‘OBJECTS’ นิทรรศการเดี่ยวที่เย็นชาและลึกซึ้ง ของ อธิษว์ ศรสงคราม

4 Min
1452 Views
19 Oct 2021

นิทรรศการ ‘OBJECTS’ ไม่ใช่ที่ที่เราจะพบภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก หรือเรื่องราวซาบซึ้งของผู้คน แต่เป็นภาพของ ‘วัตถุ’ ไม่มีทั้งชีวิตและอารมณ์ เป็นภาพเรียบๆ เย็นชาที่เจ้าของภาพถ่ายเรียกมันว่า ‘แบน’ แต่มีเสน่ห์และอาจซ่อนความลึกซึ้งอยู่ภายใน

“ในความไม่มีอารมณ์มันมีอารมณ์อยู่ สำหรับเรา object เหล่านี้มันมีอารมณ์มีความลึกซึ้งบางอย่างที่น่าถูกเก็บเอาไว้”

อธิษว์ ศรสงคราม หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ อ้วน Armchair ปัจจุบันเป็นศิลปินภาพถ่ายที่ไม่เรียกตัวเองว่า ‘ช่างภาพ’ แต่เป็นศิลปินที่ใช้ภาพเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอด และเขาเชื่อว่าในภาพถ่ายวัตถุที่สุดแสนจะเย็นชานั้นความจริงมีเสน่ห์และอารมณ์โรแมนติกเล็กๆ ซ่อนอยู่ ผ่านเส้นสาย โครงสร้าง การใช้งานที่หลายครั้งดูคลุมเครือ เป็นปริศนา และน่าค้นหา โดยไม่ต้องมีเรื่องราวบริบทแวดล้อมมาเกี่ยวข้องเลย

ชุดภาพถ่าย OBJECTS เป็นชุดภาพที่ประกอบด้วยภาพวัตถุแปลกตาที่เขาเก็บเกี่ยวไว้ตั้งแต่ตอนที่ได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนีในปี 2006 จนเรียนจบและได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ รวมถึงภาพจำนวนมากที่เก็บจากประเทศไทยเองทั้งวัตถุในที่รกร้าง บางภาพก็กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม บางภาพก็แตกแยกจนน่าสงสัย

ถ้าย้อนกลับไปเกือบ 20 กว่าปีก่อน ตอนนั้นอธิษว์กำลังอยู่ในช่วงใกล้เรียนจบจากมหาวิทยาลัย ในช่วงที่อินเทอร์เน็ตเพิ่งเข้ามาเป็นของทั่วๆ ไป เขาค้นหาภาพเพื่อใช้เป็นอ้างอิงในการทำธีสิส และหนึ่งในนั้นคือ Thomas ruff ช่างภาพชาวเยอรมนีคนหนึ่งที่ถ่ายภาพสุดแสนจะเย็นชาเหมือนกับรูปถ่ายเพื่องานวิทยาศาสตร์ แต่มีความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ และค้นพบว่าช่างภาพคนนี้เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยในเยอรมนี

“ตอนนั้นเราก็อยากเรียนกับ Thomas มาก ก็ไปสมัครเรียนอะไรเรียบร้อย ปรากฏว่าเขาเลิกสอนไป 2 ปีแล้ว” อธิษว์เล่าพร้อมเสียงหัวเราะ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนกับอาจารย์ในดวงใจอย่างที่คาดหวัง แต่ระบบการเรียนของตะวันตกที่เน้นการพูดคุยละถกเถียงก็ทำให้เขาค้นหาและเข้าใจความชอบของตัวเอง

