ดราม่า ‘พิธีเลี้ยงดง’ พิธีกรรมโบราณล้านนาเชียงใหม่ แต่ปีนี้ร่างทรงกลับพูดไทย ถ่ายรูปเซลฟี่ ทำชาวบ้านเสื่อมศรัทธา เหมือนมาดูโชว์ตลก
‘เลี้ยงดง’ เป็นหนึ่งในประเพณีโบราณของชาวล้านนาที่ยังคงหลงเหลือและสืบทอดกันมาหลายร้อยปี จนถึงปัจจุบัน และจัดประจำทุกปีเพื่อบูชาผีปู่แสะ-ย่าแสะ บรรพบุรุษผู้พิทักษ์ป่า ตามความเชื่อโบราณของชาวล้านนาโบราณที่นับถือและเชื่อว่า ‘ผี’ คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาผืนป่าและยึดถือความเชื่อนี้กันมารุ่นสู่รุ่น
ตามตำนานเล่าว่า ‘ปู่แสะ-ย่าแสะ’ คือยักษ์คู่ผัวเมียผู้เคยกินมนุษย์เป็นอาหาร จนวันหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด แล้วขอให้ทั้งสองเลิกกินเนื้อมนุษย์เสีย โดยมอบ ‘ผ้าพระบฏ’ เป็นเครื่องเตือนใจแทน หลังจากนั้น ปู่แสะ-ย่าแสะจึงให้คำสัตย์ว่าจะเฝ้าป่าดง หยุดทำร้ายมนุษย์ และคอยดูแลชุมชนในฐานะผีปกปักรักษา แลกกับการกินเนื้อสัตว์แทนเนื้อมนุษย์ปีละครั้ง
ความเชื่อนี้ฝังรากลึกในวิถีของชาวลัวะ ชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ที่เชื่อว่าทั้งสองยังคงสถิตอยู่ในผืนป่า จึงเกิดเป็นพิธีเลี้ยงดงโดยการล้มควายบวงสรวงปู่แสะย่าแสะ เพื่อแสดงความเคารพบูชาผีบรรพบุรุษ พร้อมขอพรให้ปกปักรักษาผืนป่าและชาวบ้านให้ร่มเย็นเป็นสุข เป็นพิธีกรรมที่คนในพื้นที่ให้ความสำคัญและยึดมั่นถือปฏิบัติมาจนจวบปัจจุบัน
สำหรับพิธีเลี้ยงดงปี 2568 นี้ ตรงกับวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ได้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับพิธีกรรมที่ไม่เป็นไปตามขนบดั้งเดิม รวมถึงพฤติกรรมของม้าขี่หรือร่างทรงคนใหม่ที่ดูเป็นการแสดงมากกว่าเข้าทรงจริง
ตามข้อมูลกล่าวว่า ปีนี้เทศบาลเมืองแม่เหียะมีการเปลี่ยนนายกฯ ใหม่ ส่งผลให้ทีมจัดงานเปลี่ยนตามไปด้วย หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ ‘ร่างทรงปู่แสะ’ ที่ถูกจัดหามาจากต่างถิ่น จากอำเภอสารภี ซึ่งเดิมเป็นร่างทรงสายเจ้าแม่กวนอิม แต่กลับถูกผลักดันให้มาเป็นม้าขี่ของปู่แสะโดยที่หลายฝ่ายในชุมชนไม่ได้รับรู้ ซึ่งที่ผ่านมาจะไม่ได้มีการจัดหาร่างทรงไว้ แต่ผีปูแสะจะเป็นผู้เลือกร่างลงเอง
นอกจากนั้น ตามธรรมเนียมแล้ว ‘พ่อหนาน’ จะเป็นผู้มีหน้าที่อัญเชิญผีปู่แสะ ย่าแสะ มาลงในทุกๆ ปี หากไม่มีท่านนี้อัญเชิญก็ไม่สามารถมาลงได้ เพราะไม่มีกำลังตั้งขันข้าว เชื้อเชิญมา
จุดเริ่มต้นของความวุ่นวายคือร่างทรงดันเข้าทรงก่อนเวลาจริง ทั้งที่พ่อหนานยังไม่ได้เริ่มพิธีตามลำดับขั้นตอน ทำให้พ่อหนานผู้มีหน้าที่กล่าวอัญเชิญผีถึงกับเดินออกจากงานด้วยความไม่พอใจ เพราะถือว่าผีลงผิดจารีต เป็นการล่วงเกินขั้นตอนศักดิ์สิทธิ์อย่างร้ายแรง
เมื่อพิธีเริ่มเดินหน้า ความไม่สมจริงก็ตามมาติดๆ ไม่ว่าจะเป็นร่างทรงพูดไทยกลาง ไม่ใช้คำเมือง ขณะที่พิธีนี้มีรากลึกจากความเชื่อของชาวลัวะ ส่งผลให้ชาวบ้านรู้สึกไม่อิน ไปจนถึงพฤติกรรมร่างทรงที่ดูเหมือนไม่ใช่องค์ลงแต่ดูเป็นการแสดง จนมีชาวบ้านถึงกับเปรยว่าเหมือนดูโชว์ตลกมากกว่าพิธีกรรม
