4 Min

เจาะกลยุทธ์การตลาดรถไฟฟ้า ของ MG ผู้บุกเบิกและผู้นำรถไฟฟ้าของไทย ที่มาพร้อมกับระบบนิเวศ EV อันแข็งแกร่ง

4 Min
1018 Views
17 Mar 2023

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าปัจจุบัน ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ (EV) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์โลก และอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยลดมลภาวะทางอากาศ และไม่ปล่อยควันพิษมาจากท่อไอเสียอีกด้วย

ทั้งนี้หากเอ่ยถึงแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ หนึ่งในนั้นต้องมี ‘เอ็มจี’ (MG) หรือที่ทุกคนรู้จักในฐานะผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ที่ให้ความสำคัญ รวมถึงผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้มีความพร้อม และความสามารถเทียบเท่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

ที่สำคัญยังนับเป็นผู้นำ และผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า​ในประเทศไทย เพราะแม้จะเข้ามาในตลาด EV ได้เพียงไม่กี่ปี แต่ MG สามารถทำให้คนไทยส่วนใหญ่เปิดใจ เปลี่ยนความคิด และสร้างความมั่นใจในการใช้งานให้กลุ่มลูกค้าได้

อีกทั้งปัจจุบัน MG ก็ถือเป็นแบรนด์ที่ ‘มีรุ่นรถไฟฟ้ามากที่สุด’ ในตลาด สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่มในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

เนื่องจากก่อนหน้านี้รถยนต์ไฟฟ้าจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถพรีเมียม ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง กลุ่มคนที่จะเข้าถึงได้จึงต้องเป็นคนที่มีฐานะสูงพอสมควร ดังนั้นทำให้กลุ่มคนทั่วๆ ไปที่ต้องการใช้งานรถประเภทนี้จะรู้สึกเข้าถึงยาก

ทำให้ทาง MG เล็งเห็นถึงความต้องการของคนกลุ่มดังกล่าว จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ในราคาที่เหมาะสม

โดยเฉพาะหลังจากมีนโยบายจากทางภาครัฐที่สนับสนุนการใช้รถยนต์ EV ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีจาก 8 เปอร์เซ็นต์ ลดลงมาเหลือ 2 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการเข้ามาซัพพอร์ต ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทนั้น มีราคาขายลดลงจากเดิมราวกว่า 200,000 บาทเลยทีเดียว

นโยบายข้างต้น จึงช่วยลดช่องว่างราคาระหว่างรถยนต์สันดาปกับรถยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมไปถึงส่งผลทำให้คนไทยที่อาจติดขัดในเรื่องของราคาได้หันมาสนใจ และมีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่เพิ่มมากขึ้น

และด้วยเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่เริ่มให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อมเรื่องมลพิษ และเริ่มหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น

เช่นนี้ทาง MG จึงได้แนะนำรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภทให้กับตลาด รวมถึงเปิดเซกเมนต์ใหม่ๆ ให้กับรถไฟฟ้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ได้แก่

  • NEW MG ZS EV

รถสไตล์ SUV ด้วยแนวคิด Truly Easy รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำให้ชีวิตง่าย และปลอดภัย ทุกการขับเคลื่อน เต็มอิ่มกับ ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 20 ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน อีกทั้งภายนอกออกแบบให้มีความเรียบง่าย ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย เรียกได้ว่าลงตัวในทุกรายละเอียด

  • NEW MG4 ELECTRIC

รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ICON นิยามของการเป็นต้นแบบ และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก โดดเด่นในเรื่องระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ถือเป็น EV สายพันธุ์แท้ ที่มีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ อีกทั้งมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ให้อุ่นใจในทุกการขับขี่

  • NEW MG EP

มาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ที่ไม่ใช่มีดีแค่ดีไซน์ แต่จะต้องตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง เพราะมีทุกสิ่ง ครบทุกอย่าง สำหรับการเป็น EV คันแรก ภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัยเหมาะสำหรับทุกการใช้งาน

