เมืองไทยประกันชีวิต ชูกลยุทธ์ Happiness, Your Way เติมเต็มความสุขในแบบที่เป็นคุณ ตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์แห่งความสุข และรอยยิ้มที่ยั่งยืน

4 Min
374 Views
06 Feb 2024

อย่างที่เรารู้กันดีว่าผู้คนจำนวนมากหันมาตระหนักและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ส่งผลให้ ‘ธุรกิจประกันภัย’ มีความตื่นตัว แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย รวมถึงปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง 

ขณะที่ ‘เมืองไทยประกันชีวิต’ หนึ่งในบริษัทที่ให้บริการด้านประกันชีวิต ซึ่งสามารถออกแบบประกันชีวิตที่หลากหลาย ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกความต้องการ ยังคงสามารถทำการตลาดเชิงรุก จนก้าวขึ้นเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับต้นๆ ของประเทศได้

ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต ได้เดินหน้าปักธงผู้นำแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มอย่างยั่งยืน ผ่านการเปิดตัวแนวคิดการดำเนินงานประจำปี 2567 ด้วยกลยุทธ์ ‘Happiness, Your Way’ เพราะความสุขคือทุกอย่าง ความสุขสไตล์คุณคือที่สุดของทุกสิ่ง มุ่งเติมเต็มความสุขในแบบที่เป็นคุณ 

อีกทั้ง ‘ตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่ง’ ในการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่คุณวางใจ ที่เน้นตอบโจทย์ทุกความเป็นคุณ (Personal) ในทุกช่วงของชีวิต (Life) เติมเต็มความสุข เพื่อให้คุณเป็นตัวคุณและรู้สึกดีที่สุดในรูปแบบของตัวคุณเอง แม้จะเป็นเรื่องของประกันก็ตาม

โดย 2 แนวคิดหลักๆ ดังกล่าว นับเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้ เพื่อความสุขและรอยยิ้มของพนักงานภายใน พาร์ตเนอร์ ลูกค้า และสังคม อย่างยั่งยืน 

– Personal เน้นการสร้างสรรค์พัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความเป็นคุณอย่างแท้จริง มีการใช้ภาษาที่ง่ายต่อความเข้าใจ ช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย และส่งมอบความเป็นตัวตนในแบบที่เป็นคุณ 

เช่น ความร่วมมือในการขายประกันชีวิตและสุขภาพผ่านความร่วมมือกับ LineBK ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ซื้อง่าย จ่ายเบา ผ่าน Line และยังให้ข้อมูลด้วยภาษาและเงื่อนไขที่เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากอีกด้วย หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ของบริษัทฯ ที่ให้บริการลูกค้าอย่าง MTL Online Sales Website (online.muangthai.co.th/) แอปพลิเคชัน MTL Click รวมถึงแอปพลิเคชันใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง MTL Connect ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทฯ ในการดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ ทางเมืองไทยประกันชีวิต ยังมีการพัฒนาอย่างรอบด้าน เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ บริการ ช่องทางการขาย ที่ใช่และเหมาะสม ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ในแบบที่เป็นตนเอง อย่างเท่าเทียมและง่ายมากยิ่งขึ้น ตลอดจนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกบทบาทชีวิต ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งคนตัวเล็ก คนตัวใหญ่ เพราะด้วยความที่บริษัทฯ เข้าใจทุกความแตกต่างและความเสี่ยงของแต่ละคน

– Life มุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ทุกช่วงชีวิตของผู้คนทุกกลุ่ม เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการได้อย่างเต็มที่ จึงมีการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกันอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพ เพื่อส่งมอบความคุ้มครองให้กับคุณ และคนที่คุณรัก การส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย การรักษาอย่างครอบคลุมและตรงจุด และสิทธิประโยชน์สำหรับทุกๆ ไลฟ์สไตล์ 

ซึ่งโครงการเหล่านี้ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกันและเอื้อให้กับทุกๆ คน ทั้งลูกค้าของบริษัทฯ และประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัทฯ สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เช่น บุคคลทั่วไปสามารถใช้แอปพลิเคชัน MTL Fit เพื่อเก็บข้อมูลการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ พร้อมสะสมคะแนนเพื่อนำไปใช้แลกเป็นสิทธิประโยชน์อย่างส่วนลดค่าเบี้ยประกันสุขภาพ 

จากนั้นเมื่อลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันภัย นอกจากจะได้รับความคุ้มครองสุขภาพ ตามแผนที่ลูกค้าเลือกสรร เบี้ยประกันภัยดังกล่าวจะถูกนำไปคำนวณเป็นคะแนน Smile Point เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ จากเมืองไทยสไมล์คลับต่อไป นอกจากนี้เมื่อเจ็บป่วย บริษัทฯ ก็มีสถานพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 860 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ตามที่ตัวเองต้องการ

ทั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิตยังสามารถส่งมอบความสุขและรอยยิ้มได้ตามแนวทางที่วางไว้ โดยการนำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาช่วยเติมเต็ม ทั้ง AI, Machine Learning, Automation และ Digital Tools อื่นๆ ในทุกๆ กระบวนการ ทั้งการขาย การพิจารณารับประกัน การพิจารณาสินไหม ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ เพื่อตอบโจทย์ร่วมกับพาร์ตเนอร์ทางการขาย และเจ้าหน้าที่บริการ 

ขณะเดียวกันการดำเนินธุรกิจของเมืองไทยประกันชีวิต ไม่ได้เน้น ‘การเติบโตด้านรายได้’ เพียงอย่างเดียว แต่ยัง ‘ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน’ ด้วย 

ซึ่งความยั่งยืนแรกเป็นทาง ‘มิติสังคม’ ที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิตโดยตรง นั่นก็คือ สร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคน (Democratize Insurance)  ไม่ว่าจะเป็นการขยายอายุรับประกันภัยสำหรับแบบประกันภัยหลักๆ ถึง 90  ปี พร้อมให้ความคุ้มครองต่อเนื่องสูงสุดถึงอายุ 99 ปี      

 

การพัฒนาแบบประกันภัยสำหรับคนที่เข้าไม่ถึงแบบประกัน ด้วยข้อจำกัดทั้งด้านอายุ โรคประจำตัวที่เป็นอยู่ หรือไหวแค่ไหนก็ออกแบบให้เข้าถึงได้ เพื่อสร้างความอุ่นใจโดยไม่เป็นภาระ รวมถึงการเปิดการเข้าถึงความคุ้มครองและสุขภาพที่ดีในรูปแบบใหม่ๆ ตามสภาวะโลกที่เปลี่ยนไป 

ส่วน ‘มิติสิ่งแวดล้อม’ ทางเมืองไทยประกันชีวิตได้ลงทุนและเปิดโอกาสให้ลูกค้า Unit-Linked สามารถลงทุนในสินทรัพย์สีเขียว ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) ตราสาร ESG (ESG Bond) และตราสารส่งเสริมความยั่งยืน พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมสีเขียว ให้แก่พนักงานในองค์กร เพื่อให้มีการขยายผลสู่สังคมในวงกว้างต่อไป 

และสุดท้ายบริษัทฯ ยังยึดมั่นและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจ ด้วยการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐานสากล และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณสูงสุดอย่างเคร่งครัดเป็นสำคัญ ตามพันธกิจด้านความยั่งยืนที่ว่า บริษัทฯ ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุล ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (ESG) เพื่อสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย