KA ผลิตภัณฑ์กันแดดในตำนาน ตอกย้ำกันแดดแบรนด์ไทยอันดับ 1 กันแดดต้องเค.เอ.
นอกจากรอยยิ้มแบบสยามแล้ว ‘แดด’ ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของประเทศไทย ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้ภูมิใจมากนัก แต่แดดที่รุนแรงก็พร้อมเข้ามาทักทายพวกเราอยู่เสมอ (แถมทักแรงอีกต่างหาก) เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเพศอะไร เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘กันแดด’ กลายเป็นของจำเป็นของพวกเราชาวไทยไม่ต่างจากปัจจัยอื่นๆ เพราะกันแดดจะไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่องของความสวยความงาม แต่ยังดูแลเราในเรื่องของสุขภาพต่างๆ และแบรนด์กันแดดที่เราน่าจะเคยใช้งานกันมาบ้างก็คงไม่พ้น ‘KA’
อาจจะต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า KA แบรนด์เครื่องสำอางและเวชสำอางที่พวกเราคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ KA ก็อยู่เคียงข้างพวกเรามาเป็นระยะเวลากว่า 38 ปีแล้ว ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ผลิตภัณฑ์เกือบทุกตัวของแบรนด์ก็จะถูกพูดถึงในมิติของการใช้ที่ดี ตอบโจทย์ได้จริง และอยู่ในราคาที่คุ้มค่า เรียกง่ายๆ ว่า “ถูกและดี” ทำให้มีการเติบโตทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
“โดย KA ภูมิใจที่จะบอกทุกคนว่าเป็นแบรนด์คนไทย ผลิตสินค้าเพื่อผิวคนไทย KA เป็นแบรนด์แรกที่ผลักดันสินค้ากันแดดให้เป็น Mass Daily Use เราอยู่ในตลาดแมสขอให้คนไทยได้มีของดีๆ ใช้ในราคาไม่แพง ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ดังนั้น กำไรน้อยไม่เป็นไร ต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภค เราภูมิใจนะ ภูมิใจที่ขายของไม่แพง จริงใจที่จะบอกตรงๆ ว่าเรายินดีกำไรน้อย บางตัวขายขาดทุนด้วยซ้ำ ตามนโยบายที่คุณพ่อให้ไว้ เปรียบเทียบคืออยากให้ 100 คนได้ใช้ของในราคา 1 บาท ดีกว่าขายของ 100 บาทให้คนเดียวได้ใช้”
– ภญ. กรกมล ชัยวัฒนเมธิน (ออน ละอองฟอง) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
นอกเหนือจากนั้น คุณออนยังระบุว่า “ทุกวันนี้พฤติกรรมการใช้ครีมกันแดดของคนไทยแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก ต้องเล่าถึงตลาดกันแดดเมืองไทยเราก่อน กว่า 30 ปีที่ก่อตั้งแบรนด์เค.เอ. มา เค.เอ. เป็นเจ้าแรกๆ ที่บุกเบิกครีมกันแดดในไทย และผลักดันสินค้ากันแดดให้เป็น Mass Daily use แบรนด์เค.เอ. เริ่มกลุ่มสินค้า KA UV Protection ตั้งแต่ยุคที่คนไทยยังไม่ได้ใช้กันแดดกันแบบทุกวันนี้ จะยังไม่รู้ถึงอันตรายของรังสียูวี
แคมเปญเค.เอ. ยุคแรกๆ เช่น แคมเปญ ‘พระอาทิตย์ 2 ดวง’ จะ Educate ตลาดว่า แสงแดด อันตรายนะ คนก็เริ่มหันมาใช้กันแดด แต่จะใช้กันแดดเมื่อออกแดดแรงๆ ไปเที่ยวหรือไปทะเลเท่านั้น
แคมเปญยุคต่อมา เราก็ Educate ตลาด ว่า ‘UV มีอยู่ทุกที่ แม้ในที่ร่ม’ ผลักดันให้กันแดดเป็น Everyday used จนวันนี้เรารู้แล้วว่า UV คือต้นเหตุหลักของปัญหาผิวที่เราเจอ ไม่ใช่แค่ ดำ ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวแก่ เหี่ยว กร้าน เกิดจาก UV ทั้งนั้น ยุคนี้กันแดดกลายเป็นของจำเป็นไปแล้ว วันไหนไม่ได้ทาครีมกันแดด จะไม่มั่นใจ เหมือนแก้ผ้าออกจากบ้าน
และวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ KA จะก้าวเข้ามาตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ในเรื่องของผลิตภัณฑ์กันแดดของไทย โดยมีเรือธงสำคัญ เป็น 3 ผลิตภัณฑ์ที่มีการสื่อสารอย่างเต็มรูปแบบออกมา ไม่ว่าจะเป็น KA UV WHITENING SOFT CREAM SPF50+ PA++++, KA UV SUPERBLOC FLUID PROTECTOR SPF50+ PA+++ และ KA UV EXTREME PROTECTION SPRAY SPF50+ PA+++ หรือที่ทางผู้บริโภคเรียกกันจนติดปากว่า ‘กันแดดเบลล่า’ เพราะได้นางเอกระดับท็อปอย่าง ‘เบลล่า’ ราณี แคมเปน มาเป็นพรีเซนเตอร์ในการสื่อสารนั่นเอง นวัตกรรมที่เราต้องพูดถึงก็คือ นวัตกรรม DOUBLE Encapsulation ของสารกันแดด ที่ให้ค่ากันแดดได้คงที่ปกป้องผิวได้ยาวนานขึ้น นวัตกรรม Ex-SolarTM Protection ปกป้องผิวขั้นสุด ให้ feeling กันแดด ซึมเร็ว แบบละอองนุ่น มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้คือการคุมมันซึ่งเข้ากับสภาพอากาศและผิวของคนไทย
โดยที่เราเลือกใช้คำว่าอันดับ 1 ก็เพราะทั้งสามผลิตภัณฑ์ถูกคิดค้นและพัฒนา เพื่อผิวคนไทย จาก pain point จริงของการใช้กันแดด ผ่านไลฟ์สไตล์การใช้งานจริงของผู้บริโภค จนสามารถตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ”
“ด้วยความที่ KA อยู่ในตลาดไทยมานาน เกือบ 40 ปี ทำให้สามารถเรียนรู้ และโตมากับผู้บริโภคตลอด จุดแข็งของเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญวิจัยและพัฒนาสินค้าของเราเอง ทำสูตรเพื่อผิวคนไทยจริงๆ ไม่ต้องใช้สูตรของบริษัทแม่เหมือนแบรนด์ต่างชาติ KA จึงสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับ pain point ของคนไทยจริงๆ เน้นคุณภาพสินค้า มาก่อนสิ่งอื่นใด 1. ต้องเห็นผลจริง 2. ต้องปลอดภัยจริงไม่ทำร้ายผิวในระยะยาว 3. ต้องคุ้มค่าจริงไม่เอาเปรียบลูกค้า”
อย่าง KA UV WHITENING SOFT CREAM SPF50+ PA++++ ก็ชูจุดเด่นในเรื่องของความบางเบาสุดๆ ของเนื้อครีมที่ทาแล้วซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ แถมคุมมันระหว่างวัน เข้ากับสภาพอากาศประเทศไทยเป็นที่สุด เบาสมชื่อ Soft Cream จริงๆ แหล่ะ เอาเป็นว่าเนื้อเบาซะเกือบลืมว่าเค้าเป็นครีมกันแดด แต่เรื่องประสิทธิภาพการกันแดดทางแบรนด์ใช้นวัตกรรม DOUBLE Encapsulation ที่มั่นใจได้ว่าปกป้องแดดได้จริง ให้ค่ากันแดดที่คงที่ ปกป้องยาวนาน ป้องกันผิวคล้ำเสียจากรังสี UV/ IR/ BLUE LIGHT ครบเชียวหล่ะ (คนที่ทำงานกับหน้าจอคอมฯ หรือเล่นมือถือที่ต้องเจอแสงสีฟ้าบ่อยๆ จะช่วยตอบโจทย์ได้มากนะ) ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่ทำร้ายลึกถึง DNA อีกด้วย มี Aqua Aloe Vera Extract ปลอบประโลมผิวจากการถูกแสงแดดและฝุ่นควันทำร้าย ให้กลับมาชุ่มชื้น น่าสัมผัส แถมเติมอาหารผิวต้านความแก่ด้วยวิตามินอี พร้อมปรับผิววิ้งมีออร่า ไม่หมองระหว่างวัน ด้วย วิตามินบี 3 และปกป้องผิวหน้าไม่ให้แก่ก่อนวัยด้วย Pollution Filter (ที่ทำหน้าที่เหมือนเกราะปกป้องใบหน้าอีก 1 ชั้น) โดยทางแบรนด์เน้นย้ำเองเลยว่า แดดแรง-แรงมากก็พร้อมปกป้องทุกอณูผิวจากแสงแดด สยบแดด เอาจริง การันตีความซึมไว เบาผิว แบบไม่พึ่งแอลกอฮอล์ ที่เป็นตัวการทำร้ายผิวทำให้ผิวบอบบางแพ้ง่ายด้วยหล่ะ อย่างนี้สบายใจ ใช้ทุกวันได้เลย
เราจะเห็นเลยว่าแค่ผลิตภัณฑ์เดียวก็ตอบโจทย์เกือบทั้งหมด ทั้งปกป้อง ทั้งดูแล ผิวหน้าไปในเวลาเดียวกัน
ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ นวัตกรรม DOUBLE Encapsulation นวัตกรรมที่ทาง KA ให้ความสำคัญและมีการพัฒนาอยู่ตลอด เป็นนวัตกรรมที่นำเอาสารกันแดดมาอยู่ในอนุภาคเล็กจิ๋วระดับไมครอน ทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดดคงที่และยาวนานนั่นเอง