นิทรรศการ ‘OBJECTS’ คือชุดภาพถ่ายที่ไร้อารมณ์แต่มีอารมณ์ เป็นภาพที่ได้รับอิทธิพลจากงานแบบ objective photography หรือการถ่ายภาพแบบที่ไม่ใส่ความคิดเห็น ไร้อคติ ไม่ตัดสิน ไม่มีเรื่องราว มีแค่ภาพของวัตถุนั้นๆ อย่างที่มันเป็น เห็นโครงสร้าง พื้นผิว และทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นวัตถุเหมือนกับภาพถ่ายวิทยาศาสตร์ แต่ภาพในชุด OBJECTS ไม่ได้เป็นงานแบบ objective photography เลยเสียทีเดียว เพราะอธิษว์ใช้ไอเดียเหล่านี้ในการ ‘สร้าง’ ภาพขึ้นมา โดยในบางภาพอาจมีการลบองค์ประกอบ หรือซ้อนบางอย่างอย่างเข้าไปเพื่อให้ความเป็นวัตถุชัดเจนขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็น

“ภาพนี้ความจริงมันไม่ใช่รูปหินธรรมดา ความจริงมันคือเศษซากจากการก่อสร้างเป็นเศษที่เหลืออยู่ เราไปเจอที่ลานจอดรถของวัด และเห็นว่าคนเอาเศษซากพวกนี้มาใช้ เอามาทาสีวางในจุดต่างๆ เหมือนเป็นจุดในลานจอดรถ เรามองว่ามันเจ๋งดี”

ภาพหินสีแดงนี้ถูกใช้เป็นภาพปกของนิทรรศการ ถ้าหากเรามองเผินๆ ก็จะเห็นว่ามันเป็นภาพหินสีแดงธรรมดาๆ ก้อนหนึ่ง แต่สำหรับอธิษว์ เขามองเห็นชอบเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาในก้อนหินธรรมดาในลานจอดรถนี้

การทำงานเพื่อเก็บรวบรวมคอลเลกชัน OBJECTS คือการเดินไปเรื่อยๆ เดินทางไปที่ที่ยังไม่เคยเดินไป เมื่อเจอกับอะไรที่น่าสนใจจะเก็บไปตกตะกอนและคิดว่าจะทำอะไรกับมันได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่การวางแผนที่ชัดเจนว่าต้องการเดินไปเพื่อหาอะไรกันแน่ แต่นี่เป็นวิธีที่อาจไม่ง่ายเท่าไรสำหรับประเทศไทยเพราะอธิษว์บอกว่าอากาศในเมืองไทยร้อนมากและกรุงเทพฯ เองก็ไม่ได้ดีไซน์ไว้เพื่อการเดิน

สถาปัตยกรรมใหญ่ๆ ที่โดดเด่นอันหนึ่ง นี่เป็นรั้วที่ดูเป็นปริศนาที่อธิษว์เจอบนเกาะ Lanzarote ในมหาสมุทรแอตแลนติก เกาะภูเขาไฟที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างที่เขากำลัง trekking ก็เจอกับกำแพงกลางทุ่งที่เกือบจะเป็นทะเลทราย ที่ไม่รู้ว่าใครสร้างและสร้างไว้เพื่ออะไร นี่เป็นอีกหนึ่งภาพที่เขาใช้วิธีการลบบ้านหลังนึงตรงมุมภาพออกเพื่อให้เห็นความเป็นปริศนาของวัตถุบนเกาะอย่างชัดเจน

ในชุดภาพนี้เราเห็นภาพชุดนึงที่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษเพราะมันเป็นภาพ 2 ภาพของวัตถุที่ดูคล้ายกันแต่มาจากพื้นที่ห่างกันหลายพันกิโลเมตร เพราะภาพหนึ่งถูกถ่ายที่มอสโค ประเทศรัสเซีย และอีกภาพถูกถ่ายในเขตบางเขนของกรุงเทพฯ โดยที่มันเป็นภาพที่แขวนพวงหรีดในงานของคุณแม่เพื่อนของอธิษว์เอง ส่วนวัตถุที่คล้ายกันในมอสโคเป็นเหมือนกับกรวยที่ตั้งอยู่ในที่จอดรถทั่วไป เป็นความเหมือนที่แตกต่างกันไกลและอธิษว์เชื่อว่าเป็นเสน่ห์ของวัตถุที่ถูกซ่อนอยู่ในภาพ

