Select Paragraph To Read
- “จาก ‘คาร่า’ กลายเป็น ‘เซรีน่า’”
- “ชีวิตนางเงือก ไม่ใช่เรื่องง่าย”
- “กลวิธีการเป็นเงือก”
- “ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนเงือกฝึกหัด”
- “โควิด-19 และเหตุผลของการเป็นเงือก”
ไม่มีความฝันไหนเป็นไปไม่ได้ แม้กระทั่งความฝันที่อยากจะเป็น “นางเงือก”
ใครก็ตามมีภาพฝันอยากเห็นตัวแหวกว่ายในสายน้ำด้วยร่างครึ่งคนครึ่งปลา ขอให้กอดความฝันนี้ให้แน่นๆ พร้อมเปิดจินตนาการให้กว้างไกล เพราะวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ “คาร่า นิโคล” ชาวสิงคโปร์อายุ 29 ปี ที่เมื่อร่างของเธอดำลึกลงไปในสายน้ำเมื่อใด เธอจะเปลี่ยนไปเป็น “เงือกสาว เซรีน่า” แหวกว่ายในธาราพร้อมหางปลาระยิบระยับ
“จาก ‘คาร่า’ กลายเป็น ‘เซรีน่า’”
คาร่าไม่ใช่เงือกสาวตนเดียวในโลก ในทั่วทุกมุมทวีปมีเงือก ไม่ว่าจะเพศไหน ซุกซ่อนอยู่ ใครที่อยากยลโฉมสิ่งมีชีวิตในตำนานนี้เป็นขวัญตา ก็สามารถหาพวกเขาได้ตามงานแสดงต่างๆ หรือใครมีเงินมากหน่อย ก็สามารถจ้างพวกเธอให้มาหาเป็นการส่วนตัวได้เลย พวกเธอเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องทำมาหากินเช่นกัน
คาร่าเป็นเงือกสาวมืออาชีพมานานแล้ว และเธอจะมาบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนางเงือก ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์คนใดก็ตามที่อยากผันตัวมาเป็นนางเงือกเหมือนเธอ
“สำหรับฉัน การเป็นนางเงือกมืออาชีพ คือ การสร้างคาแร็คเตอร์” คาร่าให้สัมภาษณ์กับ Vice “ฉันเชื่อว่าการจะมีร่างเงือก (Mersona) ให้สำเร็จจริงๆ คือคุณต้องยังศรัทธากับมัน เวลาฉันกลายเป็นเซรีน่าเต็มตัว ฉันไม่รู้สึกฝืนเลย มันคือส่วนหนึ่งของตัวตนฉัน”
ในปี 2011 คาร่าในฐานะหญิงสาวธรรมดาๆ คนหนึ่งกำลังเดินเลือกซื้อชุดคอสตูมสำหรับวันฮัลโลวีน เธอหันไปเห็นหางนางเงือก มันดึงดูดให้เธอรู้สึกตื่นเต้น และทึ่งไปกับความคิดที่ว่ามีคนสามารถว่ายน้ำในหางปลานี้ได้จริงๆ
“ฉันเลยซื้อหางนางเงือกชิ้นนั้นมา แค่คิดว่าจะลองเป็นนางเงือกสนุกๆ สานฝันตัวเองในวัยเด็ก และหางนี่ มันมหัศจรรย์มาก ฉันซื้อ ฉันลองสวม และก็ตกหลุมรักมันอย่างจัง” คาร่าเล่า
พอได้ลองแหวกว่ายสายน้ำด้วยท่อนล่างท่อนใหม่อยู่ไม่กี่เดือนเท่านั้น คาร่ารู้ใจตัวเองทันทีว่า เธออยากจะเป็นนางเงือกมืออาชีพ
“ชีวิตนางเงือก ไม่ใช่เรื่องง่าย”
ในช่วงตอนนั้น คาร่ากำลังเรียนอยู่เอกวรรณกรรม ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (the National University of Singapore) เธอถูกจ้างไปโชว์ตัวอยู่บ้าง แต่โอกาสได้เฉิดฉายในฐานะเงือกสาวก็ยังถือว่าน้อยมากๆ อยู่ คาร่าเกือบถอดใจ แต่ได้แฟนหนุ่มในตอนนั้นคอยช่วยสนับสนุน เธอเลยตัดสินใจที่จะพยายามต่อไป
แล้วจุดเปลี่ยนของเธอก็มาเยือนในปี 2013 คาร่าได้ไปปรากฏอยู่บนบทความในฐานะนางเงือก และคำขอให้เงือกสาวปรากฏกายก็หลั่งไหล้เข้ามาเป็นสายน้ำ ปัจจุบันนี้ เธอได้ไปโชว์ตัวตามโรงแรมชื่อดัง ห้างใหญ่ และในหลายๆ สถานที่ท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ในงานแสดงซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง มอบโอกาสให้เธอได้เคลื่อนไหวอิสระไปตามจินตนาการ
สำหรับใครบางคน การบอกว่า “อยากเป็นนางเงือก” อาจฟังดู “เบียว” หรือดูฟังเพ้อฝัน แต่จริงๆ แล้ว การเป็นนางเงือก คือ วัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม (Subculture) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จะว่าไปแล้ว มันก็คือกีฬาดำน้ำตัวเปล่า (Freediving) ที่ความแตกต่างอยู่ตรงที่นักกีฬาต้องสวมหางปลากับแต่งตัวแฟนตาซี
ในปีนี้ ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่รีสอรท์ “Atlantis Sanya” ในมลฑลไหหลำ ประเทศจีน มีการจัดสแดงโชว์เงือกกว่า 110 ชีวิตเริงระบำอยู่ในอควาเรียมลึกกว่าสิบเมตร โชว์ครั้งนี้ได้ถูกบันทึกในกินเนสบุ๊คให้เป็น “งานโชว์เงือกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
“กลวิธีการเป็นเงือก”
การเป็นเงือกแตกต่างจากการคอสเพลย์ประเภทอื่นๆ ตรงที่ส่วนใหญ่แล้ว เงือกทั้งหลายจะสร้างตัวตนเป็นของตัวเองขึ้นมา แทนที่จะสวมบทบาทไปตามเรื่องราวที่มีอยู่แล้ว
“คุณต้องปลูกฝังจินตนาการให้เกิดขึ้นในหัวของผู้คนให้ได้จริงๆ จนพวกเขาอินและสนใจดูตลอดเวลา โดยทำทั้งหมดนั่นผ่านท่วงท่าการแสดงทางกายอันลึกซึ้ง”
แม้นางเงือกใต้น้ำจะดูมหัศจรรย์แค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อพวกเธออยู่บนดินและต้องเตรียมการแสดง พวกเธอก็เหมือนนักแสดงทั่วๆ ไป ที่ต้องเตรียมชุด เตรียมหาง เตรียมเจลหล่อลื่นสำหรับใส่และถอดหาง และที่สำคัญ คือต้องเตรียมสภาพจิตใจและอารมณ์ให้พร้อม ในหัวอาจตื่นเต้นได้ แต่เงือกต้องบังคับใจให้สงบที่สุด
“สำหรับเงือก ยิ่งอัตราการเต้นหัวใจต่ำ ยิ่งทำให้ควบคุมอากาศหายใจได้ดี นี่เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในงานนี้” คาร่าเล่า “แม้จะรู้ว่ามีคนเป็นร้อยๆ กำลังรอดูฉันแสดงอยู่ ฉันก็ต้องเตรียมตัวด้วยการฝึกฝนจิตและฝึกหายใจ เพื่อลดระดับอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายฉันพร้อมที่จะแสดง”
การโผล่พ้นน้ำหลังจากต้องกลั้นหายใจนานๆ ไม่ใช่กริยาที่น่าดึงดูดใจ แต่คาร่าก็ต้องทำ โดยที่ยังต้องอยู่ในบทบาทเงือกสาวแสนสวยอย่างไม่มีหลุด ปกติคาร่ามักจะดำน้ำประมาณ 20-40 รอบ และกลั้นหายใจอยู่ราวๆ นาที ก่อนจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาหายใจใหม่
