เรียนรู้ค่านิยมหลัก 4 ประการจากนิด้า อย่าง ‘WISE’ มีบทบาทอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในทุกด้าน 

ในความก้าวหน้าใช่ว่าจะมีเพียงแค่ผลดี เพราะการเปลี่ยนแปลงต่างตามมาด้วยการปรับตัว ผู้คนที่ปรับตัวไม่ทันอาจจมหายไปในช่องว่างของการพัฒนา

การรับมือต่อความเปลี่ยนแปลง จึงนับเป็นความท้าทายที่ทุกคนต่างต้องเร่งปรับตัว เพื่อตั้งรับให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ เช่นเดียวกับ ‘บัณฑิตนิด้า’ กลุ่มผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ที่สะท้อนเรื่องราวค่านิยม 4 ประการ หรือ ‘WISE’ ค่านิยมหลักที่เป็นดั่ง DNA ที่สร้างให้พวกเขารับมือต่อความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน 

วันนี้เราจะพามารู้จักกับ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หรือ National Institute of Development Administration (NIDA) กับค่านิยมหลักที่ช่วยให้บัณฑิต และทุกคนสามารถรับมือกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้

‘นิด้า’ หรือสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นสถาบันการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ในกำกับของรัฐ เปิดสอนเฉพาะหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก ที่เปิดสอนมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2509 และมีชื่อเสียงในด้านของคณาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องที่สอน พร้อมด้วยหลักสูตรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล และพัฒนาเนื้อหาการเรียนการสอนได้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง

นิด้า กับค่านิยมหลัก 4 ประการที่มีบทบาทในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของการเรียนที่นิด้า คือ การปลูกฝังค่านิยมหลัก 4 ประการ ที่เรียกว่า ‘WISE’ โดยแต่ละตัวย่อมาจาก W – Wisdom ปัญญา, I – Integrity ความซื่อตรง, S – Sustainable Impacts การสร้างผลกระทบที่ยั่งยืน และ E – Empathy ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ค่านิยมที่จะช่วยให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้ วันนี้เราจะขอพาทุกคนมาเรียนรู้ค่านิยมหลักนี้ ผ่านมหาบัณฑิตปริญญาโท ตัวแทนผู้สำเร็จการศึกษา ที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 45 ในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 ทั้ง 6 คน ได้แก่ นิสิต พงษ์วุฒิประพันธ์, ณัษฐวุฒิ กองสวัสดิ์, ปฏิภาณ จันทร์ชาตรี, พัชร์ลิตา อัครปฐมลักษณ์ , นาวาอากาศโทภาณุวัฒน์ ไวกสิกรณ์ และ  วีระพงษ์ พงษ์นารายณ์ ว่าค่านิยม ‘WISE’ ของนิด้า แต่ละข้อสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และปรับใช้ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้อย่างไรบ้าง

Quote “เราว่าค่านิยมของแต่ละองค์กรไม่จําเป็นต้องเหมือนกันนะ แต่ภาพรวมวันนี้ทําอะไรหลายอย่างก็ต้องดูเรื่องของความเท่าเทียมกัน ความเป็นอิสระ ความเป็นกลาง ฉลาดแค่ไหนแต่โกงมันก็ไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่นิด้าปลูกฝังเข้าไปตลอด”

มาเริ่มกันที่ นิสิต พงษ์วุฒิประพันธ์ มหาบัณฑิต คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

ที่นำค่านิยม ‘WISE’ ทั้ง 4 ตัวของนิด้าไปปรับใช้กับธุรกิจให้เติบโตและทันโลกได้

แม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนานอย่างคุณนิสิต การเรียนที่นิด้าก็ยังสร้างประโยชน์และเพิ่มพูนความรู้ที่มากขึ้นได้

“สําหรับตัวผม ทํางานมานานประมาณ 30 ปี ตั้งคําถามเสมอว่า เวลาเรียนเรื่องพวกนี้ มันเข้ากับองค์กรที่เราทําอยู่ยังไง ก็เรียกว่ามันเติมเต็ม เอามาใช้ประโยชน์ได้เลยว่า ถ้าเป็นการจัดการทรัพยากรมนุษย์ องค์กรเราควรจะทำยังไง เอาไปใช้ในการบรรยายหรือการตัดสินใจได้ มันใช้ประโยชน์ได้ดีเลยครับ”

