เคยนัดใครแล้วไปสายไหม?
แล้วตอนนั้นคุณรู้สึกยังไง กระวนกระวาย เครียด หาข้อแก้ตัว หรือก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ใครถึงก่อนก็รอสักนิดแล้วกัน กำลังตามไปนะ
ถ้าคุณเป็นแบบที่ 2 แล้วติดนิสัยสายเป็นประจำชนิดนัด 9 มา 11 นัด 7 มาบ่ายละก็ ยินดีด้วย การมาสายของคุณดีต่อสุขภาพอย่างไม่น่าเชื่อ
จากการวิจัยของ Harvard Medical School ระบุว่าคนที่มาสายเป็นประจำ ๆ มีโอกาสที่จะอายุยืนกว่าคนตรงต่อเวลา (รวมคนที่มาก่อนเวลาด้วย) เพราะพฤติกรรมการมาสายกำลังอธิบายว่าคุณสามารถจัดการกับความเครียดได้ดี เพราะถ้าไปสายแล้วยังชิลหมายความว่าคุณจะไม่ปล่อยให้เดดไลน์ หรือข้อกำหนดเวลา มามีอิทธิพลกับอารมณ์เท่าไร นั่นแปลว่าโอกาสที่จะเกิดความเครียด ความกังวล ก็จะน้อยกว่า แถมยังผ่อนคลายมากกว่าคนที่ตรงต่อเวลาด้วย

Harvard Medical School | thecrimson.com
ที่สำคัญคือคนมาสายส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่บวก คนที่มองโลกในแง่บวกมีแนวโน้มมีความรับรู้สิ่งที่ต่างออกไปจากความจริงสักหน่อย อย่างในกรณีนี้คือ เซนส์เรื่องเวลา เพราะพวกเขามักจะคิดว่าตัวเองมีเวลาเยอะกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย และคิดว่าตัวเองสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ในเวลาที่จำกัด เช่นคิดว่าตัวเองสามารถอาบน้ำ กินข้าว ขับรถไปส่งลูกได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ทั้งที่ความจริงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ จนทำให้เกิดการจัดการเวลาที่ผิดพลาดและไปสายในที่สุด

อาบน้ำ | hansgrohe-usa.com
แต่แน่นอนอยู่แล้วว่าการเป็นคนมองโลกในแง่ดีมีข้อดีมากมายและสำคัญมาก จากการศึกษาพบว่าคนที่มองโลกในแง่บวกเป็นเวลายาวนาน 15-40 ปี จะมีสุขภาพที่ดีทั้งสุขภาพกายและใจ ปกป้องหัวใจและช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
ไม่ใช่แค่นั้นในปี 2003 นักจิตวิทยา Jeff Conte ทำการศึกษาคนที่ชอบมาสาย พบว่าพวกเขามีความสามารถทำงานหลายอย่างพร้อม ๆ กันได้เก่งกว่าคนตรงต่อเวลา แถมยังมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่า เวลาที่เกิดปัญหาเหล่าคนมาสายก็มีแนวโน้มที่จะหาวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

นักจิตวิทยา Jeff Conte | twitter.com @iopsych_conte
โดยสรุปแล้วถ้าคนที่มาสายจนติดนิสัยก็มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพจิตที่ดี อายุยืน และมีความสุข แต่ในสังคมนิสัยมาสายแล้วปล่อยให้คนอื่นรอเก้อก็ไม่น่าจะเป็นที่ยอมรับได้เท่าไหร่ เพราะหลายครั้งที่การมาสายก็ทำให้เสียเรื่องไปได้เหมือนกัน เอาเป็นว่านัดใครเมื่อไหร่ก็อย่าสายเลยครับ
อ้างอิง: