ไม่เคยเห็นครุภัณฑ์ชื่อ ‘รถควบคุมสั่งการ’TAF ตั้งข้อสังเกต นายพลคงไม่ขับเบนซ์หรู S500 ไปรบชายแดนจึงน่าจะเป็น ’รถวีไอพี’ ที่ขยี้งบเกือบ 2 พันล้าน
อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
เปิดเพลงปลุกใจก็แล้ว แต่สังคมยังไม่หาย ‘อิหยังวะ’ กับคำชี้แจงเรื่องรถเบนซ์ S500 ที่เรียกว่า ‘รถควบคุมการสั่งการ’ ของกองทัพ ที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.) และกรรมาธิการวิสามัญ ในสัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย ตั้งคำถามพุ่งเป้าค่าใช้จ่ายของนายทหารระดับสูง จึงขอข้อมูลย้อนหลัง 10 ปีเป็นเอกสารจากกองทัพบกระบุว่า มีรถหรูที่ตั้งชื่อว่า ‘รถควบคุมการสั่งการ’ จำนวนกี่คัน จัดซื้อมาในปีงบประมาณใด เป็นจำนวนเงินเท่าไร และเป็นการขอเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณเดิมจากรายการใด เนื่องจากไม่เคยปรากฏรายการครุภัณฑ์ชื่อนี้ในเอกสารงบประมาณที่ส่งสภาเลย ส่วน ThaiArmedForce.com ชี้ว่า คงไม่มีนายพลคนไหนนั่งเบนซ์ไปรบที่ชายแดนแน่นอน จึงน่าจะเป็นรถวีไอพีที่ต้องใช้งบเกือบ 2,000 ล้านบาท
สังคมยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับคำตอบของกองทัพที่ชี้แจงว่า ‘รถเบนซ์ S500′ ที่นายทหารระดับสูงใช้ ไม่ใช่รถประจำตำแหน่ง แต่เรียกว่า ‘รถควบคุมการสั่งการ’ เพราะเป็นรถสมรรถนะสูง ที่ใช้งบปกติจัดซื้อ โดยต้องทำการตกลงกับสำนักงบประมาณเป็นรายการไป หลังเรื่องนี้กลายเป็นข่าวจึงถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า ‘รถควบคุมการสั่งการ’ จำเป็นต้องใช้รถเบนซ์หรูขนาดนั้นเชียวหรือ?
สมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ. สัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย ได้ตั้งประเด็นอภิปรายต่อว่า นายทหารระดับสูงจะมีรถ 2 คัน คันหนึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งตามสเปคราชการ อีกคันเป็นรถหรูที่เรียกว่า ‘รถควบคุมการสั่งการ’ จึงขอให้ส่งจำนวนรถควบคุมสั่งการทั้งหมดที่มีว่ามีจำนวนเท่าใด และจัดซื้อโดยเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณใดบ้าง โดยเป็นการขอย้อนหลัง 10 ปี
ขณะเดียวกัน เพจ ThaiArmedForce.com (TAF) ตั้งคำถามว่า “หาในเอกสารงบประมาณปี 66 ไม่เจอเหมือนกันว่ากระทรวงกลาโหมตั้งงบ ‘รถควบคุมการสั่งการ’ ไว้ตรงไหน อันนี้เป็นได้สองสาเหตุคือ มันอยู่กับโครงการอื่น หรืออยู่ในงบโครงการลับที่ไม่ได้เผยแพร่ อันนี้เราไม่รู้จริงๆ ครับ“
TAF อธิบายว่า ปกติแต่ละหน่วยงานของกระทรวงกลาโหมจะมีประกาศว่า ตำแหน่งใดสามารถมีรถประจำตำแหน่งได้ ซึ่งไม่ใช่มีแต่ชั้นนายพลเท่านั้น พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก จำนวนมาก ก็มีรถประจำตำแหน่งได้ เพราะกระทรวงกลาโหมยังมีระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยรถราชการทหาร พ.ศ. 2525 ซึ่งกำหนดผู้มีสิทธิได้ #รถประจำตำแหน่ง คือ
- นายทหารยศชั้นนายพลที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่เจ้ากรมหรือเทียบเท่าขึ้นไป
- นายทหารยศชั้นนายพลหรือนายทหารที่มียศชั้นพันเอกพิเศษขึ้นไป ที่ดำรงตำแหน่ง รอง, ผู้ช่วย และเสนาธิการ หรือเทียบเท่า
- นายทหารยศชั้นนายพลที่เทียบกับข้าราชการของส่วนราชการนอกกระทรวงกลาโหม ซึ่ง ครม. อนุมัติให้ได้รถประจำตำแหน่ง
“ถ้าเป็นกระทรวงอื่นๆ คนที่มีรถประจำตำแหน่งได้ก็มักจะเป็นข้าราชการระดับสูง และถ้าเป็นรถระดับหรูหราหน่อยแบบเมอร์ซีเดส เบนซ์ ก็น่าจะเป็นระดับรองอธิบดี อธิบดี หรือปลัดกระทรวง ซึ่งกระทรวงหนึ่งมีไม่กี่สิบคน แต่ปัญหาก็คือ กระทรวงกลาโหมเคยเทียบตำแหน่งของทหารกับข้าราชการพลเรือน พบว่ากระทรวงกลาโหมเทียบตำแหน่งนายพลให้เท่ากับอธิบดีจำนวนมากคือ
- สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม มีตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดี 18 ตำแหน่ง
- กองบัญชาการกองทัพไทย มีตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดี 33 ตำแหน่ง
- กองทัพบก มีตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดี 123 ตำแหน่ง
- กองทัพเรือ มีตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดี 37 ตำแหน่ง
- กองทัพอากาศ มีตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดี 33 ตำแหน่ง
“รวมแล้วกระทรวงกลาโหมจะเสมือนว่ามีอธิบดีทั้งหมด 18+33+123+37+33 = 244 คน
“ถ้าสมมติว่าทุกคนต้องได้นั่งเมอร์ซีเดส เบนซ์ S500 ก็คิดคร่าวๆ ได้ว่าจะต้องจัดหาจำนวน 244 คัน สมมติตีง่ายๆ ว่าคันละ 7 ล้าน แปลว่าต้องใช้งบประมาณเฉพาะในการจัดหารถประจำตำแหน่งทั้งหมด 1,708 ล้านบาท
“มีอีกประเด็นคือ กระทรวงกลาโหมไม่ได้เรียกรถประจำตำแหน่ง แต่เรียกว่า ‘รถควบคุมการสั่งการ’ เพราะบอกว่ามีอุปกรณ์สื่อสารพิเศษติดตั้งเข้าไป จริงๆ รถเมอร์ซีเดส เบนซ์ก็เป็นรถพลเรือน ไม่ใช่รถใช้งานทางทหาร ดังนั้นก็คงไม่มีอะไรมากนัก นอกจากวิทยุหรือระบบสื่อสารที่ติดตั้งเพิ่มเข้าไป ซึ่งจริงๆ แล้วจะใส่บนเบนซ์หรือบนรถบรรทุกก็คงใช้ได้ไม่ต่างกัน แต่ตรงนี้ก็อาจจะเป็นการตั้งชื่อเพื่อให้สื่อว่าตัวรถใช้งานทางยุทธการนะ ไม่ใช่ VIP อย่างเดียว แต่ในความเป็นจริง เราก็รู้ว่า คงไม่มีนายพลคนไหนนั่งเบนซ์ไปรบตรงชายแดนแน่นอน ซึ่งสุดท้ายก็คิดว่า ‘รถควบคุมการสั่งการ’ น่าจะเป็นคำเรียกของกระทรวงกลาโหมที่เรียก ‘รถประจำตำแหน่ง’ หรือ ‘รถ VIP’ นั่นเอง
“นี่ยังไม่นับว่า ถ้าเป็นตำแหน่งสูงๆ จะมีรถอีกคันตามไปด้วย แถมมี สห. ขี่รถมอเตอร์ไซค์ปิดหัวท้าย และมากั้นถนนประชาชน ซึ่งไม่แน่ใจว่าใช้อำนาจใดเหมือนกัน ดังนั้นรวมๆ กันทั้งหมด การมี ‘รถควบคุมการสั่งการ’ ของกระทรวงกลาโหม น่าจะต้องใช้เงินเกือบๆ 2 พันล้านบาทเลยทีเดียว“
นอกจากนี้ สมชัย ศรีสุทธิยากร ยังตั้งประเด็นน่าสนใจว่า แม้ ‘ค่าตอบแทนเหมาจ่าย’ แทน ‘ค่ารถประจำตำแหน่ง’ ของนายทหาร จะเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่การเทียบตำแหน่งของกองทัพกับพลเรือน ทำให้กองทัพมีจำนวนตำแหน่งที่ต้องจ่ายมากกว่ามาก เช่น กระทรวง มีปลัดกระทรวง ได้ 1 คน แต่กองทัพตีเทียบเท่าพลโทขึ้นไป ดังนั้น เท่ากับ กองทัพสามารถเบิกในอัตราปลัดกระทรวงได้หลายร้อยคน ถือเป็นความเหลื่อมล้ำในราชการอย่างมาก จึงดำเนินการขอเอกสารกำลังพลในตำแหน่งพลตรี พลโท พลเอก ที่มีในปัจจุบัน แยกเป็นที่มีหน่วยงานรองรับและที่เป็นตำแหน่งลอย เช่น ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ว่ามีจำนวนเท่าไร เป็นเอกสารเพิ่มเติมด้วย
อ้างอิง
- ‘สมชัย‘เผยกองทัพแจงรถเบนซ์ที่นายทหารระดับสูงใช้เป็น‘รถควบคุมการสั่งการ‘ https://siamrath.co.th/n/366202
- กองทัพชี้แจง เบนซ์ S500 ไม่ใช่รถประจำตำแหน่ง แต่เรียก “รถควบคุมการสั่งการ” https://www.sanook.com/news/8594178/
- กองทัพเลี่ยงตอบปมเช่าเบนซ์หรูนายพล–อ้าง ไม่คาดคิด เยอรมันไม่ขายเครื่องเรือดำน้ำให้จีน https://www.matichon.co.th/politics/news_3460086
- รถ VIP ของ #กลาโหม ใครมีสิทธิได้ใช้บ้าง ได้เงินเท่าไหร่ และอะไรคือ “รถควบคุมการสั่งการ” https://www.facebook.com/thaiarmedforce
- เฟซบุ๊กส่วนตัว สมชัย ศรีสุทธิยากร https://www.facebook.com/somchaivision