2 Min

กินนมแล้วท้องไส้ปั่นป่วนคือเรื่องปกติ ส่วนมนุษย์ที่กินนมแล้วย่อยได้ คือมนุษย์มิวแทนต์!

2 Min
1615 Views
22 Sep 2022

แม้ว่านมจะเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญของมวลมนุษยชาติมานานนม แต่จริงๆ แล้วตามธรรมชาติ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดจะสามารถย่อยนมได้เพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น เมื่อโตถึงวัยที่กินอาหารอื่นได้แล้ว ร่างกายก็จะสูญเสียความสามารถในการย่อยนมไปโดยปริยาย มีแต่เหล่ามนุษย์นี่แหละที่เลือกจะกินนมต่อ แถมยังพิสดารไปเอานมของสัตว์อื่นๆ มากินเสียอีก

หลักฐานพิสูจน์ความพิสดารนี้ก็คือ มนุษย์ส่วนหนึ่งจะไม่สามารถย่อยแลคโตส (Lactose) หรือน้ำตาลโมเลกุลคู่ที่พบในน้ำนมได้ เมื่อกินนมเข้าไปก็จะเกิดผลข้างเคียงเช่น ท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ ผายลมบ่อย สังเกตว่าคนที่มีอาการเหล่านี้ จะมีเฉพาะตอนดื่มนมวัวหรือกินอาหารที่มีผลิตภัณฑ์จากนมเท่านั้น หากดื่มนมถั่วเหลืองหรือนมพืชอื่นๆ ก็จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้น

หลายคนมักเรียกอาการข้างเคียงเหล่านี้ว่าอาการแพ้นมแต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่การแพ้ในแบบเดียวกับการแพ้อาหารชนิดอื่นๆ ที่จะปากบวม หายใจไม่ออก จนเป็นอันตรายถึงชีวิต อาการข้างเคียงของการไม่ย่อยแลคโตส (Lactose intolerance) มักเป็นอาการน่ารำคาญเล็กๆ น้อยๆ เสียมากกว่า และบางทีมันเล็กน้อยเสียจนคนส่วนใหญ่ไม่ทันสังเกต จับต้นชนปลายไม่ได้ว่าอาการท้องอืดท้องเสียแบบแรนดอมนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร

วิทยาศาสตร์ของการไม่ย่อยแลคโตสมีอยู่ว่า เมื่ออยู่ในวัยแบเบาะที่ต้องกินนมแม่เป็นอาหารหลัก ในกระเพาะของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีเอนไซม์แลคเตส (Lactase) อยู่ เอนไซม์ตัวนี้จะทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลแลคโตสโดยเฉพาะ จึงสามารถกิน (ดื่ม) นมแม่ได้อย่างปกติสุขแต่เมื่อร่างกายเติบโตและแข็งแรงพอที่จะกินอาหารอื่นๆได้เอนไซม์แลคเตสก็จะถูกปิดกั้นไปเพราะไม่จำเป็นต้องใช้งานอีกหากมองจากหลักการข้อนี้แล้วสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดจึงมีอาการไม่ย่อยแลคโตสโดยอัตโนมัติเมื่อเติบโตถึงวัยหนึ่ง

คนก็เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้นคนที่มีอาการไม่ย่อยน้ำตาลในนมจึงเป็นคนที่มีวิวัฒนาการปกติ (ยินดีด้วย!) ว่าแต่ มันเกิดอะไรขึ้นกับคนประเภทที่กินนมได้อย่างเบิกบานสำราญใจกันล่ะ คำตอบก็คือ คนพวกนั้นเป็นมนุษย์กลายพันธ์ุน่ะสิ!

การกลายพันธ์ุที่ว่านี้สันนิษฐานว่า เกิดจากการที่มนุษย์บางเผ่าพันธุ์เลี้ยงวัวไว้เป็นแหล่งโปรตีน แล้วเรียนรู้ที่จะเอาน้ำนมวัวมาดื่มกินตั้งแต่ช่วง 9,000 ปีก่อน มนุษย์กลุ่มนี้ใช้เวลากว่า 4,000 ปีในการค่อยๆปรับร่างกายกันแบบรุ่นต่อรุ่นพัฒนาวิวัฒนาการในการย่อยนมมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็ก่อกำเนิดมนุษย์มิวแทนต์ที่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ในที่สุด

ชาวตะวันตกผู้มิวแทนต์ตัวเองแล้วจึงมีสารพัดเมนูจากนมไว้เติมพลังให้ร่างกายอยู่เสมอ ทั้งนม เนย ครีม ชีส โยเกิร์ต ในขณะที่ชาวเอเชียหัวดำอย่างเราเริ่มดื่มนมช้ากว่า จึงมีอาหารจากนมน้อยกว่า และมีเปอร์เซ็นต์ของคนที่ไม่สามารถย่อยนมได้มากกว่า ผู้ใหญ่ชาวเอเชียมีอาการนี้ถึงร้อยละ 80-90 เลยทีเดียว

เพราะฉะนั้นอย่าลืมสำรวจสุขภาพท้องไส้ของตัวเองดูทุกครั้งหลังดื่มนมหรือกินอาหารจากผลิตภัณฑ์นม หากมีอาการโครกครากในท้อง ก็แสดงว่าคุณยังไม่ใช่มนุษย์มิวแทนต์ และคงถึงเวลามองหานมพืชหรือนมที่ไม่มีแลคโตสมาดื่มแทนแล้วล่ะ

อ้างอิง

  • หนังสือ Milk! A 10,000-Year Food Fracas เขียนโดย Mark Kurlansky