สำหรับค่านิยมทั้ง 4 ตัว ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานในธุรกิจได้จริงๆ 

“ค่านิยมของนิด้ามันไปตรงกับโรงเรียนตั้งแต่สมัยที่เรียน ตั้งแต่แรกเลย มันคือความยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง องค์กรเราก็นำมาใช้เหมือนกัน คือธรรมาภิบาล เราต้องทําธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งของนิด้าคือตัว I จาก Integrity หรือความซื่อตรง ถ้าตัวนี้มันหย่อนยานลงไปมันก็กลายเป็นความเหลื่อมล้ำ เป็นความไม่เท่าเทียม ซึ่งผมว่าค่านิยมของแต่ละองค์กรไม่จําเป็นต้องเหมือนกันนะ แต่ภาพรวมๆ วันนี้ทําอะไรหลายอย่างก็ต้องดูเรื่องของความเท่าเทียมกัน ความเป็นอิสระ ความเป็นกลาง ฉลาดแค่ไหนแต่โกงมันก็ไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่นิด้าปลูกฝังเข้าไปตลอด”

“สำหรับตัว S จาก Sustainability วันนี้เราทําอะไร ถ้าเราไม่ได้มองว่ามันจะยั่งยืนไหม มันกลายเป็นความไม่ยั่งยืน เดี๋ยวนี้ถ้าองค์กรไม่ได้ยึดหลักความยั่งยืน ก็จะยากที่จะประสบความสําเร็จ เพราะมันจะไม่ต่อเนื่อง ผมดูแลเรื่องของความยั่งยืนขององค์กรด้วย เราดีไซน์ธุรกิจเลยว่าเราต้องทําธุรกิจที่เป็น Green & Clean แล้วก็ดู Sustainability อย่างทําร้านกาแฟ Amazon ก็ส่งเสริมเกษตรกรปลูกกาแฟแบบยั่งยืน แก้วต่างๆ ที่ใช้เป็น Bio cup ที่ย่อยสลายได้ เราจ้างผู้สูงอายุมาเป็นบาริสต้า เพราะว่าสังคมเราเป็นสังคมสูงวัย จ้างงานผู้พิการทางการได้ยิน นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของความยั่งยืน เราไม่สร้างมลพิษที่จะออกไปถึงชุมชนรอบๆ องค์กรของเรา”

“สำหรับตัว E จาก Empathy เราใช้คําว่า ‘เรา Go together’ เรามีวิสาหกิจชุมชน ให้ชุมชนต่างๆ มีผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจมาขาย แล้วก็ตั้งโครงการที่ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ที่ชื่อว่า ‘ไทยเด็ด’ บางผลิตภัณฑ์เราก็เอามาขายในร้าน Amazon เพื่อให้ความเป็นอยู่ของเขาดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น นอกจากการจ้างงานแล้ว ก็จะได้มีโอกาสในการขายของ”

Quote “มาเรียนที่นิด้า เหมือนไม่ได้มาเรียน เหมือนวันธรรมดาทํางาน แล้ววันเสาร์อาทิตย์มาพักผ่อน แต่ว่าเป็นการพักผ่อน โดยการเพิ่มพูนความรู้ รู้ตัวอีกทีก็จะรับปริญญาแล้ว”

ถัดมาที่ ณัษฐวุฒิ กองสวัสดิ์ มหาบัณฑิต คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ นิด้า และในตอนนี้ยังเป็น Senior Account Specialist จากบริษัท เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil Limited) กับค่านิยมที่นำไปใช้ได้ตั้งแต่ในตอนเรียน และส่งต่อสู่รุ่นน้องต่อไปได้

และสำหรับการเรียนที่นิด้า ณัษฐวุฒิ ให้ความเห็นว่า

“มาเรียนที่นิด้าเหมือนไม่ได้มาเรียน เหมือนวันธรรมดาทํางาน แล้ววันเสาร์อาทิตย์มาพักผ่อน แต่ว่าเป็นการพักผ่อนโดยการเพิ่มพูนความรู้ รู้ตัวอีกทีก็จะรับปริญญาแล้ว ค่อนข้างประทับใจมาก มันทําให้เราเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อการเรียน ที่แต่ก่อนมองว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนเรียนเก่งเท่านั้น หรือคนที่เนิร์ดเท่านั้น แต่ว่าพอเรียนที่นี่ ไม่ว่าคุณจะมีวิธีการเรียนแบบไหน ชอบอ่าน ชอบฟัง หรือชอบทํากิจกรรม ทุกคนสามารถที่จะพัฒนาตัวเองได้นะครับ ได้ทฤษฎีดีๆ ได้หลักหลักการดีๆ ไปใช้ในงาน จากที่มองตัวเองว่าเราไม่น่าจะเรียนปริญญาโทได้ กลายเป็นว่าเราพัฒนาได้ เรียนได้”

