รู้ไหม ‘สะดือ’ คืออวัยวะที่ ‘เร้ากาม’ เป็นอันดับต้นๆ ในวัฒนธรรมอินเดีย

4 Min
3513 Views
27 Jul 2022

Select Paragraph To Read

  • ทอดไข่บน ‘สะดือ’ ซีนในตำนานของหนังรักอินเดีย
  • อิทธิพลของสื่อต่อภาพลักษณ์เร้ากามารมณ์ของ ‘สะดือ’

ในวัฒนธรรมอินเดียที่เราเห็นกันจนเป็นภาพจำ คือเครื่องแต่งกายผู้หญิงที่เป็นการห่มส่าหรีโชว์สะดือ หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นวิถีชีวิตธรรมดา ที่ทำให้สะดือเป็นเพียงอวัยวะหนึ่งที่เปิดเปลือยเห็นได้ทุกวัน แต่เปล่าเลยสำหรับคนอินเดียสะดืออาจเป็นได้มากกว่านั้น 

สำหรับคนอินเดียหลายคน สะดือ คือ ‘fetish’ หรือวัตถุทางความใคร่ และถือเป็นอวัยวะเร้ากามอันดับต้นๆ ในวัฒนธรรม

คำถามคือ ทำไมและอะไรที่ทำให้อวัยวะอย่างสะดือที่เห็นกันได้ทุกวัน กลายเป็นวัตถุทางเพศยอดนิยมไปซะได้?

ทอดไข่บน ‘สะดือ’ ซีนในตำนานของหนังรักอินเดีย

‘Love Birds’ ภาพยนตร์โรแมนติก ปี 1996 จากอินเดียใต้เรื่องหนึ่ง ที่มีฉากสะดืออันเป็นที่น่าจดจำ โดยนางเอก นากมา (Nagma) โดนซูเปอร์สตาร์หนังอินเดียใต้ ปราบู เดวา (Prabhu Deva) ปลดส่าหรีที่บังท้องอยู่ออก เผยให้เห็นผิวหน้าท้องเปล่าเปลือยและสะดือ ก่อนที่เขาจะตอกไข่ทอดบนหน้าท้องร้อนๆ ของเธอ

ฉากนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง Hot Shots! ปี 1991 ซึ่งมีฉากที่นักแสดง ชาร์ลี ชีน (Charlie Sheen) ทอดไข่กับเบคอนบนหน้าท้องเปล่าเปลือยของ วาเลรีย โกลิโน (Valeria Golino)

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉากนี้จากในหนัง Love Birds รวมถึงความโด่งดังของมัน ก็เป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าอินเดียมีความใคร่ต่อสะดือในแบบที่คนชาติอื่นไม่มี (หรืออาจแสดงออกไม่เท่า)

กามสูตร’ (Kama Sutra) ตำราเพศศาสตร์ของชาวฮินดูโบราณอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งจริงๆ ไม่ได้มีแค่เรื่องเพศ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมอินเดียโบราณ ก็ได้กล่าวถึง สะดือในฐานะส่วนกระตุ้นกำหนัดซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนฮินดูยุคเก่าก็มีการโลมเล้ากับสะดือ กระทั่งมีการเขียนเคล็ดลับการดูแลสะดือเพื่อให้ดูสวยงามน่าดึงดูดมากขึ้น เช่นแนะนำให้หาเพชรพลอยมาประดับ

และคุณรู้ไหมว่า ผลสำรวจจากกูเกิลค้นพบว่า ตั้งแต่ปี 2004 มาจนถึงปัจจุบัน ชาติที่ค้นหาคำว่าสะดือมากที่สุดคืออินเดียรองลงมาคือ บังกลาเทศ ศรีลังกา และมีคำค้นใกล้เคียงกันที่คนอินเดียชอบค้นหาเกี่ยวกับสะดือ คือสะดือเซ็กซี่ในส่าหรี’, ‘สะดือของคาจาล’, ‘สะดือของอนุชกาซึ่งคาจาลกับอนุชกาเป็นดาราดังในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียใต้

ดาราที่มีสะดืองามๆ ก็จะได้รับการตั้งฉายาว่าราชินีแห่งสะดือ’ (Naval Queen) กระทั่งดาราสาวหลายคนก็มีกลุ่มแฟนคลับสะดือของพวกเธอในโลกออนไลน์โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการโพสต์รูปฉากสะดือสยิวๆ ของดาราคนนั้นเป็นคอนเทนต์

ทาอัปสี ปานนู (Taapsee Pannu) หนึ่งในดาราหนังอินเดียใต้ เล่าว่า เธอเคยถูกโยนลูกมะพร้าวใส่หน้าท้องระหว่างถ่ายทำฉากเพลง ซึ่งเธอไม่ได้รับการเตือนล่วงหน้า ดาราสาวท่านอื่นๆ เคยถูกโยนดอกไม้หรือผลไม้ใส่ แต่เธอกลับถูกโยนลูกมะพร้าวใส่จนน้ำกะทิขาวๆ เลอะหน้าท้อง

เธอกล่าวว่าฉันไม่เข้าใจเลยว่าลูกมะพร้าวกระแทกบนพุงฉันมันจะเซ็กซี่ได้ยังไง

อิทธิพลของสื่อต่อภาพลักษณ์เร้ากามารมณ์ของ ‘สะดือ’

