ศาลอังกฤษตัดสินให้โรงเรียนชนะคดี หลังถูกนักเรียนมุสลิมฟ้อง เหตุห้ามละหมาดภายในสถานศึกษา ด้านครูใหญ่ชี้ “นี่คือชัยชนะของทุกโรงเรียน”

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนในสหราชอาณาจักรอีกครั้ง สำหรับคดีฟ้องร้องที่เกี่ยวกับประเด็นทางศาสนาอันละเอียดอ่อน ที่เกิดขึ้นระหว่างโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กับนักเรียนมุสลิม ที่ยื่นฟ้องร้องต่อศาลหลังถูกทางโรงเรียนห้ามทำละหมาด โดยโรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า ‘Michaela Community School’ ก่อตั้งในปี 2014 โดย แคธารีน เบอร์บัลซิงห์’ (Katharine Birbalsingh) ที่ต้องการสร้างสถานศึกษาแบบรัฐฆราวาสที่เปิดโอกาสให้คนทุกชาติทุกศาสนาได้เข้าเรียนฟรี ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องกฎที่เข้มงวดต่อนักเรียน อย่างการห้ามสนทนากันในทางเดิน หรือรวมกลุ่มเกิน 4 คนภายในสถานศึกษา โดยหวังว่ากฎที่เข้มงวดเหล่านี้จะสร้างให้ผู้เรียนกลายเป็นคนที่มีระเบียบวินัย จนทำให้โรงเรียนแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘โรงเรียนที่เข้มงวดที่สุดในสหราชอาณาจักร’ 

ซึ่งก็ดูเหมือนว่านโยบายดังกล่าวจะถูกอกถูกใจผู้ปกครองอยู่ไม่น้อย จนทำให้มีการส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนมากกว่า 700 คนเลยทีเดียว ซึ่งจำนวนเกินครึ่งมาจากครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่ง ในเดือนมีนาคมของปีที่ผ่านมา มีนักเรียน 30 คน รวมตัวกันละหมาดบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน ด้วยชุดละหมาดเต็มยศ  โดยลืมไปว่าการละหมาดนี้ขัดกับนโยบายห้ามรวมตัวเป็นกลุ่ม และนโยบายโรงเรียนรัฐฆราวาสของโรงเรียนอย่างรุนแรง ทำให้ทางโรงเรียนตัดสินใจสั่งนักเรียนกลุ่มนี้ให้หยุดปฏิบัติศาสนกิจโดยทันที และห้ามรวมกลุ่มละหมาดอีก 

แน่นอนว่าคำสั่งนี้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อนักเรียนกลุ่มดังกล่าว และสังคมมุสลิมจนเลยเถิดไปถึงขั้นขู่ประทุษร้ายและวางระเบิด ทำให้ทางโรงเรียนยิ่งเข้มงวดต่อการแสดงออกทางศาสนาต่างๆ เนื่องจากมองว่าอาจนำอันตรายมาสู่สถานศึกษาได้ ทำให้หนึ่งในนักเรียนกลุ่มนี้ ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่าโรงเรียนกำลังละเมิดเสรีภาพทางศาสนา และเลือกปฏิบัติ จนทำให้กลุ่มมุสลิมรู้สึกแปลกแยก ก่อนเน้นย้ำว่านโยบายของโรงเรียนส่งผลกระทบต่อศรัทธาทางศาสนาในฐานะที่การละหมาดถือเป็น 1 ใน 5 เสาหลักของอิสลาม

ซึ่งทางศาลก็รับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา และได้ให้คำพิพากษาออกมาในวันอังคารที่ 16 เมษายน 2567 ว่า ทางโรงเรียนไม่ได้มีความผิดในฐานที่ถูกฟ้องร้องจริง และนักเรียนผู้ที่สมัครเรียนในสถานศึกษาหนึ่งๆ ก็มีหน้าที่ในการยอมรับกฎของสถานศึกษานั้นๆ ด้วยความสมัครใจ ในขณะที่ครูใหญ่และผู้ก่อตั้งโรงเรียนออกมาแสดงความยินดีกับคำตัดสินนี้ และกล่าวว่าสิ่งที่โรงเรียนทำ คือการปกป้องสภาพแวดล้อม ซึ่งเด็กทุกเชื้อชาติศาสนาจะสามารถเจริญเติบโตได้ ก่อนจะย้ำว่า ข้อตัดสินนี้คือ “ชัยชนะสําหรับทุกโรงเรียน” ทั้งยังกล่าวว่า โรงเรียนในสหราชอาณาจักรไม่ควรถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงเพราะนักเรียนคนใดคนหนึ่ง

ในขณะที่กิลเลียน คีแกน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า ครูใหญ่ “อยู่ในตําแหน่งที่เหมาะสมที่สุด” สำหรับการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของโรงเรียน และหวังว่าการตัดสินนี้จะทำให้ผู้นำโรงเรียนทุกคน มีความมั่นใจในการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับนักเรียนภายใต้การปกครองของตนเอง อย่างไรก็ตามทางฝั่งนักเรียนผู้ที่ยื่นฟ้องก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับคำตัดสินนี้พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวัง ที่ศาลไม่อาจปกป้องเสรีภาพทางศาสนาของเธอได้

อ้างอิง

• DailyMail.Prayer ban at Britain’s strictest school is lawful, High Court judge rules: Headteacher Katharine Birbalsingh hails judgement as ‘a victory for all schools’ after Muslim pupil lost legal challenge over claims the policy was discriminatory. https://tinyurl.com/yttk9h6x
• Thestraitstimes.Muslim school student loses UK court bid over prayer rituals ban.https://tinyurl.com/43rdhxkc