นอกจากนี้ยังนำค่านิยม ‘WISE’ ทั้ง 4 ตัว มาปรับใช้ในการเรียน และสร้างประโยชน์กลับสู่นิด้าและรุ่นน้องได้

“ในหลักสูตรของคณะ จะมีการให้จัดงานสัมมนาวิชาการของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของปริญญาโท งานสัมมนาเป็นหลักฐานชั้นดีเลย ที่จะบอกว่านักศึกษารวมถึงตัวผมเองด้วย มีค่านิยมของนิด้าครบทั้ง 4 ตัวอักษร ‘WISE’ ข้อแรก ‘Wisdom’ ปัญญา นิด้าบอกว่าจะต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีทักษะ เวลาเราจัดงานสัมมนา เราจะต้องไปทําวิจัยเพิ่มเติมกับองค์ความรู้ที่เราไปทําเซอร์เวย์มา แล้วก็กลั่นกรองจากความรู้ตลอด 2 ปี ที่เราร่ําเรียนมา เพื่อมาถ่ายทอดและเผยแพร่สู่สาธารณะ ถ้าเราไม่มีความรู้ที่ลึกซึ้ง อาจารย์ก็จะไม่ปล่อยผ่านให้ออกมาทําสัมมนาได้”

“ตัวอย่างต่อมาคือ ‘Integrity’ ความซื่อตรง ซื่อสัตย์ ยกตัวอย่างให้เห็นแบบชัดๆ เลยคือเราไปขอสปอนเซอร์ เราต้องเบิกจ่ายอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา ของที่เราซื้อก็ต้องเอามาเพื่อใช้ทํางานนี้จริงๆ และเมื่อสรุปงบออกมาแล้ว เรามีงบเหลือก็ไม่ได้เอามาใช้กินหรือว่าฉลอง หรือว่าเอามาแจกจ่ายกันเอง เราเลือกที่จะคืนให้คณะ ว่าจะเอาไปบริจาคหรือว่าสร้างสาธารณกุศล หรือเป็นส่วนการศึกษาให้กับรุ่นน้อง เพราะว่าเวลาเราออกไปพัฒนาองค์กรและพัฒนาคน นอกจากเป็นคนเก่งแล้วต้องเป็นคนดีด้วย”

“มาที่ตัว ‘Sustainable Impacts’ การสร้างผลกระทบที่ยั่งยืน นอกเหนือจากความรู้ที่ให้ไปกับองค์กรต่างๆ เรามองเห็นว่าตอนที่เราจัดงาน จะมีอุปกรณ์บางอย่างที่เราให้คณะไปใช้ต่อได้ ไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เวลาทำกิจกรรมเราก็จะเลือกร้านอาหารที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้พวก single use plastic ในการออกไปติดต่อซัปพลายเออร์ต่างๆ หรือว่าติดต่อบูธที่จะเชิญมา เราจะมี คำนึงถึงการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนหรือ Sustainable Impacts ในการเลือกเสมอ”

“สุดท้าย ‘Empathy’ ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ในฐานะรุ่นพี่ เราเห็นแล้วว่าสัมมนามันจะมีเรื่องของงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็เลยตัดสินใจนำเงินส่วนที่เหลือมอบให้คณะ เพื่อให้คณะเอาไปใช้ ถ้าน้องๆ ขาดเหลืออะไร น้องๆ สามารถเอาไปใช้ต่อ เพราะว่าเรานึกถึงใจเขาใจเรา มี empathy กับรุ่นน้อง กับ stakeholder ซึ่งมันอาจจะดูไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ ที่เปลี่ยนโลกแบบยิงจรวด แต่การที่เราสร้างพฤติกรรม ค่านิยม หรือ ทัศนคติเกี่ยวกับ ‘WISE’ ไม่ว่าจะเป็น Wisdom, Integrity, Sustainable Impacts, และ Empathy มันเริ่มจากอะไรอย่างนี้แหละครับ” 

