3 Min

‘มิกาลู’ วาฬเผือกร็อคสตาร์ กับปริศนาการหายตัวไปอย่างลึกลับถึง 2 ปี

3 Min
1126 Views
21 Jul 2022

เมื่อถึงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมของทุกปี บริเวณนอกชายฝั่งของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย จะคลาคล่ำไปด้วยคนรักวาฬจากทั่วสารทิศ เดินทางมาชมเหล่าวาฬหลังค่อม วาฬมิงค์ วาฬเพชฌฆาต รวมถึงโลมา ที่อพยพมาหากินและจับคู่ผสมพันธุ์

แต่ท่ามกลางการชุมนุมที่ก่อตัวขึ้น จะมีวาฬเพียงตัวเดียวที่อยู่ในสายตาของหลายๆ คน ซึ่งก็คือวาฬหลังค่อมที่มีชื่อว่ามิกาลูดาวเด่นที่ถูกตั้งสมญาว่าเป็นร็อคสตาร์แห่งมหาสมุทร

มิกาลูถือเป็นวาฬที่คนชื่นชอบวาฬทั่วโลกต่างรู้จักกันดี เพราะเป็นวาฬเพียงตัวเดียวบนโลกใบนี้ที่มีสีขาวล้วนทั้งตัว 

ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากกว่าการเป็นสัตว์เผือกที่ยีนควบคุมการเกิดสีภายในร่างกายบกพร่องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเม็ดสี จนร่างกลายเป็นสีขาวล้วนทั้งหมด ตรงตามชื่อมิกาลูที่แปลว่าเด็กผู้ชายผิวขาว’ (ในภาษาอะบอริจิน) ต่างจากวาฬหลังค่อมปกติทั่วไปที่ด้านหลังจะมีสีเข้ม แต่มีท้องสีขาว

เพียงความแตกต่าง (แต่โดดเด่น) ก็ทำให้มิกาลูกลายเป็นตัวแทนของประชากรวาฬหลังค่อมชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียไปโดยปริยาย

และก็เหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง มิกาลูมีทวิตเตอร์เป็นของตัวเอง (ที่เล่นโดยมนุษย์) บัญชีมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน (twitter.com/Migaloo1) ซึ่งโดยเนื้อหาแล้วก็ไม่ได้มีแต่เรื่องราวของเจ้าตัวเพียงคอนเทนต์เดียว แต่ยังแทรกความรู้และข่าวสารของประชากรวาฬชนิดต่างๆ ที่พบทั่วชายฝั่งออสเตรเลีย 

คุณงามความดีของมิกาลู หาได้มีแต่เรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว หรือปลุกกระแสให้คนสนใจวาฬเท่านั้น ด้วยอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร สังเกตได้ง่ายกว่าวาฬตัวอื่นๆ ที่ดูอย่างไรก็เหมือนๆ กันไปหมด ทำให้ในทุกการเคลื่อนไหวของมิกาลูเป็นที่จับตาของนักวิทยาศาสตร์อาชีพและมือสมัครเล่น (หรือที่เรียกว่านักวิทยาศาสตร์พลเมือง’) คอยติดตามและรายงานความเคลื่อนไหว การปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ จนกลายเป็นเครือข่ายฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ที่ช่วยอธิบายให้เราเห็นภาพว่าในหนึ่งปี วาฬไปทำอะไรที่ไหน อย่างไร (แม้จะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งปีก็ตาม แต่ก็ถือว่ามากโขอยู่เมื่อเทียบกับวาฬตัวอื่นๆ ที่ไม่มีผู้ติดตาม)

และไม่มากก็น้อย นับจากที่โลกได้บันทึกการมีอยู่ของมิกาลู จำนวนวาฬหลังค่อมรอบๆ ชายฝั่งออสเตรเลียก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดทางการตัดสินใจลบวาฬหลังค่อมออกจากรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของออสเตรเลีย เพราะมีจำนวนมากจนไม่ต้องกังวลอีกแล้ว (อย่างน้อยก็ในเวลานี้)

แต่สำหรับโลกในยุคที่มีปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปกคลุมอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ความอยู่รอดของสัตว์ทะเลและเพื่อนพ้องของมิกาลูคงไม่สามารถการันตีได้ว่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้อีกนานแค่ไหน

นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมามิกาลูหายหน้าหายตาไม่มาปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย

จนสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียถึงกับเขียนพาดหัวข่าวกึ่งๆ ตั้งคำถามว่าหรือว่ามิกาลูจะตายแล้ว?”

เพราะนับตั้งแต่ปี 1991 ที่มีการพบเห็นวาฬเผือกตัวนี้ ก็ไม่มีปีใดที่ผู้ติดตามวาฬจะพลาดชมการปรากฏตัวของมิกาลู 

นักวิทยาศาสตร์ด้านสัตว์ป่าจาก Macquarie University คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเลอาจส่งผลกระทบต่อมิกาลูและวาฬตัวอื่นๆ 

ที่ผ่านมา มิกาลูเป็นวาฬที่อธิบายให้เราเห็นว่าวงจรชีวิตของวาฬหลังค่อมในออสเตรเลียที่ใช้ชีวิตอยู่ระหว่างสองสภาพแวดล้อมต่างขั้ว อพยพไปมาจากแอนตาร์กติกสู่มหาสมุทรเขตร้อนเป็นอย่างไร 

แต่ทั้งสองส่วนนี้ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งสิ้น

อุณหภูมิของน้ำที่แปรเปลี่ยนไป อาจนำไปสู่การอพยพย้ายถิ่นของอาหารวาฬ และผลักดันให้วาฬต้องเปลี่ยนเส้นทางหากินหรือสืบพันธุ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการกระจายตัวของเหยื่อในแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป

มิกาลู อาจยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง อาจกำลังเดินทางมา หรืออาจเปลี่ยนเส้นทางไม่หวนคืนกลับมาถิ่นเก่าอีกแล้ว เหล่านี้คือเรื่องราวที่นักวิทยาศาสตร์ นักอนุรักษ์ และบรรดาแฟนคลับยังคงเฝ้าสืบหาความจริงกันอยู่

อย่างไรก็ตาม หากวัดจากอายุขัยโดยเฉลี่ยแล้ว วาฬหลังค่อมจะมีอายุมากถึง 40-50 ปี แต่จากการตรวจสอบดีเอ็นเอของมิกาลู สามารถยืนยันได้ว่าวาฬเผือกหนึ่งเดียวตัวนี้เกิดในปี 1986 ปัจจุบันจึงยังมีอายุแค่ 35 ปี หลายคนจึงตั้งความหวังว่าสักวันคงมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง

หมายเหตุ: ในช่วงต้นปี มีรายงานพบเห็นวาฬเผือกนอกชายฝั่งนิวเซาท์เวลส์ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใช่มิกาลูหรือไม่ บ้างคาดว่าอาจเป็นลูกของมิกาลู หรือบ้างก็คาดว่าเป็นท้องสีขาวของวาฬตัวอื่น

อ้างอิง