สำหรับคุณ รถยนต์คืออะไร?
แน่นอนว่าคำตอบที่อยู่ในหัวของคนส่วนใหญ่รถยนต์ย่อมเป็นยานพาหนะที่ช่วยให้เราเดินทางไปไหนมาไหน แต่ในชีวิตจริงที่ต้องเจอกับการจราจรหนาแน่นติดอันดับโลก ชีวิตบนรถของคนไทยที่ใช้เวลาบนรถในแต่ละวันราว 4 ชั่วโมง จึงเป็นอะไรที่มากกว่าแค่การ ‘เดินทาง’
Mitsubishi Outlander PHEV คือรถยนต์ที่จะเข้ามาเปลี่ยนนิยามของรถยนต์ให้เป็นมากกว่ายานพาหนะ แต่คือไลฟ์สไตล์ของชีวิตยุคใหม่ ด้วยการเป็นรถ ‘อเนกประสงค์’ ของจริงที่ผสานพลังงานจากน้ำมันและไฟฟ้าเพื่อให้วิ่งได้ไกลขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นอย่างมากความสามารถในการจ่ายไฟฟ้าได้ถึง 1,500W เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านเต้าปลั๊กไฟ 2 ช่องภายในตัวรถ เปลี่ยนยานพาหนะให้กลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ซึ่งออกแบบมาสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบที่พักอาศัย หรือสามารถใช้ในกรณีฉุกเฉินได้เช่นกัน เช่นกรณีที่เกิดภัยพิบัติและบ้านไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ ก็สามารถเอาตัวรอดด้วยระบบ Dendo Drive House หรือนวัตกรรมระบบพลังงานรูปแบบใหม่ ที่ช่วยจัดการพลังงานสำหรับบ้านและรถยนต์ช่วงทั้งผลิตและเก็บพลังงานให้กับที่พักอาศัยได้ด้วยแผงโซลาร์เซลล์จากพลังงานธรรมชาติและในกรณีฉุกเฉินยังสามารถดึงพลังงานจากรถยนต์เข้ามาใช้ในบ้านได้แบบชั่วคราวผ่านระบบนี้
เรียกได้ว่าการใช้ได้ทั้งน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าของ Mitsubishi Outlander PHEV สามารถเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ไปอีกขั้นให้เราทำอะไรๆ ได้มากมายกว่าแค่การเดินทาง
แล้วรถยนต์คันหนึ่งสามารถเป็นอะไรได้บ้าง ไปดูกัน!
เป็นห้องทำงาน
ด้วยระบบการจ่ายไฟฟ้าทำให้การทำงานด้วยแลปท็อปหรือแทปเล็ตบนรถยนต์สามารถทำได้แบบลื่นไหล ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องคอยประหยัดพลังงานเพื่อชาร์จแบตที่บ้านหรือที่ทำงาน เพราะเราสามารถเดินทางและทำงานได้แบบง่ายๆ ไร้กังวล
นอกจากนี้ ด้วยระบบ S-AWC (Super All Wheel Control) ขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ Mitsubishi Outlander PHEV ยังช่วยรักษาสมดุลของล้อได้อย่างอิสระตามสภาพท้องถนนยังช่วยให้รถขับเคลื่อนไปได้นิ่มนวลเบาสบาย เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ขณะเข้าโค้งซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะมาสะดุดการทำงานหรือการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ช่วยให้ไลฟ์สไตล์การทำงานแบบ Work From Everywhere เป็นไปได้จริง
เป็นห้องแอบงีบ
ด้วยพลังการขับเคลื่อนที่ผสานทั้งพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน ในหมวดการขับเคลื่อนแบบ EV ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ซึ่งเป็นโหมดขับเคลื่อนหลักนอกจากจะช่วยลดการสร้างมลภาวะจากก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับโลกแล้ว การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ายังไม่มีเสียงเครื่องยนต์มารบกวนหู จนสามารถแอบงีบนอนได้แบบสบายๆ ที่สำคัญห้องโดยสารของ Mitsubishi Outlander PHEV ยังดีไซน์มาให้มีขนาดกว้างขวางสะดวกสบายทั้งโซนคนขับ และคนนั่งที่เบาะด้านหลังแบบ Diamond Quilting Design ที่ดีไซน์มาเพื่อรับสรีระการนั่งโดยเฉพาะช่วยให้นั่งสบาย
เอนนอนได้แบบไม่ปวดหลังกันเลย
เป็น mini kitchen หรือที่จิบกาแฟชิลๆ ยามเช้า
เวลาที่ต้องขับรถไปต่างจังหวัดไกลๆ บางทีเราอยากแวะจิบกาแฟชมวิวพักผ่อนแบบชิลๆ บนรถยนต์ แต่ก็ต้องคอยหาร้านกาแฟให้แวะพัก หรือให้เตรียมกาแฟเองก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ แต่รถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV เราสามารถแวะพักเสียบเครื่องชงกาแฟ กาน้ำร้อนได้เองแบบชิลๆ ไม่ง้อร้าน เปลี่ยนรถยนต์ให้กลายเป็นห้องพักผ่อนจิบกาแฟแบบส่วนตัวท่ามกลางวิวสวยๆ ได้
ไม่ใช่แค่ชงกาแฟ แต่เราเปลี่ยนรถเป็นครัวเล็กๆ ได้ด้วย แค่ใช้อุปกรณ์เครื่องครัวที่ใช้ไฟไม่เกิน 1,500W เราก็ทำอาหารเช้าง่ายๆ ได้แบบไม่ต้องพะวงว่าจะออกจากบ้านไม่ทัน เช่น เราจะแอบปิ้งขนมปังกินเป็นข้าวเช้า หรืออุ่นอาหารง่ายๆ ก็ทำได้บนรถแค่เสียบปลั๊ก!