Quote “คำว่า ‘ปัญญา’ ทําให้ผมรู้ว่ากระบวนการความรู้ของผมไม่ได้มาจากการเรียนอย่างเดียว มันมาจากการพัฒนาตัวเองให้เป็นระบบทําให้เราพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ สู่การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด”

มาที่ ปฏิภาณ จันทร์ชาตรี มหาบัณฑิต คณะสถิติประยุกต์ นิด้า เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่เชื่อว่าทุกคนสามารถนำค่านิยม ‘WISE’ ทั้ง 4 ตัว มาพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ให้เรามีการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดได้

“ผมมองว่าตัว W หรือ Wisdom มันไม่ใช่แค่การเรียนรู้ มันหมายถึงการใช้ความรู้ที่เราได้รับจากการเรียนนำมาวิเคราะห์ นํามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ และนิด้า มีกระบวนการสอนที่ให้คิดอย่างเป็นระบบ หรือ Critical Thinking ทำให้มองเห็นปัญหาได้รอบด้านมากขึ้น กระบวนการทํางาน กระบวนการความคิด ก็จะเป็นระบบยิ่งขึ้น”

“ส่วนถัดไป คือ I จาก Integrity ความซื่อตรง ผมคิดว่าทุกคนที่มาเรียนต้องมีความซื่อสัตย์ ความซื่อตรงต่อตัวเอง ในการใช้ชีวิต ในการทํางาน ในการประกอบธุรกิจ   ก็ย่อมทําให้เราได้รับการเคารพนับถือจากคนอื่น”

“ในเรื่องของความยั่งยืน S จาก Sustainable Impacts การที่เรามาเรียนมันไม่ได้สร้างประโยชน์แค่ตัวเราเอง อย่างปณิธานของนิด้า WISDOM for Sustainable Development ที่มุ่งเน้นเรื่องของศาสตร์การบริหารและพัฒนาก็จะส่งผลกระทบต่อระบบธุรกิจโดยรวมของเศรษฐกิจของประเทศเลยก็ว่าได้ เพราะคนที่เรียนจบแล้ว ทุกคนก็จะออกไปประกอบอาชีพหรือดําเนินชีวิตในสายงานของตัวเอง ทําให้เกิดการขยายวงกว้างของความยั่งยืนออกไป”

“ในเรื่องของความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น E หรือ Empathy ผมเชื่อว่าทุกคนที่มาเรียนจะถูกปลูกฝังค่านิยมพวกนี้เข้าไปในกระบวนการระหว่างที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่นิด้า หลังจากจบไปแล้วสิ่งพวกนี้จะถูกสอดแทรกไปในทุกกระบวนการ ทุกการดําเนินการชีวิตของเขา  มันก็จะเป็นประโยชน์สําหรับทั้งคนที่มาเรียนโดยตรง และจะส่งผลประโยชน์โดยอ้อมให้กับคนที่มามีส่วนร่วมหรือว่าต้องติดต่อประสานงานกับผู้เรียน”

Quote “ก่อนที่จะมาเรียนที่นิด้าเป็นคนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นตัวเอง ขี้อาย อยู่ในการศึกษาแบบท่องจํามาตลอด จนเข้ามาเรียนนิด้ากลายเป็นคนที่มี Critical Thinking ช่วยให้ตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของความเป็นเหตุเป็นผล”

มาต่อกันที่ พัชร์ลิตา อัครปฐมลักษณ์ มหาบัณฑิต คณะภาษาและการสื่อสาร นิด้า อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ที่เรียกได้ว่าสามารถนำค่านิยม ‘WISE’ ไปปรับใช้ในการสอนนักศึกษาให้มีความสามารถและภูมิต้านทานในโลกปัจจุบันได้ครบทุกข้อ จากคนขี้อาย สู่อาจารย์ที่มีความสามารถในวันนี้

“ก่อนที่จะมาเรียนที่นี่เป็นคนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นตัวเองเลย ขี้อาย อยู่ในการศึกษาแบบท่องจํามาตลอด จนมาเรียนต่อโทนิด้ากลายเป็นคนที่มี Critical Thinking ช่วยให้ตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของความเป็นเหตุเป็นผล มีรูปแบบการสอนที่เปลี่ยนไป ไม่สอนให้ท่องจําเหมือนนกแก้วนกขุนทอง แต่จะสอนให้ตั้งคำถาม ใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ และยังสอนให้เคารพในความคิดของคนอื่น ช่วยให้ความสัมพันธ์ในการทํางาน การเรียน การใช้ชีวิต ดําเนินไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น”

สำหรับค่านิยม WISE คุณพัชร์ลิตามีความเห็นอย่างไรบ้าง?

