2 Min

ปริศนาอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน และการลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์ชื่อ ‘โมห์เซน ฟาครีซาเด’

2 Min
173 Views
14 Dec 2020

โมห์เซน ฟาครีซาเด “นักวิทยาศาสตร์” ชาวอิหร่านเพิ่งถูกลอบสังหารเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา

ถ้ามองอย่างผิวเผิน ข่าวนี้อาจไม่ใช่ข่าวที่น่าสนใจเท่าไร เพราะคนทั่วไปคงคิดว่า “นักวิทยาศาสตร์” หรือนักวิชาการใดๆ นั้นถ้าจะถูกลอบสังหารก็ไม่ยากอยู่แล้ว แต่ฟรีครีซาเด ไม่ใช่ “นักวิทยาศาสตร์” ธรรมดา แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิหร่าน ดังนั้นรอบตัวเขาจึงมีระบบดูแลความปลอดภัยที่สูงมาก

ทว่า ฟาครีซาเดก็โดนลอบสังหารกลางวันแสกๆ ทั้งๆ ที่เขาอยู่ในรถที่ติดกระจกกันกระสุน และมีบอดี้การ์ดอาวุธครบมือคอยอารักขา

เขาเป็นใคร ไปทำอะไร ทำไมถึงโดนลอบสังหาร?

คำตอบสั้นๆ เพราะเขาคือ “หัวหน้าโครงการอาวุธนิวเคลียร์” ของอิหร่าน แต่มาถึงตรงนี้คงต้องมีคำอธิบาย

1.

ช่วงหลังสงครามเย็น ในโลกนี้ก็เกิดโครงการ “ปลดอาวุธนิวเคลียร์” ทั่วโลก โดยมีการเจรจาให้ชาติต่างๆ ปลดอาวุธนิวเคลียร์พร้อมๆ กัน (เพราะแต่ละชาติก็มีนิวเคลียร์ไว้เป็น “ไม้กันหมา” ชาติคู่อริ) โดยทุกวันนี้ ชาติที่มีนิวเคลียร์อยู่อย่างเป็นทางการมีเพียงสหรัฐอเมริกา รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิสราเอล อินเดีย ปากีสถาน เกาหลีใต้ และอิหร่าน

อิหร่านเป็นชาติหนึ่งที่ยอมให้ทำการ “ปลดอาวุธนิวเคลียร์” และโครงการพัฒนานิวเคลียร์อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2003

แต่คีย์เวิร์ดคือ “ทางการ” เพราะถ้าเป็น “โครงการลับ” เราไม่มีทางรู้

2.

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงพอจะเดาออกว่า โมห์เซน ฟาครีซาเด นี่แหละคือ “ผู้ต้องสงสัย” ว่าเป็นหัวหอกของโครงการลับเพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน ซึ่งในทางปฏิบัติ เขาเป็นหัวหน้าทีมและศูนย์วิจัยอาวุธในอิหร่าน แน่นอน ไม่มีข้อมูลทางการว่ามี “นิวเคลียร์” ในนั้น แต่ปัญหาคือเทคโนโลยีที่เขาพัฒนา เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กับหัวรบนิวเคลียร์

ถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือ อิหร่านทำตัวว่า “ปลอดอาวุธนิวเคลียร์” แต่กลับซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้กับอาวุธนิวเคลียร์มาตลอด และถ้าได้หัวรบนิวเคลียร์มา อิหร่านก็จะพร้อมยิงเลย

ซึ่ง “ความน่าสงสัย” ที่ว่ามีมาตลอด เพราะตอนปลดอาวุธในปี 2003 ฟาครีซาเดเป็นคนเดียวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานิวเคลียร์ซึ่งไม่ยอมให้องค์กรต่างชาติเข้าสอบสวน และปี 2006 เขาจึงโดนคว่ำบาตรพร้อมทั้งแช่แข็งทรัพย์สินนอกประเทศทั้งหมดโดยสหประชาชาติ

แต่ก็อย่างที่บอก ฟาครีซาเดก็มีชีวิตปกติในอิหร่านและเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยทางการทหารมาตลอด และถ้านั่นยังไม่น่าสงสัยพอ ในปี 2013 มีรายงานว่าเขาได้ไปเยือนเกาหลี เหนือด้วย ซึ่งก็คงรู้กันว่าชาตินี้คือชาติเกเรที่มีหัวรบนิวเคลียร์อยู่มากที่สุด ณ ปัจจุบันนี้

ทั้งหมดนี้ ก็น่าจะมีเหตุผลมากพอที่คนจะไม่แปลกใจเลย ถ้าอเมริกาจะส่งคนมาลอบสังหารเขา และก็ไม่แปลกที่เขาจะต้องนั่งรถติดกระจกกันกระสุน และรายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดอาวุธครบมือ

3.

อย่างไรก็ดี การลอบสังหารฟาครีซาเดยังไม่มีการยืนยันใดๆ ว่าเป็นฝีมือใคร แต่ในอิหร่านก็คาดการกันว่าเป็นฝีมือของทางอิสราเอล ซึ่งก็เป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาและเป็นอริของอิหร่าน

แน่นอนข่าวนี้ถือเป็น “ข่าวเงียบๆ” ในกระแสโลกปัจจุบันที่ข่าวการประท้วงดูจะเป็นเรื่องเป็นราวกว่า แต่ข่าวนี้ก็เป็นบทเรียนย้ำเตือนที่ดีว่าการ “ท้าทายมหาอำนาจ” อาจนำมาสู่จุดจบที่น่ากลัว และก็อย่าคิดว่าในศตวรรษที่ 21 การลอบสังหารแบบยุคสงครามเย็นจะหายไปไหน

คำถามไม่ใช่ว่ามหาอำนาจจะ “เก็บ” คุณได้หรือไม่ แต่คำถามมีเพียงว่าคุณทำตัวในระดับที่มหาอำนาจคิดว่าเป็นอันตรายพอจะต้อง “หมายหัว” เพื่อจะ “เก็บ” หรือเปล่า เท่านั้นเอง

อ้างอิง:

  • Fox. What he knew: Why Iranian nuclear scientist Mohsen Fakhrizadeh was marked for death. https://fxn.ws/36V5CVX