3 Min

ชวนรู้จัก ‘กำเนิดวิทย์’​ โรงเรียนที่เป็นแหล่งกำเนิดความรู้ สำหรับนักคิดและนักวิทย์ ในการพัฒนาสังคม และประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

3 Min
421 Views
14 Nov 2023

อย่างที่เรารู้กันดีว่า การศึกษาคือการสร้างอนาคตของชาติ ทำให้การคัดสรรและเลือกสถานศึกษาสำหรับการเล่าเรียน ถือเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง วันนี้จึงอยากแนะนำให้ลองรู้จักกับสถานศึกษาที่เป็นแหล่งสร้าง ‘นักวิทยาศาสตร์’ และ ‘นักวิจัย’ โดยเฉพาะ นั่นก็คือ ‘โรงเรียนกำเนิดวิทย์’

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อกันมาแล้วบ้าง สำหรับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (Kamnoetvidya Science Academy) หรือ ‘KVIS’ ที่เป็นส่วนหนึ่งของวังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง พื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่ออนาคต ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 

ก่อนอื่นขอชวนทุกคนมาทำความความรู้จักกับโรงเรียนแห่งนี้กันให้มากขึ้น ตั้งแต่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่หมายถึงโรงเรียนที่เป็นแหล่งกำเนิดความรู้ ซึ่งเป็นชื่อที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานให้ โดยได้เริ่มเปิดภาคเรียนครั้งแรกในปี 2558 และปัจจุบันโรงเรียนได้เปิดมานานถึง 8 ปี

ทั้งนี้ กำเนิดวิทย์เป็นโรงเรียนเอกชนสามัญศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (มัธยม 4-6) ที่มุ่งเน้นงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งแรก ซึ่งมาจากแนวคิดของกลุ่ม ปตท. ที่นอกเหนือจากจะให้ความสำคัญเรื่องของ ‘การสร้างคน’ แล้ว ยังอยากเห็น ‘การศึกษาของประเทศไทย’ ได้รับการพัฒนารุดหน้าขึ้นไปอีกขั้น เพื่อหวังเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างยั่งยืน 

ซึ่งก็สอดคล้องกับชื่อสถานศึกษาที่ต้องการผลิตนักเรียน หรือเสมือนฟันเฟืองเล็กๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในวันข้างหน้า 

สำหรับการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนแห่งนี้ มีวิธีการจัดการหลายแบบ เช่น รับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในลักษณะโรงเรียนประจำ มีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุกคน โดยจะรับนักเรียนเพียงรุ่นละ 72 คน แบ่งเป็น 4 ห้องๆ ละ 18 คน (นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเรียน จะได้รับทุนการศึกษาเต็มจำนวนตลอด 3 ปีที่เรียน โดยไม่มีข้อผูกมัดและไม่ต้องใช้ทุนคืน)

อีกทั้งใช้หลักสูตรที่ส่งเสริมการพัฒนานักเรียนเป็นรายบุคคล และมีการเปิดรายวิชาเลือกเสรีอื่นๆ ตามความถนัดและความสนใจ จัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย หรือนักนวัตกรรมในอนาคต มีระบบ ICT และห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์

จึงเป็นการเรียนรู้ที่ไม่ได้เรียนแค่ตามทฤษฎี หรืออยู่ภายในห้องอย่างเดียว แต่นักเรียนจะได้เรียนรู้ผ่านการวิจัยและทดลองจริงๆ ด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศที่สนับสนุนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์

ทั้งนี้โรงเรียนกำเนิดวิทย์ยังมีการผลักดันเรื่อง Soft Skill เช่น การทำงานเป็นทีม ภาวะความเป็นผู้นำ จริยธรรม รวมถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมอีกด้วย

นอกจากนี้ ครูทุกคนยังได้รับโอกาสในการพัฒนาตนเอง ผ่านการศึกษา การแลกเปลี่ยน และการทำวิจัยร่วมกับโรงเรียนเครือข่ายในต่างประเทศ อีกทั้งยังต้องผ่านการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาทักษะความสามารถในด้านวิชาการ และการทำงานวิจัย ไม่น้อยกว่า 30 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา 

โครงงานเรื่องการศึกษาแบบจำลองผลของสนามแม่เหล็กต่อพายุทรงหลายเหลี่ยมบนดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ โดยหลักความไม่เสถียรเชิงอุทกพลศาสตร์ (Effect of the Planetary Magnetic Field on the Shape of Gas Giant’s Polygons based on Fluid Instabilities Principle) ซึ่งได้รับรางวัล 3rd Place Grand Award ในเวที Regeneron ISEF 2023 

และโครงงาน ‘การศึกษาผลของสนามแม่เหล็กที่มีต่อความถี่เสียงกำเนิดจากบัซเซอร์แม่เหล็กประเภทแอคทีฟ’ ซึ่งได้รับรางวัลพระราชทาน Best of the Best และรางวัลเหรียญทอง จากสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปีพุทธศักราช 2566 

ยังมีอีกหลายผลงานวิจัยของนักเรียนกำเนิดวิทย์ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติไม่ต่างจากนักวิจัยอาชีพ และยังมีอีกหลายชิ้นที่ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว

จึงไม่แปลกใจว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำไมโรงเรียนกำเนิดวิทย์ถึงได้รับความสนใจและถูกจับตามองในแวดวงการศึกษา ที่มีทั้งโรงเรียน สถาบันการศึกษาต่างๆ ไปเข้าเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนอยู่เป็นประจำ

สุดท้าย จากเรื่องราวข้างต้น จึงพอสรุปความน่าสนใจของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ให้เข้าใจง่ายๆ ว่า เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพมาตรฐานในระดับเวิลด์คลาส เน้นการพัฒนาศักยภาพรายบุคคล รวมถึงต้องการบ่มเพาะเด็กนักเรียนหัวกะทิ เยาวชนไทยทั้งหลาย ให้เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เป็นนักคิด-นักวิทย์ที่ขับเคลื่อนสังคมและประเทศให้แข่งขันในเวทีระดับโลกได้