เราจะเห็นว่าถูกใส่ไว้ในกรอบรูปซึ่งมีสีเดียวกับตัววัตถุที่เป็นตัวหลักของภาพ เพราะอธิษว์เชื่อว่ากรอบรูปเองก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่มันไม่ควรตกแต่งภาพข้างใน ไม่ควรทำให้ภาพสวยขึ้นหรือแย่ลง มันเป็นอยู่นิ่งๆ และเป็นส่วนหนึ่งของภาพได้โดยที่ไม่แย่งสายตาไปจากภาพถ่าย

“อันนี้เหมือนเจอที่ราชภัฏที่อุดร จอในกองขยะ คือเราค่อยๆ เข็นมันออกมาจากกองขยะ มันไม่ได้แค่เราชอบนะ มันมีความหมายส่วนหนึ่งว่าลูกโลกมาอยู่บนพื้น ถูกจัดวางมีฉากหลังเป็นต้นไม้ โลกมันกลับหัวอยู่รึเปล่า มันต้องค่อยๆ อ่านลึกเข้าไป”

อย่างที่เราเล่าไปในข้างต้นงานในนิทรรศการ OBJECTS เป็นการถ่ายทอดภาพของวัตถุที่ไม่ได้มีบริบทแวดล้อม ไม่มีการตัดสิน แต่ในความเป็นจริงหลายคนมักมองว่าภาพถ่ายเป็นความจริงที่เป็นรูปธรรมอย่างหนึ่ง แน่สำหรับอธิษว์แล้ว เขาไม่ได้มองภาพถ่ายกับความจริงในแง่มุมแบบนั้น

“รูปถ่ายมันไม่ใช่หลักฐาน100% มันมีคนที่มาถกกันว่ามันสะท้อนความจริงได้จริงไหม สะท้อนอาจจะพอได้ แต่ความจริงเลยมันมีข้างหน้าและข้างหลังที่เราถ่าย ถ้ายิ่งถ่ายคนยิ่งลำบากว่าอะไรคือความจริง แล้วจริงแบบไหน ไอเดียของช่างภาพ หรือจริงแบบที่เป็นอยู่”

เช่นเดียวกับรูปในนิทรรศการแม้ว่าจะเป็นการถ่ายภาพที่ถ่ายทอดให้เห็นโครงสร้างและความจริงของวัตถุ แต่มันถูกจัดวาง ตกแต่ง ซึ่งอธิษว์มองว่าหลายภาพเขา ‘สร้าง’ มันขึ้นมาไม่ใช่การเก็บช่วงเวลาเท็จจริงเหมือนกับที่หลายคนเข้าใจ เพื่อแสดงความต้องการบางอย่างของช่างภาพออกมา ในภาพถ่ายอื่นๆ ก็เช่นกันไม่ได้หมายความว่าภาพจะเป็นหลักฐานของความจริงได้เสมอไปเพราะมันอาจถูกเลือกและมองในมุมของช่างภาพ หรือมุมมองของใครบางคนที่อาจไม่สามารถบอกเล่าความจริงได้ทั้งหมด

และในมุมมองเดียวกัน ‘ความสวย’ ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีความจริงอยู่แต่เป็นรสนิยมที่แตกต่าง บางคนเห็นภาพวัตถุและหลงใหลในเส้นสาย โครงสร้าง ความครุมเครือในฟังก์ชันของมัน หรืออาจมองลึกลงไปจนเห็นอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ภายใน ในขณะที่บางคนอาจสัมผัสถึงความเย็นชาไร้ชีวิตของวัตถุและไม่ได้หลงเสน่ห์ใดๆ กับมันเป็นเรื่องธรรมดา

เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกัน

ติดตามนิทรรศการ OBJECTS กับชุดภาพวัตถุที่ไร้ชีวิต ไร้อารมณ์ เย็นชาแต่อาจซ่อนความรู้สึกลึกซึ้งเอาไว้ภายใน ที่ Hub of Photography ถนนศรีนครินทร์