“ด้านปัญญา เวลาที่เราสอนนักศึกษา เราก็จะให้เขาค้นหาความรู้ด้วยตัวเอง และมีการให้ความรู้จากทางอาจารย์ด้วย แต่ทั้งนี้ความรู้อย่างเดียวก็ไม่พอ จะต้องมีการใช้ปัญญา คิด วิเคราะห์ ตีความข้อมูล เพื่อที่จะทําให้เกิดประสิทธิภาพในสิ่งที่เราทำอย่างดียิ่งขึ้นไป”

“ในด้านของความซื่อตรง เราพยายามปลูกฝังความมีระเบียบวินัยตามแบบค่านิยมของคนญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะเป็นคนไทยก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะมันเป็นค่านิยมที่ดี เช่น การตรงต่อเวลา ความซื่อตรงในวิชาชีพ”

“ในฐานะอาจารย์ สิ่งที่คิดว่าสามารถทําให้เกิดการพัฒนา การรักษาความยั่งยืนในสังคมเราได้ เช่น การเขียนบทความวิชาการ การทําวิจัยเกี่ยวกับหัวข้อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หลังจากที่เขียน ได้รับการตีพิมพ์ ข้อมูลพวกนี้สามารถที่จะนําไปเผยแพร่ส่งต่อให้กับคนอื่นได้ มันก็เป็นเหมือนการรักษา พัฒนาความยั่งยืนของสังคม และสิ่งแวดล้อมในรูปแบบหนึ่ง ก็คือการส่งต่อองค์ความรู้”

“เรื่องของความเห็นอกเห็นใจ นิด้าปลูกฝังได้ดีมาก มันเป็นความรู้สึกที่ได้รับจากอาจารย์โดยตรง ท่านสอนเก่งมาก แล้วก็สามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกของนักศึกษา โดยเฉพาะคนที่เรียนภาษาต่างประเทศ อาจารย์เข้าใจปัญหา เข้าใจความยากลําบากของนักศึกษา พออาจารย์เข้าใจ ทําให้คนที่เป็นผู้เรียน เหมือนได้รับแรงสนับสนุนจากอาจารย์ ทําให้เรารู้ว่าเราไม่ได้เดินคนเดียว ทําให้เราอยากจะพัฒนาตัวเองมากขึ้น ก็เลยพยายามเป็นอาจารย์ที่เข้าใจเด็ก ทําให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ตัวคนเดียว”

Quote “เราไม่ได้เรียนเพื่อตัวเองอย่างเดียว ทุกคนที่เกิดมามีสิทธิ์ และมีหน้าที่ การที่เราจะทําหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ก็ต้องปลูกฝังในเรื่องของค่านิยม และสิ่งที่จะต้องทํา”

ถัดมาที่ นาวาอากาศโทภาณุวัฒน์ ไวกสิกรณ์ มหาบัณฑิต คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ นิด้า ผู้บังคับกองทัพที่ 4 กรมนักเรียนนายเรืออากาศ รักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่สามารถนำค่านิยม ‘WISE’ ยึดโยงไปถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายของตนเองได้ และเชื่อว่าการปลูกฝังค่านิยมที่ดี จะทำให้เราทำหน้าที่ของตนเองออกมาได้ดีด้วย แล้วนาวาอากาศโทภาณุวัฒน์ สามารถนำค่านิยมทั้ง 4 ตัวนี้มาปรับใช้ได้อย่างไรบ้าง มาดูกัน

“ค่านิยมใหม่นี้ ‘WISE’ มีแกนหลัก 4 ตัว ซึ่งมันมีความหมายในตัวเองอยู่แล้ว แต่ว่าภายในเนื้อของแต่ละตัวอักษร ก็สะท้อนจุดเด่น เหมือนการบ่งบอกเอกลักษณ์ มีเรื่องของความรู้คู่คุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมในระยะยาว ซึ่งผมมองว่า นิด้ามีปณิธานในเรื่องของการสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมในระยะยาวอยู่แล้ว เลยมองว่ามันค่อนข้างที่จะสะท้อนอัตลักษณ์ตัวเอง ทําให้จําได้ง่าย นักศึกษาสามารถระลึกถึง สามารถที่จะตระหนักได้ถึงค่านิยม และสามารถที่จะยึดโยงไปถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายของตัวเองได้”