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ร่างทรงมีการลงมาจับมือชาวบ้าน แถมหันมายิ้มให้กล้องอยู่นาน แล้วพูดเชื้อเชิญให้ถ่ายรูปพร้อมเซลฟี่กับแขกในงาน รวมถึงพูดตำหนิเทศบาลกลางงานว่าจัดเครื่องบวงสรวงไม่ครบ ทั้งที่จริงแล้วมีครบเหมือนทุกปี เพียงแต่ไม่ได้จัดเพิ่มตามที่ทีมงานขอไป
สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่าง ‘ผ้าพระบฏ’ ซึ่งตามตำนานเปรียบเสมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แสดงปาฏิหาริย์ให้ยักษ์หยุดกินคน ตามความเชื่อแล้ว ถ้าผ้าพระบฎไหวจะเป็นสัญลักษณ์ว่าพระพุทธรับรู้ถึงพิธีกรรมแล้ว แต่ปีนี้กลับไม่ไหวเอนไปมาเหมือนเช่นทุกปี เหมือนจะบอกอะไรบางอย่างในเชิงนัยทางความเชื่อ
ผู้คนที่เข้าไปชมพิธี รวมถึงชาวบ้านที่ยึดถือจารีตประเพณีดั้งเดิม ต่างรู้สึกเอะใจเมื่อเห็นว่าพิธีกรรมในปีนี้แปลกไปจากที่เคยเป็น เสียงวิพากษ์วิจารณ์จึงตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะต่อทีมงานใหม่ที่ถูกวิจารณ์ว่าเหมือนไม่ได้ศึกษาตำนานล้านนาอย่างลึกซึ้ง และทำอะไรตามความเข้าใจของตนเองมากกว่าจะยึดถือจารีตที่มีอยู่เดิม จนหลายคนตั้งคำถามถึงเจตนาและความเคารพต่อพิธีกรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน บางเสียงถึงกับแสดงความกังวลว่า หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้อาจเสื่อมความศรัทธาไปเพียงเพราะการกระทำของคนไม่กี่คน ทั้งที่แท้จริงแล้ว พิธีเลี้ยงดงถือเป็นรากวัฒนธรรมสำคัญของชาวเชียงใหม่
ทางด้าน ‘สงกรานต์ สมจันทร์’ ผู้เข้าร่วมงานและผู้เขียนหนังสือ ‘ดนตรีล้านนาในพิธีกรรม พิธีกรรมในดนตรีล้านนา’ ได้อธิบายไว้ว่า ในพิธีกรรมต่างๆ เรามักจะพบองค์ประกอบทางพิธีกรรมที่บางครั้งเราไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจได้โดยทันที หากแต่มีความเชื่อว่า สิ่งนั้นๆ เป็นตัวแทนในการสื่อสารกับอำนาจเหนือธรรมชาติ เช่น การจุดธูป การสวดมนต์หรือท่องคาถา ความพยายามหาความหมายสิ่งที่ปรากฏขึ้นในพิธีกรรม ตลอดจนสิ่งนั้นๆ ถูกใช้ในพิธีกรรมอย่างไร เรียกว่า การตีความสัญลักษณ์ อาจกล่าวได้ว่า ทั้งเครื่องประกอบพิธีกรรม ขั้นตอนบางส่วนของพิธีกรรม เป็นส่วนหนึ่งที่เรียกว่า ‘มานุษยวิทยาสัญลักษณ์’ (Symbolism Anthropology)
ระบบสัญลักษณ์มีนัยสำคัญสองประการ ประการแรกเชื่อว่าสัญลักษณ์คือการกระทำทางสังคม โดยพิจารณาได้จากการประกอบพิธีกรรมที่มีการแสดงความหมายผ่านเหตุการณ์และวัตถุสิ่งของ สัญลักษณ์จึงเป็นสิ่งที่มองเห็นได้และเป็นตัวแทนของการกระทำต่างๆ ประการที่สอง เชื่อว่าระบบสัญลักษณ์คือแบบแผนทางวัฒนธรรม พฤติกรรมและความคิดมีการถ่ายทอดเป็นสัญลักษณ์เพื่อสะท้อนลักษณะทางวัฒนธรรม
