Never too old to be young

223 Views
06 Nov 2022

หากพูดถึง “คนชรา” เราอาจจะนึกถึงบุคคลที่ต้องการการดูแล หรือมีร่างกายที่เสื่อมสภาพ โดยที่มองข้ามว่าพวกเขา”เคย”สร้างประโยชน์แก่สังคมมากมาย ประสบการณ์ และความสามารถของบุคคลเหล่านั้น ทำให้หลายครั้งสังคมมักไม่มีช่องว่างให้คนชราในการทำงาน และละเลย”ความรู้สึก ความต้องการที่แท้จริง”ของพวกเขา ซึ่งส่งผลให้คนชราเองก็นิยาม มองตนเองดังเช่นผู้อื่น และไม่เห็นคุณค่าภายในตนเอง

ในสิงคโปร์ เป็นเรื่องปกติที่จะพบเหล่าคนชราทำงานตามสถานที่ต่างๆ เพราะเขามีนโยบายให้ทุกบริษัทจ้างคนชรา เพื่อแก้ปัญหาการขาดแรงงาน สร้างรายได้แก่คนชรา และที่สำคัญให้สังคมตระหนักถึง”คุณค่า”ของคนชรา รวมถึงแนวคิดที่ว่า “You never too old to be young” เราจึงอยากสร้างสถานที่ หรือปรับแก้ระบบของสังคม เพื่อให้ทุกคนจากทุกช่วงวัยสามารถอยู่ร่วมกัน และช่วยเหลือกันแก้ปัญหาดังกล่าวได้

ไอเดียนี้ได้รับแรงบันดาลใจ จากหนึ่งในความสุขของตัวเองเมื่อตอนยังเป็นเด็ก คือการเข้าไปใน”kidzania” เมืองจำลองที่ให้เด็กๆได้ทำอาชีพที่ตนฝัน และทุกๆครั้งที่เข้าไปก็เหมือนได้ท่องโลกอนาคตที่ตนเติบโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ดังนั้นหากเราสามารถสร้างหมู่บ้านที่เปิดโอกาสให้เหล่าคนชราได้ทำอาชีพที่ตนรัก คงเหมือนเป็นการย้อนความทรงจำดีๆในวัยเยาว์ อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ดีที่คนชราทุกคนต่างได้มีส่วนรวมทำหน้าที่เพื่อหมู่บ้านของพวกเขา และทำให้พวกเขาสามารถดูแล ช่วยเหลือกัน โดยไม่รู้สึกว่าเป็นภาระของสังคม ยกตัวอย่างเช่น พนักงานเคาน์เตอร์(จัดการรายรับรายจ่ายของร้านในหมู่บ้าน) พ่อครัว(จัดเตรียมอาหารให้คนในหมู่บ้าน) ครูสอนประวัติศาสตร์(บอกเล่าเรื่องราวน่าใจในประวัติศาสตร์ในงานพิเศษต่างๆของหมู่บ้าน ให้แก่ผู้ที่อาศัยและผู้เยี่ยมชมหมู่บ้าน)

.

นอกจากนี้ก็ควรมีกิจกรรมที่ให้ทุกคนในหมู่บ้านได้รวมตัวกัน ใช้เวลาร่วมกัน เพื่อส่งเสริมมิตรไมตรีสุขภาพกาย และสุขภาพจิต อย่างการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา โยคะ/ เล่นเกมที่เป็นการพัฒนาทักษะ การใช้ความคิดเช่น หมากรุก เกมเศรษฐี/ การปฎิบัติธรรม หรือปลูกผัก ปลูกต้นไม้(ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมของหมู่บ้าน และผลผลิตจากการปลูกสวนที่เป็นผักผลไม้organic ก็สามารถนำมารับประทานและขายเพื่อนำรายได้มาพัฒนาหมู่บ้านต่อไป)

.

เราก็อยากที่จะสนับสนุนงานอดิเรกให้สามารถสร้างเป็นอาชีพได้ อย่างคนชราที่สนใจในงานประดิษฐ์เย็บปักถักร้อย งานจิตรกรรม สามารถสร้างสรรค์ผลงานเป็นสินค้าhand made เพื่อนำไปจำหน่ายขายในหมู่บ้าน หรือผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตให้คนอื่นๆสามารถเลือกซื้อ โดยรายได้จากการขายจะนำให้เจ้าของผลงาน และเป็นงบประมาณในการพัฒนาหมู่บ้าน รวมถึงมีสถานที่สำหรับworkshop ให้บุคคลที่มีความสามารถด้านประดิษฐ์มาจัดการสอน เปิดครอสให้ผู้ที่สนใจ หรือเยี่ยมชมหมู่บ้านได้ทำกิจกรรมต่างๆเช่น DIY สิ่งของ, ทำสบู่hand made อีกทั้งภายในหมู่บ้านมีopen space เปิดโอกาสให้คนชราที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆมีพื้นที่ในการเผยแพร่ความรู้ เช่นใช้ในการspeech talkหัวข้อต่างๆ, เขียนquotes จากการอาบนำ้ร้อนมาก่อน หรือมีงานพิเศษต่างๆเพื่อใช้ในการแสดงผลงาน โดยงานอดิเรกด้านดนตรีก็สามารถต่อยอดใช้ในการแสดงในพื้นที่ตรงนี้ เป็นการเรียกแขกและเสียงดนตรีให้กับหมู่บ้านอีกด้วย

.

ดังนั้นหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ได้เพียงแค่มอบความสุขให้กับคนชราเท่านั้น แต่คนอื่นๆจากทุกช่วงวัยก็สามารถเข้ามามีส่วนรวมในการส่งต่อความสุข และรับความสุขในเวลาเดียวกัน อย่างการเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆในworkshop, เยี่ยมชมงานแสดง, ช๊อปปิ้งเลือกซื้อของhand made หรือ เข้าร่วมอีเวนต์งานพิเศษ(เป็นผู้เยี่ยมชม/ จัดแสดงงานให้กับคนชราในหมู่บ้าน) ซึ่งเป็นหนึ่งในการสนับสนุนผลงานของคนชรา มอบรายได้ในการพัฒนาหมู่บ้าน และอาจเข้ามาดำเนินactivities ส่งต่อความรู้สึกดีๆให้บุคคลในหมู่บ้าน โดยเป็นอีกหนึ่งจุดประสงค์ของหมู่บ้านแห่งนี้ ที่เป็นการให้ทุกช่วงวัยได้แลกเปลี่ยนความรู้ ผ่านspeech talk, quoteคำคมต่างๆ , เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น และได้เข้าใจกันมากขึ้น เพื่อลดปัญหาของGeneration Gap