต่ละคนพึ่งพาตนเอง สิ่งนี้ส่งเสริมความรู้สึกของความเป็นอิสระและการพึ่งพาตนเองซึ่งสามารถเพิ่มความนับถือตนเองและความมั่นใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราเห็นความสำคัญของตัวเองมากขึ้น ทำให้เห็นความสำคัญของการดูแลตัวเอง มีเวลาพักผ่อน ฟื้นฟูร่างกาย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างความสุขและเติมเต็ม ส่งเสริมสุขภาพโดยรวมและสุขภาพจิตที่ดี
- ได้ค้นพบตนเองและการเติบโตส่วนบุคคล: เพราะแต่ละคนมีโอกาสที่จะสำรวจความสนใจ ความชอบ และจุดแข็งของตนเอง กระบวนการค้นพบตนเองนี้สามารถนำไปสู่การเติบโตส่วนบุคคล การตระหนักรู้ในตนเองที่เพิ่มขึ้น และความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับ
- มีส่วนช่วยลดแรงกดดันทางสังคมทางสังคม: โอฮิโตริซามะ ช่วยให้บุคคลสามารถหลีกหนีความคาดหวังและแรงกดดันทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับบรรทัดฐานทางสังคมแบบดั้งเดิม ให้อิสระในการเลือกกิจกรรมและประสบการณ์ตามความชอบส่วนบุคคล โดยไม่จำเป็นต้องตอบสนองความต้องการของผู้อื่นหรือปฏิบัติตามความคาดหวังของสังคม
- ช่วยฝึกการมีสมาธิและสติการรับรู้เพิ่มขึ้น: เพราะการใช้เวลาในกิจกรรมเพียงอย่างเดียวสามารถสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการฝึกเจริญสติและสร้างสมาธิ ที่ปราศจากสิ่งรบกวนหรืออิทธิพลจากภายนอก ทำให้เราสามารถจดจ่อกับช่วงเวลาปัจจุบัน สะท้อนความคิดและความรู้สึกของตน และปลูกฝังความเข้าใจเกี่ยวกับตนเองได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล: โอฮิโตริซามะช่วยผ่อนคลายจากภาระหน้าที่ทางสังคม ความวิตกกังวลทางสังคม และความกดดันในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง มอบโอกาสในการเติมพลัง ผ่อนคลาย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่นำความสุขและความผ่อนคลาย ซึ่งช่วยลดระดับความเครียดและความวิตกกังวล
แม้วิถีออย่างโอฮิโตริซามะ จะกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมญี่ปุ่น แต่สำหรับคนไทยที่มีความเป็นอิสระสูงอยู่แล้ว สิ่งนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ต่อให้หลายคนที่มักชอบมาไหนไปไหนคนเดียวบางทีก็ถูกมองว่าเป็นคนเหงา แต่เปล่าเลยพวกเขาแค่พอใจและมีความสุขกับการทำอะไรคนเดียว
ขอย้ำอีกรอบว่าโอฮิโตริซามะ ไม่ใช่คำที่บ่งบอกถึงบุคลิกภาพส่วนตัวที่บ่งชี้ว่าคนนี้คือ Introvert คนนี้คือ Hikikomori เพราะต่อให้เป็นคน Extrovert มากๆ ก็สามารถทำอะไรคนเดียวก็ได้ เพราะ โอฮิโตริซามะ เป็นเพียงวิธีการใช้ชีวิตเท่านั้น ในบางมู้ดอารมณ์ บางทีหลายคนก็แค่สบายใจที่จะทำอะไรคนเดียวโดยไม่ต้องคอยระวังความรู้สึกของคนอื่น หรืออยากจะเสพความสุขจากกิจกรรมที่ชอบตามลำพังก็เท่านั้นเอง
อ้างอิง
- Ohitorisama: Japanese art of doing it alone https://bit.ly/3XBaFUc
- The Rise of the Ohitorisama https://bit.ly/3O0qdOm