2 Min

MOODY x #SAVEMYSELF: IDENTITY CRISIS ตัวฉันคือใคร? ทำไมเราทุกข์ทรมานกับการหาตัวตน

2 Min
932 Views
19 Sep 2020
คำว่า ‘การตามหาตัวตน’ หรือ ‘การแสวงหาตัวตน’ น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำศัพท์ที่เราได้ยินบ่อยที่สุดในช่วงนี้ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นวัยรุ่น วัยเรียน หรือเด็กเจ็บใหม่ กลุ่มคำประเภทนี้ดูจะส่งผลต่อสภาพจิตใจมากกว่าช่วงเวลาอื่นใดในชีวิต
 
แล้วคนเราต้องมีตัวตนด้วยเหรอ การไร้ซึ่งตัวตนเป็นวิกฤตจริงไหม วันนี้จะชวนทุกคนมาพูดคุยประเด็นนี้กัน กับวิกฤตของการตามหาตัวตน หรือ Identity Crisis
 
แรกเริ่มเดิมทีแนวความคิดนี้มาจากนักจิตวิทยาท่านหนึ่งชื่อ Erik Erikson เขาได้แบ่งช่วงเวลาวิกฤตเอาไว้ 8 มิติหลัก เรื่องของตัวตนเป็นหนึ่งในนั้น (Identity vs. Role Confusion) ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น เพราะเมื่อทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลง ร่างกายเริ่มไม่เหมือนเดิม อารมณ์เริ่มไม่เหมือนเดิม สภาวะแนวคิดและจิตใจเริ่มไม่เหมือนเดิม มันก็ไม่แปลกอะไรที่พวกเราจะสับสน และเริ่มตั้งคำถามใหม่ๆ กับชีวิต
 
พวกเขาเริ่มก้าวผ่านคำว่าเด็ก เริ่มเข้าใจความเป็นไปของสังคม ทำให้เกิดการมองหาบทบาทตัวเองในโลกใบใหญ่ อาชีพที่มีคุณค่า และอาจรวมถึงบทบาททางเพศของตัวเองอีกด้วย เป็นการตามหาเป็นบทสรุปอัตลักษณ์ของตัวเอง เชื่อในสิ่งไหน ถนัดในสิ่งไหน อยากเป็นในสิ่งไหน และอยากให้คนอื่นมองมาที่ตัวเราในรูปแบบไหน
 
ปัญหาก็คือตัวตนของเรามักไปทับซ้อนกับบางสิ่งบางอย่างอยู่เสมอ ความคาดหวังของสังคม ไอดอล คำสอนของพ่อแม่ ทำให้เกิดความสับสนในอัตลักษณ์ (Identity diffusion) เราคิดว่าเราควรเป็นแบบนั้น เราควรชอบแบบนั้น เราควรถนัดแบบนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วตัวตนในมายาคติที่เราสร้างขึ้นมา ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการเราแบบจริงๆ อาจจะเป็นเรื่องการเรียนบางสาขา เพราะเพื่อนเรียน หรือเพราะคิดว่ามันเท่ อาจจะเป็นเรื่องของแฟชั่นที่เราแต่งตามศิลปินไอดอล แต่สุดท้ายเราก็กลับมาเปลี่ยนเป็นการแต่งตัวในแบบที่เรารู้สึกสบายใจ
 
ความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แค่วัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกเหล่านี้ คนเป็นผู้ใหญ่ คนที่โตแล้วก็สามารถเผชิญความรู้สึกแบบนี้ได้เหมือนกัน เมื่อต้องเจอกับรอยต่อต่างๆ ในชีวิต อาทิ
  • เริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่
  • หย่าร้าง
  • เจอเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งใหญ่
  • มีลูก
  • สูญเสียคนที่รัก
  • เปลี่ยนงาน
หากใครก้าวผ่านช่วงวัยรุ่น 12-18 ปีมาแล้ว ก็อาจจะยังรู้สึกว่าปัญหาตัวตนยังเป็นคำตอบที่ไม่คลี่คลาย ยังสับสน ยังไม่คุ้นชินกับภาระการเป็นผู้ใหญ่ ส่วนงานที่ทำงานก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือเปล่า
 
สุดท้ายนี้ MOODY เชื่อว่าการพบเจอตัวตน หรือได้ทำในสิ่งที่รักเป็นเรื่องที่ดี แต่การไม่พบเจอตัวตนก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่แปลกอะไร และเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทั่วไป ชีวิตคือการดำเนินไปข้างหน้า บางทีเรื่องราวและตัวตนของเราอาจจะเป็นสิ่งที่เราเป็นอยู่นั่นแหละ แต่อาจจะหาคำหรือขอบเขตมาจำกัดความไม่ได้แค่นั้นเอง
 
เอาเป็นว่า หาเงินให้พออยู่พอใช้ ใช้ชีวิตกับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข หยิบยื่นคุณค่าคืนกลับสังคมบ้าง ไม่ว่าตัวตนคุณจะเป็นเช่นไร แต่ก็เชื่อว่าชีวิตที่คุณมีแต่ละวัน ก็น่าจะเป็นชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณค่าแล้ว
 
แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับเรื่องการแสวงหาตัวตนกับบ้าง มาร่วมแชร์กันดีกว่า
 
อ้างอิง: