3 Min

รู้ไหม เกาหลีใต้กำลังเต็มไปด้วยป้าย ‘ห้ามเด็กเข้า’ และ ‘เขตปลอดเด็ก’

3 Min
715 Views
28 Jun 2023

ไม่ใช่ความลับอะไรที่เกาหลีใต้เป็นประเทศที่สังคมผู้สูงอายุอยู่ในระดับที่ ‘โหดมาก’ โหดกว่าญี่ปุ่น เพราะเกาหลีใต้คือประเทศที่อายุเฉลี่ยคนแก่สูงแทบจะที่สุดในโลก เท่านั้นไม่พอ ประเทศนี้ยังเป็นประเทศที่ผู้หญิงมีลูกกันน้อยที่สุดในโลกด้วย (ศัพท์เทคนิคจะเรียกว่า ‘อัตราเจริญพันธุ์’ ต่ำที่สุดในโลก)

แม้รัฐบาลเกาหลีใต้ทุ่มเงินกว่า 7 ล้านล้านบาทในเวลา 16 ปีที่ผ่านมาเพื่อจะทำให้คนเกาหลีมีลูกกันมากขึ้น และหลุดพ้นจากสังคมผู้สูงอายุ…แต่ก็เหมือนทุกประเทศ การเทเงินลงไปเพื่อให้คนมีลูกมากขึ้นไม่เคยได้ผล

อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้อาจจะหนักกว่านั้น เพราะทุกวันนี้นอกจากคนจะไม่ค่อยมีลูกกัน ตามร้านอาหาร ร้านกาแฟและสถานที่ต่างๆ ยังติดป้าย ‘ห้ามเด็กเข้า’ ไม่ได้ต่างจากป้าย ‘ห้ามสัตว์เลี้ยงเข้า’ จนดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของสังคมเกาหลีปัจจุบันไปแล้ว 

แต่เกาหลีใต้มาถึงจุดนี้ได้ยังไง? มันมีที่มาที่ไป

ย้อนไปปี 2012 มี ‘ดราม่า’ ที่ร้านอาหารร้านหนึ่งทำน้ำแกงหกลวกเด็ก แม่เด็กก็เล่นใหญ่ขอความเห็นใจชาวเน็ตว่าจะมีการฟ้องร้องทางร้านใหญ่โต จนสุดท้ายทางร้านก็ต้องยอมจ่ายค่าเสียหายก้อนโตให้แม่เด็ก

ตอนแรกชาวเน็ตเทใจให้แม่เด็ก ก่อนที่คดีจะ ‘พลิก’ เพราะมีคนนำคลิปก่อนจะเกิดเหตุการณ์มาเผยแพร่ และทำให้คนเห็นกันว่าเด็กที่โดนน้ำแกงราดนั้นวิ่งเล่นซนไปทั่วร้าน จนสุดท้ายวิ่งไปชนพนักงาน และทำให้โดนน้ำแกงราดจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวในที่สุด กระแสก็เลยตีกลับว่าทำไมแม่เด็กไม่ดูแลลูกตัวเองให้ดี เพราะการที่เด็กวิ่งไปทั่วร้านนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมที่จะทำในร้านอาหาร

เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มให้ธุรกิจต่างๆ ไม่อยากให้มีเด็กเล็กๆ เข้ามาใช้บริการ เพราะไม่อยากมีปัญหาแบบเดียวกับร้านผู้เคราะห์ร้าย และอีก 2 ปีต่อมา ในปี 2014 ป้าย ‘เขตปลอดเด็ก’ ก็มีเต็มเกาหลีใต้แล้ว 

พอมีร้านหรือสถานที่ที่ติดป้ายแบบนี้เยอะขึ้น คนเกาหลีใต้จำนวนมากก็เริ่มรู้สึกถึงความสุขสงบที่ในร้านไม่มีเด็กวิ่งวุ่นวายและส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ทำให้หลายๆ ร้านติดป้าย ‘เขตปลอดเด็ก’ เพราะมันดีต่อยอดขายมากกว่า หรือพูดง่ายๆ คือเพราะกลุ่มลูกค้าก็ต้องการให้เป็นแบบนั้น บางคนจะหาร้านกาแฟนั่งก็จะต้องดูว่าร้านมีป้าย ‘ห้ามเด็กเข้า’ หรือไม่ ก่อนตัดสินใจจะเข้าร้าน โดยผลโพลทั้งหลายก็ยืนยันจริงๆ ว่าผู้ใหญ่เกาหลีใต้นั้นก็ชอบให้มี ‘เขตปลอดเด็ก’ กัน

บางคนอาจช็อกมากที่ป้ายแบบนี้มีทั่วไปในเกาหลีใต้ และอาจจะช็อกไปอีกว่าจริงๆ เกาหลีใต้ขึ้นป้ายห้ามคนกลุ่มโน้นนี้เข้าสถานที่จนแทบจะเป็นเรื่องปกติมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ‘ห้ามคนแก่เข้า’ ‘ห้ามวัยรุ่นเข้า’ ‘ห้ามอาจารย์มหาวิทยาลัยเข้า’ ‘ห้าม YouTuber เข้า’ ฯลฯ โดยการห้ามทั้งหมดก็จะมี ‘เหตุผล’ กำกับเสมอ เช่นการห้ามคนแก่เข้า เพราะมีสถิติว่าผู้ชายอายุประมาณ 49 ปีขึ้นไปชอบลวนลามพนักงานสาวๆ เมื่อมาใช้บริการ หรือร้านที่ห้าม YouTuber เข้าก็เพราะพวกนี้ชอบเข้าไปถ่ายทำคลิปกินโชว์ (Makbang) และทำให้แขกคนอื่นๆ ของสถานที่รู้สึกเสียบรรยากาศ เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ การห้ามคนกลุ่มใดสักกลุ่มเข้าสถานที่ต่างๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย และก็ไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญ ทั้งที่จริงๆ องค์กรอิสระอย่างกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนนั้นเคย ‘วินิจฉัย’ มาตั้งแต่ปี 2017 แล้วว่า การทำพื้นที่ที่ ‘ห้ามเด็กเข้า’ เป็นพฤติกรรมที่มีลักษณะการเลือกปฏิบัติบนฐานของ ‘อายุ’ และเป็นการละเมิดสิทธิ ควรเลิกพฤติกรรมพวกนี้ อย่างไรก็ดี การตัดสินที่ว่าไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย เรื่องแบบนี้จึงดำเนินต่อไปในสังคมเกาหลี

ถ้าไปดูตัวบทของรัฐธรรมนูญ มีการห้าม ‘เลือกปฏิบัติ’ กับผู้คนบนฐานของ ‘เพศสภาพ ศาสนา และสถานะทางสังคม’ ดังนั้นจึงไม่ได้มีการห้ามเลือกปฏิบัติบนฐานของเรื่องอื่นๆ ดังนั้นในแง่นี้การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลด้านอายุจึงถือว่าไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญ

แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่เป็นฐานให้ ‘เขตปลอดเด็ก’ ในเกาหลีใต้ดำเนินไปได้ก็คือ ความเห็นของคนเกาหลีใต้เองที่ผลโพลชี้ว่าคนกว่า 70 เปอร์เซ็นต์เห็นดีเห็นงามกับการที่หลายๆ พื้นที่กันไม่ให้เด็กเข้า เพราะมันทำให้ ‘บรรยากาศ’ ของพื้นที่นั้นดีขึ้นจริงๆ

แต่ทั้งหมดนี้คนที่ปวดหัวที่สุดก็คือ ‘แม่ๆ’ และผู้ปกครองทั้งหลาย เพราะการเลี้ยงเด็กก็ยากอยู่แล้ว การที่ร้านอาหารหรือสถานที่ต่างๆ ห้ามเด็กเข้า ก็ทำให้ชีวิตแม่ๆ ยากขึ้นไปอีก จนเริ่มมีนักการเมืองที่มีลูกเล็กพยายามออกกฎหมายเพื่อยุติ ‘เขตปลอดเด็ก’ เพราะเรื่องนี้สร้างปัญหาให้แก่คนที่มีลูกอย่างมาก 

แต่ก็อย่างที่บอก เรื่องนี้เป็นไปได้ยาก เพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่ก็ชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้

และสุดท้าย ถ้าทุกอย่างยังดำเนินไปแบบนี้ เอาจริงๆ ภาพของโลกที่ ‘ปราศจากเสียงของเด็กๆ’ แบบในหนัง Children of Men อาจจะเกิดในเกาหลีใต้เป็นที่แรกก็เป็นได้

อ้างอิง