“สำหรับปัญญา เหมือนกับพุทธศาสนสุภาษิตที่นิด้ายึดเป็นหลักปรัชญา คือ ไม่มีแสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญา ความมีปัญญาไม่ได้เกี่ยวกับแค่ความรู้ แต่ว่าต้องคู่กับคุณธรรมด้วย มีความรู้แต่ว่าใช้ในทางที่ผิดมันก็ย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อาจจะก่อให้เกิดโทษได้”

“ในเรื่องของการปลูกฝัง ผมจะยึดหลักในเรื่องของการสร้างสิ่งที่ควรจะต้องมี อันดับแรกก็คือในเรื่องของความรู้ โดยที่มีพื้นฐานในเรื่องของคุณธรรมที่เป็นแกนหลักเข้ามา วิธีการปลูกฝังก็คือในเรื่องของการขัดเกลาบ่มเพาะ ซึ่งก็จะมีวิธีการตามกระบวนการ ถ้าเป็นทหารก็จะมีกฎระเบียบ วางกรอบไว้เพื่อสร้างคน ซึ่งผลผลิตก็คือต้องการความเป็นมืออาชีพ นอกจากความเก่งที่จะต้องมีแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ สามารถที่จะรับผิดชอบสังคม และเป็นแบบอย่างที่ดีกับสังคมได้” 

Quote “ส่วนหนึ่งที่เราได้จากนิด้า คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่ทางสถาบันมีแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสิ่งที่สําคัญมากในการเรียนรู้ตลอดชีวิตก็คือ Connection ในส่วนของเพื่อนในชั้น พี่ๆ น้องๆ รวมถึงคณาจารย์ เหมือนเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่มีวันปิด”

สำหรับ วีระพงษ์ พงษ์นารายณ์ มหาบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ นิด้า
สัตวแพทย์ และ Vice President บริษัท สมาร์ทเว็ท จำกัด

ก็สามารถประยุกต์ใช้ค่านิยม ‘WISE’ เพื่อรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้

“ค่านิยมนี้ เป็นตัวดีเอ็นเอที่สะท้อนให้เราเห็นแนวคิดหรือกรอบความคิด แนวทางการดําเนินชีวิต หรือการทํางาน ซึ่งผมต้องบอกว่า ทั้งสี่ตัวนี้เมื่อรวมกันแล้ว จะได้เป็นพื้นฐานของการดําเนินชีวิต และเป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้ประสบความสําเร็จ ทั้งในเรื่องของการมีองค์ความรู้ ซึ่งโลกสมัยนี้ความรู้เปลี่ยนตลอดเวลา ก็จะมีองค์ความรู้ที่สามารถเจาะลึก และมีความรู้ที่เชี่ยวชาญ และพัฒนาได้ตลอดเวลา นอกจากนั้น การใช้ความรู้ตรงนี้ก็ต้องใช้ด้วยความซื่อตรง เข้าอกเข้าใจผู้อื่น สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นผลลัพธ์ในเชิงบวกที่ยั่งยืน ซึ่งผมมองว่าตรงนี้เหมาะกับยุคสมัย และการดําเนินชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งมันมีความเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องคํานึงถึงหลายๆ เรื่อง”

และนี่ก็คือผลพลอยได้จากการปลูกฝังค่านิยมทั้ง 4 ประการ อย่าง WISE ให้กับบัณฑิตของนิด้าทุกคน จนเปรียบเสมือนเป็นดีเอ็นเอของนิด้า ที่ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยให้นิด้าสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพออกสู่สังคม แต่ยังช่วยให้บุคลากรเหล่านี้ปรับตัวทันโลก และส่งต่อค่านิยมดี ๆ แบบนี้ออกไปสู่สังคมอีกด้วย 

สำหรับใครที่กำลังสนใจเรียนต่อในระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก หรืออยากเพิ่มเติมความรู้ ความสามารถ ก็อยากให้ลองมองสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง รับรองว่านอกจากความรู้ที่จะได้จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังได้หลักการใช้ชีวิตดี ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ด้วย 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://nida.ac.th/

Facebook: NIDA Thailand

Line Official: @nidathailand