2 Min

เปิดประวัติ ‘นัตโตะ’ ถั่วเน่าญี่ปุ่น สรรพคุณล้นจนต้องลอง!

2 Min
4989 Views
05 May 2022

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ได้มีกระแสเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง ที่โด่งดังมากในแพลตฟอร์ม TikTok ทำเอาหลายคนที่ดูอยากซื้อเพื่อมาชิมตาม ซึ่งชื่อเสียงของมันต้องยกให้เรื่องของกลิ่นที่มีความเฉพาะตัว ใครที่ชอบก็จะชอบไปเลย แต่ใครที่ไม่ชอบก็จะไม่ซื้อกินอีกต่อไป

อาหารดังกล่าวมีชื่อว่านัตโตะ’ (Natto) หรือถั่วเน่าญี่ปุ่นเป็นอาหารหลักในอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมานานหลายศตวรรษ ในขณะที่องค์ประกอบหลายอย่างของอาหารญี่ปุ่นทั่วไป (วาโชกุ) เช่น ซุปมิโซะ ซูชิ เทมปุระ ราเมน หรือสาเก ได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีในวัฒนธรรมตะวันตก

คนญี่ปุ่นจำนวนมากนิยมกินนัตโตะเป็นประจำทุกวัน หรือในร้านขายของชำทั่วไปในญี่ปุ่น อาจพบนัตโตะหลากหลายยี่ห้อบนชั้นวาง หลายคนอาจเปรียบเทียบว่านัตโตะเป็นโยเกิร์ตซึ่งเป็นอาหารหมักดองที่มีโปรตีน และสารอาหารหนาแน่นโดยทั่วไป

แม้คนไทยจะขนานนามเจ้านัตโตะว่าเป็นถั่วเน่า แต่คุณประโยชน์ และเรื่องราวของมันก็น่าสนใจไม่น้อย

เรื่องราวของถั่วเน่าญี่ปุ่น

หนึ่งในเรื่องเล่าอันเป็นที่พูดถึง ต้องย้อนไปในปี ค.. 1080 ช่วงระหว่างสงครามโกซันเนน (Gosannen War) เมื่อซามูไรผู้ยิ่งใหญ่นาม มินาโมโตะ โนะ โยชิเอะ (Minamoto no Yoshīe) และกองทัพของเขากำลังเดินทางไปพิชิตดินแดนทางตอนเหนือของญี่ปุ่น อยู่มาคืนหนึ่ง นักรบลี้ภัยที่ฟาร์มในชนบทได้พักกินอาหารเย็นง่ายๆ ประกอบด้วยข้าว และถั่วเหลืองต้ม ขณะที่กินก็มีข่าวว่าศัตรูเข้ามาใกล้ พวกเขาจึงตัดสินใจถอยทัพ โดยห่ออาหารด้วยฟางข้าวอย่างรวดเร็ว ซึ่งฟางเป็นแหล่งธรรมชาติของแบคทีเรียบาซิลลัส ซับทีลีส (Bacillus subtilis)

เมื่อห่อเรียบร้อยก็นำอาหารทั้งหมดขึ้นไปไว้บนหลังม้า อาหารเหล่านั้นจึงได้รับความอบอุ่น และความชื้นของเหงื่อม้า หลังเหตุการณ์สงบ หรือ 2 วันต่อมา พวกเขาเปิดห่อ และค้นพบถั่วเหลืองที่ถูกหมักมีรสชาติอร่อย แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

แต่ละปี ญี่ปุ่นผลิตและบริโภคนัตโตะประมาณครึ่งล้านตัน ในอดีตภูมิภาคมิโตะ (Mito) ถือเป็นศูนย์กลางของการผลิตนัตโตะ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นแหล่งปลูกถั่วเหลืองขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งเหมาะสำหรับการทำนัตโตะที่สุด ทุกวันนี้เมืองมิโตะถูกระบุว่าเป็นแหล่งกำเนิดของนัตโตะ และยังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมนัตโตะในญี่ปุ่น

ประโยชน์ของนัตโตะ

การกินนัตโตะนั้น สัมพันธ์กับสุขภาพหัวใจ และอายุขัยที่ดีขึ้น จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน American Journal of Clinical Nutrition ได้สนับสนุนแนวโน้มข้อสังเกตนี้ โดยสรุปว่า การบริโภคนัตโตะเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ (Cardiovascular disease: CVD) ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ดร.อี้กวงหลิน (Dr. Yiguang Lin) เภสัชวิทยา และวิทยากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ (University of Technology Sydney) มีส่วนร่วมในการค้นพบเอนไซม์นัตโตคิเนส (Nattokinase) ในนัตโตะ ซึ่งผลิตขึ้นระหว่างกระบวนการหมักถั่วเหลือง และตีพิมพ์ในวารสาร Biomarker Insights ทำให้สาธารณชนทั่วไปเข้าถึงประโยชน์ด้านสุขภาพของนัตโตะ ได้ง่ายขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ส่งเสริมระดับคอเลสเตอรอลที่ดี

ลดความดันโลหิต ช่วยให้หลอดเลือดแดงอยู่ในสภาพที่ดี เรื่องสุขภาพทางเดินหายใจ และช่วยปกป้องสมอง

อย่างไรก็ตามเอนไซม์นัตโตคิเนส สามารถรับได้จากการรับประทานนัตโตะโดยตรง หรือสกัดออกมา เพื่อให้สามารถรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมได้ ใครอยากลิ้มลองรสชาติของนัตโตะก็สามารถไปลองกันได้ ชอบหรือไม่ชอบยังไงคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะ

อ้างอิง