  • NEW MG ES

รถรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมความสะดวกสบายในการใช้งาน ภายใต้แนวคิด COMFORTABLE เป็นทุกอย่าง เพื่อทุกโมเมนต์ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงเวลาที่สำคัญ โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยของห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ใช้ได้จริง ด้วยดีไซน์ภายนอก-ภายในที่พรีเมียมและมีระดับ ผสานความลงตัวในสไตล์ BRIT DYNAMIC ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย สู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ของรถไฟฟ้าที่มีดีในทุกด้าน

ซึ่งต้องบอกก่อนว่าทั้ง NEW MG EP และ NEW MG ES นั้นแบรนด์เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์เดียวที่มีรถไฟฟ้าในเซกเมนต์สเตชั่นแวกอน ที่มาพร้อมอรรถประโยชน์ครบครัน

อย่างไรก็ดี นอกจากในเรื่องของสินค้าที่หลากหลายของทางแบรนด์ MG ยังดูแลครอบคลุมไปยังเรื่องของ ‘การบริการ’ ผ่านการสร้างมาตรฐานการบำรุง รักษารถ EV ให้ลูกค้ามั่นใจได้ในทุกศูนย์บริการ ว่าจะดูแลรักษารถ EV ของคุณได้อย่างมีคุณภาพ

ตั้งแต่ราคาการบำรุงรักษาของรถไฟฟ้าถูกมาก เฉลี่ยแค่ 100,000 กิโลเมตร ขณะที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ถึง 8,000 บาท ไปจนถึงมีการเทรนดีลเลอร์ทั่วประเทศให้มีความรู้มากพอที่จะดูแลและบริการลูกค้าของเรา ตลอดจนสามารถสร้างความมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

พร้อมกับสร้าง ‘ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า’ หรือ ‘EV Ecosystem’ ที่มีศูนย์บริการรองรับการซ่อมรถไฟฟ้าได้ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ MG มี Quick Charge สำหรับลูกค้าของ MG หรือ MG SUPER CHARGE STATION ตามพื้นที่ต่างๆ ราวกว่า 129 แห่งทั่วประเทศไทย

ซึ่งในปี 2023​ นี้ มีการตั้งเป้าจะให้โชว์รูมทั่วประเทศ มี MG SUPER CHARGE STATION และตั้งใจเดินหน้าขยาย MG SUPER CHARGE STATION กับพันธมิตรอย่าง ‘บางจาก’ ออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความต้องการในการเพิ่ม Quick Charge ทั่วประเทศ จึงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในศักยภาพ และไว้วางใจได้ว่าสามารถขับขี่ได้ทุกที่ทั่วไทย ไม่จำกัดแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น

นอกจากนี้ยังเสาะหาพันธมิตรใหม่ๆ ขยายจุดชาร์จ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนา Ecosystem การใช้งานรถ EV ในไทยให้สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงความไว้วางใจให้กับลูกค้าของ MG​ ในเรื่องของจุดชาร์จ และให้เป็นไปตามเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเทียบเท่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

เช่นนี้เองจึงทำให้ MG มีความพร้อมในรอบด้านในเรื่องของรถไฟฟ้า ที่สามารถตอกย้ำการเป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้า จากผลสำรวจจากลูกค้า และสื่อต่างๆ ด้วยรางวัล BrandAge ‘THAILAND’S MOST ADMIRED BRAND’ สาขายานยนต์ไฟฟ้า (EV) ถึง 2 ปีซ้อนในปี 2022 และ 2023

และรางวัล ‘No.1 Brand Thailand 2021-2022’ ในหมวดธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ารถยนต์ในตลาดโลกมักจะมีออปชั่น และฟีเจอร์อีกมากมายที่ประเทศไทยเรายังไม่มี

ขณะที่จากเรื่องราวทั้งหมดข้างต้น ไม่ใช่แค่ทำให้เห็นถึงการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังแสดงให้เห็นว่า MG พยายามเดินหน้ามุ่งยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ผ่านการส่งมอบรถยนต์ในระดับเดียวกันกับต่างประเทศ ทั้งยุโรป เอเชีย หรือในทวีปอื่นๆ ทั่วโลก โดยการนำออปชั่น และฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้ในตลาดโลกมาพัฒนาในแบรนด์ของเรา เพื่อยกระดับยานยนต์ไทย

ถ้าหากใครสนใจ และอยากทำความรู้จัก MG ให้มากขึ้น สามารถไปติดตามได้ที่: www.mgcars.com