ทั้งนี้เมื่อเจ้าตัวเห็นว่าภาพ ‘พระบฏ’ ไม่แกว่งไกวเหมือนที่เคยเห็นมาทุกปี ก็เลยคิดอะไรต่างๆ และปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกสมัยใหม่ พิธีกรรมก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามความเจริญของบ้านเมือง เช่น แต่เดิมจะฆ่าควายในพิธีและปล่อยให้ควายวิ่งไปตาย มุมใดจึงมีการทำนายทายทัก ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นใช้ควายจากโรงฆ่าสัตว์ หรือผีปู่แสะย่าแสะที่กลัวพระพุทธเจ้า แต่ในปัจจุบันก็ฟ้อนปีติยินดีที่ได้เห็นพระพุทธเจ้า รวมถึงการแวะเวียนทักทายผู้ที่เข้าร่วมงานอย่างทั่วถึง
เมื่อพิธีกรรมนี้เป็นพิธีเปิดที่ทุกคนสามารถเข้ามาชมกันได้ คำถามที่ว่า ‘จริง’ หรือ ‘ไม่จริง’ ก็เป็นนานาทัศนะที่ทุกคนมีสิทธิ์ตั้งคำถามได้เช่นกัน รวมถึงความคาดหวังของผู้คน (audience) ที่มีต่อพิธีกรรมด้วย เหนือสิ่งอื่นใดเราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีกรรม ความเปลี่ยนแปลง และปรากฏการณ์ทางสังคมไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ด้านเทศบาลเมืองแม่เหียะได้ออกมาชี้แจงว่า ร่างทรงที่ปรากฏในงาน ไม่ได้ถูกจัดหาหรือแต่งตั้งโดยเทศบาลเมืองแม่เหียะ ตามคำบอกเล่าของพ่อค้าแม่ค้าร้านดอกไม้บริเวณศาล แต่ระบุว่าผู้หญิงคนดังกล่าวมากราบไหว้ที่ศาล ก่อนมีอาการคล้ายการลงทรงจากปู่แสะนานประมาณ 3 ชั่วโมง จึงมีความเชื่อกันว่ามาลงร่างใหม่ เนื่องจากเจ้าทรงเดิมมีอายุมากแล้ว รวมถึงมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และในส่วนของเครื่องบวงสรวง เทศบาลเมืองแม่เหียะทำหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ ประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนกำลังคนและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้การจัดงานดำเนินไปอย่างเรียบร้อยเท่านั้น แต่ผู้จัดหาเครื่องบวงสรวงเป็นหน้าที่ในส่วนของสภาวัฒนธรรมตำบลแม่เหียะเป็นผู้ดูแลให้เป็นไปตามจารีตประเพณีที่สืบทอดต่อกันมา
และยังกล่าวทิ้งท้ายว่า จุดมุ่งหวังของเทศบาล คือมุ่งส่งเสริมประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่ดั้งเดิม ให้คงอยู่กับท้องถิ่น ตามอำนาจหน้าที่การรักษาและสืบสานประเพณี รวมไปถึงอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมวัฒนธรรม และจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับประเพณี พร้อมทั้งมุ่งสร้างกุศโลบาย หัวใจหลักสำคัญของพิธีกรรม คือ ‘การสร้างพลังศรัทธา สู่การรักษาผืนป่าให้ยั่งยืน’
อ้างอิง
- เครดิตภาพ: cmprice.com เรื่องราวเชียงใหม่และลำพูน
Songkran Somchandra https://shorturl.asia/8Ldoq - ประเพณีเลี้ยงดง (บวงสรวงปู่เเสะ ย่าเเสะ) https://shorturl.asia/EpZch
- เชียงใหม่นิวส์ ข่าวเชียงใหม่ ข่าวเชียงใหม่ https://shorturl.asia/CZlVf
- เทศบาลเมืองแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ https://shorturl.asia/RvQNt