“ฉันขึ้นมาหายใจเหนือน้ำสวยๆ อยู่สัก 20-30 วินาที แล้วค่อยดำลงไปใหม่” คาร่าบอก “ฉันไม่ได้จับเวลาว่าตัวเองสามารถกลั้นหายใจในน้ำได้นานเท่าไหร่ มันจะทำให้ฉันเครียดมากไป แต่ฉันมักจะหายใจในน้ำได้นานเวลาตัวเองรู้สึกสนุกกับงาน”
“ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนเงือกฝึกหัด”
นอกเหนือไปจากแสดงแล้ว คาร่าก็ยังเปิด “โรงเรียนเงือกฝึกหัด” ในสิงค์โปร ที่ซึ่งนักเรียนจะได้เข้าไปเรียนรู้เคล็ดวิธีและท่วงท่าต่างๆ ของเงือก
“ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ฉันปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะนำพาเรื่องราวเหนือจินตนาการมาสู่โลก สิงคโปร์เป็นเมืองป่าปูนไร้สีสัน แต่ฉันอยากแสดงให้เห็นว่า เวทมนตร์ก็งอกงามขึ้นได้แม้ในรอยแตกของคอนกรีต”
สำหรับคาร่า โรงเรียนสอนเงือกไม่ได้เป็นแค่โรงเรียนสอนว่ายน้ำ แต่สอนครอบคลุมตั้งแต่ตำนานเงือก ประวัติศาสตร์ ป็อปคัลเจอร์ ไปจนถึงการเคลื่อนไหว นักเรียนบางคนจะได้รับโอกาสให้ลองแสดงโชว์ หรือที่คาร่าเรียกว่า “ฝึกงานเป็นปลา (Fintership)”
นักเรียนในโรงเรียนเงือกฝึกหัดของคาร่ามีนักเรียนอายุตั้งแต่ 18 ไปจนถึง 60 ปี ซึ่งพวกเขามีงานประจำตั้งแต่เป็นพยาบาล นักบัญชี ทนายความ หรือแม่บ้านเลี้ยงลูก คาร่าเล่าว่าคนเหล่านั้นมาเข้าร่วมเพราะต้องการหาชมรมอยู่ ลองงานอดิเรกใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งคลายเครียด
“โควิด-19 และเหตุผลของการเป็นเงือก”
แต่การเป็นเงือกก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่เหมือกัน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาร่ารู้สึกเหมือนปลาขาดน้ำ เมื่อการแสดงใหญ่ๆ ต่างๆ รวมถึงกิจกรรมในโรงเรียนของเธอถูกงดห้ามเพราะความจำเป็น ยังดีอยู่บ้างที่คาร่ายังคงกลายร่างเป็นเซรีน่าได้ตามงานวันเกิดเล็กๆ
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเป็นเงือกของคาร่ามีความหมายสำหรับตัวเธอ คือการได้จุดประกายความอัศจรรย์ลงในใจของผู้ชม
“ในระหว่างการแสดงจะมีช่วงเวลาไม่กี่วินาที ที่ฉันจะได้มองไปยังผู้ชมเด็กๆ และแตะมือพวกเขาผ่านกระจกอควาเรียม ตอนนั้นมันเป็นตอนที่คุณจะได้เห็นประกายความรู้สึกมหัศจรรย์ในแววตาของพวก ซึ่งเชื่อแล้วว่าทุกอย่าง…เป็นไปได้”
ใครที่ฝันอยากเป็นเงือก วันนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่าความฝันนี้ “เป็นไปได้” ขอเพียงแค่คุณมี 3 สิ่งที่สำคัญ
หนึ่ง ร่างกายที่แข็งแรง
สอง ความสามารถในการว่ายน้ำ
และสาม…ใจที่ศรัทธาในความฝันและเรื่องเหนือจินตนาการ
อ้างอิง
- Vice. This Is What It’s Like To Be a Professional Mermaid. https://bit.ly/2VJfizT
- Guinness World Records. Stunning underwater mermaid show breaks record in China. https://bit.ly/3CsZ5jb