เป็นห้องดูหนังหรือเปิด mini concert
ด้วยระบบการจ่ายไฟทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือแทปเล็ตขึ้นมาดูหนังชิลๆ หรือจะดูคอนเทนต์ออนไลน์ได้ลื่นไหล แถมเชื่อมต่อกับระบบเสียงในรถยนต์ได้ผ่าน Bluetooth
ไม่ใช่แค่เรื่องระบบไฟฟ้าเท่านั้นที่โดดเด่น เพราะ Mitsubishi Outlander PHEV ยังใส่ระบบ Smartphone link display audio เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์แบบลื่นไหล ไม่ว่าจะเชื่อมกับ Android หรือระบบ iOS ก็สามารถควบคุมได้แบบง่ายๆ ผ่านเสียงและหน้าจอ พิมพ์ข้อความผ่านเสียง ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และรองรับ Apple Car Play แน่นอนว่าสามารถฟังเพลงจากระบบเสียงของรถได้ ให้เราสามารถฟังเพลงเพลินๆ หรือจะเปิดคอนเสิร์ตเล็กๆ ให้หัวโยกกันแบบสะใจ
เป็นผู้ช่วยแคมปิ้ง
ตอบโจทย์เทรนด์กิจกรรม Outdoor ให้เราสามารถไปตั้งแคมป์ได้ทุกเมื่อ ด้วยโซนเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่ให้ใส่ของแบบจุใจ และช่องปลั๊กไป 1,500W ที่มีในโซนเก็บสัมภาระทำให้ทุกการตั้งแคมป์สามารถเชื่อมต่อจากรถยนต์ได้ง่ายๆ ไม่ต้องกลัวว่าไปเที่ยวสมบุกสมบันแล้วจะไม่มีไฟฟ้าใช้ เพียงแค่เปิดท้าย ต่อไฟ ก็ช่วยให้การตั้งแคมป์ง่ายกว่าที่เคย ไม่ต้องคอยพกพาที่ปั่นไฟให้รุงรัง นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลว่าไฟฟ้าในรถจนหมด เนื่องจาก Mitsubishi Outlander PHEV มีระบบ Save/Charge ที่ช่วยให้ชาร์ตไฟให้กับระบบในระหว่างการขับขี่ แถมยังหมดกังลเรื่องไม่มีสถานีชาร์ตไฟระหว่างการเดินทางไปได้ด้วย
เป็นเพื่อนเดินทางไปทุกที่
Mitsubishi Outlander PHEV ถูกดีไซน์มาเพื่อตอบรับในทุกการเดินทางไม่ว่าคุณะเดินทางไปในเมือง เจอทางลูกรัง หรือต้องขึ้นเขา จะต้องลุยแค่ไหนรถคันนี้ก็สามารถไปกับคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการขับเคลื่อนได้มากถึง 3 โหมดให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ คือ
EV Drive mode – โหมดการขับเคลื่อนด้วยพลัง
งานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% ทำให้ไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวนและให้พลังงานสะอาดเต็มตัว เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปโดยสมารถทำความเร็วได้สูงสุด 135 กม./ ชั่วโมงเลยทีเดียว
Series Hybrid mode – โหมดการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่ได้พลังงานจากเครื่องยนต์ในรถยนต์เอง ซึ่งจะถูกดึงมาใช้งานเมื่อแบตเตอรี่ขับเคลื่อนอยู่ในโหมดพลังงานต่ำ และถูกดึงมาใช้เมื่อต้องเร่งความเร็วแบบทันทีทันใดหรือต้องเร่งเครื่องเพื่อขึ้นทางลาดชัน โหมดนี้จะเข้ามาเสริมพลังงานให้กับเครื่องยนต์ได้
Parallel Hybrid mode – การขับเคลื่อนก้วยเครื่องยนต์เป็นหลักและใช้กำลังเสริมจากไฟฟ้า เหมาะกับการใช้งานเมื่อต้องเดินทางแบบใช้กำลังเครื่องสูง ต้องการเร่งความเร็วเพื่อแซง
เป็นคนดูแลความปลอดภัย
Mitsubishi Outlander PHEV ยังมีระบบที่คอยช่วยดูแลความปลอดภัยสูงสุดตั้งแต่การขับเคลื่อน 4 ล้อที่ช่วยรักษาสมดุลของรถในทุกสภาพถนน เทคโนโลยีความปลอดภัยแบบรอบคัน รวมถึงระบบล็อกความเร็วแบบอัตโนมัติให้ควบคุมความเร็วคงที่ หากรถยนต์ด้านหน้าใช้ลดความเร็วลงหรือโดยขับปาดหน้า รถของเราก็จะชะลอลงโดยอัตโนมัติด้วยระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการขับขี่แบบสูงสุด
Mitsubishi Outlander PHEV คือรถยนต์ที่เป็นมากกว่าการเดินทาง แต่เป็นไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ โดย Mitsubishi Outlander PHEV มี 2 รุ่นด้วยกันคือ GT ราคาเริ่มต้นที่ 1,640,000 บาท และรุ่น GT-Premium ราคาเริ่มต้น 1,749,000 บาท