ในโลกภาพยนตร์ของอินเดีย ที่จริงๆ ไม่ได้มีแค่บอลลีวูดแต่ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียใต้สะดือเป็นอวัยวะที่อีโรติกบนเรือนร่างของผู้หญิง ช็อตโคลสอัพสะดือของนางเอกใกล้ๆ โดยที่มีมือหรือหน้า หรือทั้งสองอย่าง ของนักแสดงชายโลมไล้คลอเคลีย สามารถเปรียบได้เสมือนดั่งฉากร่วมเพศ

นักข่าวสายภาพยนตร์ คิรับฮาการ์ พูรุโชธามาน (Kirubhakar Purushothaman) ชี้ให้เห็นด้วยว่า ความหมกมุ่นที่ภาพยนตร์อินเดียมีต่อสะดือเป็นสิ่งที่ไม่มีที่ใดเหมือน

คุณไม่เห็นอะไรแบบนี้ในฮอลลีวูด แต่ขณะเดียวกัน ในหนังอินเดียก็ไม่มีฉากจูบ หรือมีเซ็กส์ แต่มีฉากสะดือเชิงอีโรติกแทน เขากล่าวผมว่าเราในระดับสังคม ยังโอเคกับฉากบอกใบ้ถึงกิจกรรมทางเพศ มากกว่าโชว์ฉากกระทำสิ่งเหล่านี้จริงๆ ฉากนักแสดงชายเล้าโลมสะดือผู้หญิงเป็นสิ่งที่รับได้ แต่ถ้าเขาไปโลมเล้ากับส่วนอื่นของร่างกาย หนังอาจโดนกระแสโจมตี หรือกระทั่งโดนแบนไปเลย

เช่นเดียวกับละครไทยยุคเก่าๆ ในสมัยที่ประเทศของเรายังไม่ได้เปิดกว้างเรื่องเพศมาก อินเดียเองก็เลือกที่จะใช้ศิลปะในการช่วยเล่าเรื่องเพศแบบอ้อมๆ มากกว่าโชว์ฉากจูบหรือมีอะไรกันอย่างโต้งๆ เช่น ตัดไปให้เห็นดอกไม้สองอันใกล้ๆ หรือให้มีร่ม หรือต้นไม้บังคู่รัก ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการเบนกล้องหนีเตียงไปหาโคมไฟ อะไรทำนองนั้น

คิรับบฮาการ์เปรียบเทียบการโชว์ฉากวาบหวามกับสะดือของสตรี หรือฉากรักๆ ใคร่ๆ ที่โดนต้นไม้หรือร่มบังของอินเดีย ว่าไม่ต่างจากที่ญี่ปุ่นเซ็นเซอร์อวัยวะเพศหญิงในหนังโป๊เท่าไหร่ เนื่องจากมันคือความพยายามเล่าภายใต้กฎหมายที่จำกัด

อย่างในหนังเรื่อง Chinna Gounder ปี 1991 ที่กำกับโดยชาวอินเดียใต้ เค. รากาเวนทระ เรา (K. Raghavendra Rao) ก็มีฉากโด่งดังที่พระเอกหมุนลูกข่าง หรือ lattu บนหน้าท้องของนางเอกจนเธอคราง หรือในหนังเรื่อง Tamil ปี 2000 พระเอกก็ไปมีเรื่องกับผู้ชายที่มองสะดือนางเอก

แต่อินเดียไม่ใช่เพียงชาติเดียวที่ปฏิบัติกับสะดือในฐานะอวัยวะที่อาจเร้ากามารมณ์ผู้คน กระทั่งในฮอลลีวูดก็มี ‘Hays Code’ หรือกฎเกณฑ์การควบคุมเนื้อหาในระหว่างปี 1934-1968 ซึ่งกฎข้อหนึ่งคือให้สะดือเป็นอวัยวะที่ต้องได้รับการปกปิดตลอดเวลา เช่นในหนังเรื่อง ‘Some Like It Hot’ ที่มีนักแสดงเซ็กส์ซิมโบลในตำนานมาริลีน มอนโร’ (Marilyn Monroe) แต่งตัวโชว์ผิวเนื้อผิวกาย แต่สะดือของเธอก็ต้องมีผ้าผืนน้อยพันบังไว้

แต่สรุปแล้วภาพยนตร์สามารถส่งอิทธิพลที่ทำให้คนอินเดียมีเฟทิชกับสะดือได้ไหมนะ?

ปอมปี บาเนรจี (Pompi Banerjee) นักจิตวิทยามองว่ามีส่วน โดยอธิบายเพิ่มเติมว่าภาพต่างๆ ที่แวดล้อมเรานั้นมีอิทธิพลในการแสดงออกทางเพศของเรา เมื่ออินเดียไม่ได้มีการเปิดเผยฉากเพศสัมพันธ์มาก สะดือจึงเป็นอวัยวะที่ใช้ในการพูดแทนถึงอวัยวะเพศหญิงอย่างสุภาพ ส่วนการเล่นกับสะดือก็เป็นการพูดแทนถึงเซ็กส์สอดใส่อย่างละมุนละม่อม

ก็ถือเป็นอีกแง่มุมวัฒนธรรมที่ทำให้เรามองอวัยวะธรรมดาไม่ธรรมดาอีกต่อไป

อ้างอิง

  • VICE. Why Indians Are So Turned On by Navels. https://bit.ly/3PrvtIT
  • SILPA-MAG. เผยวิธีเอาชนะใจสตรี และลักษณะอาการฝ่ายหญิงที่รับรักด้วย จากตำรากามสูตร. https://www.silpa-mag.com/culture/article_27668
  • FilmClubThailand. จูบๆ ตบๆ คบๆ เลิกๆ สายสัมพันธ์วงการหนัง & รัฐบาลอเมริกา. https://bit.ly/3zmfO82