ในส่วนของ KA UV EXTREME PROTECTION SPRAY SPF50+ PA+++ ก็เป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ (Water Resistance) ฉีดทับเมคอัพไม่ละลาย ฉีดทับผิวเปียกก็ได้ ใช้ได้กับทั้งผิวหน้าและผิวกาย ให้การปกป้องเต็มขีดสุด เบาสบาย ไม่เหนอะหนะ ต้านทานทุกอณูผิว ป้องกัน UV ทำร้ายลึกถึง DNA ด้วยนวัตกรรม Ex-SolarTM Protection เหมาะกับทุกกิจกรรม การเดินทาง ท่องเที่ยวพักผ่อน เล่นกีฬาทางบก ทางน้ำ ปั่นจักรยาน สเก็ตบอร์ด ไปทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง ให้พร้อมเผชิญทุกกิจกรรมกลางแสงแดดจัดได้ตลอดทั้งวัน
ยังคงคอนเซ็ปต์ “สยบแดดเอาจริง บางเบา… เอาอยู่” โดยจุดเด่นของสเปรย์กันแดดจะอยู่ที่ ละอองบางเบาดุจละอองนุ่น ไม่มัน ไม่เหนอะหนะ แห้งเร็ว สบายผิว ฉีดทับเมคอัพไม่ละลาย และฉีดบนผิวเปียกไม่เป็นคราบขาว ปกป้องผิวได้ครอบคลุมทั้งรังสี UVB, UVAI/ UVAII ด้วยค่า SPF50+ PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสี UV รังสี IR และมลภาวะต่างๆ และไม่มีส่วนผสมของสารพาราเบน (สารกันเสียที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย) ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
ไม่ว่าคุณจะลืมทากันแดดก่อนออกจากบ้าน อยากพกไปนอกสถานที่ อยากฉีดซ้ำระหว่างวัน พกผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไว้จะทำให้ชีวิตคุณง่าย พร้อมออกไปลุยกับไลฟ์สไตล์ชิคๆ คูลๆ ได้อย่างแน่นอน เอาเป็นว่า นึกขึ้นได้ตอนไหนก็ใช้ได้ตอนนั้น ฉีดทับเมคอัพไม่ละลาย ฉีดบริเวณผิวเปียกก็ได้ ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา จริงๆ ไม่จำเป็นต้องทาก่อนออกจากบ้านเสมอไป
KA UV SUPERBLOC FLUID PROTECTOR SPF50+ PA+++ ที่ตอกย้ำจุดยืนเรื่องกันแดดยืน1 ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เพราะ SPF ที่เห็นระบุ 50+ เนี่ย ตรวจจริง SPF หลักร้อยนะจ๊ะ เรื่องปกป้องผิวจากรังสี UV เหนือกว่าแบบ “ซุปเปอร์บล็อก” จริงๆ ทั้งกันน้ำ กันเหงื่อ หน้าไม่วอกลอย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อุดมด้วยสารสกัดมังบีน (จากประเทศเกาหลี) ทำหน้าที่เป็นเกราะผิวธรรมชาติ ให้ฟีลผิวเกาหลี คงผิวสวยใสท้าแดดต้านผิวเครียดจากยูวีและมลภาวะได้ตลอดทั้งวัน สัมผัสเบา สบายผิว
ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เหมาะกับการใช้เป็นประจำทุกวันหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ต้องเจอแสงแดดจัดตลอดวัน โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องลุยๆ อย่างการเล่นกีฬา ปั่นจักรยาน ไปทะเล อาบแดด ดำน้ำดูปะการัง ล่องเรือ ล่องแก่ง จะกิจกรรม Extreme แค่ไหน ก็สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดยาวนานทั้งวัน มีทั้งแบบขวดและแบบซอง พกพาง่าย ใช้ได้ทั้งผิวธรรมดาและผิวมัน ไปไหนก็หยิบติดกระเป๋าไปได้แน่นอน
ภญ. กรกมล ชัยวัฒนเมธิน เสริมว่า “ภาพยนตร์โฆษณาเหล่านี้เป็นการต่อยอดของเคมเปญก่อนหน้าที่แม้ว่าจะเป็นการปล่อยเคมเปญในช่วง วิกฤตการณ์โควิดปี 2020 คนไม่ออกจากบ้าน ความต้องการใช้กันแดดลดลง แต่ KA ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับแคมเปญ ‘บางเบา เอาอยู่’ ของ KA UV WHITENING SOFT CREAM ภายใต้การสื่อสารแบรนด์ที่ว่าด้วย #บางเบาเอาอยู่ #กันแดดขนนก #เบาที่สุดที่เคยมีมา ซึมเร็ว เกลี่ยง่าย โดยได้เบลล่า ราณี แคมเปน มาถ่ายทอดความจริงใจ เป็นกันเอง ในแบบขี้เล่น เบาๆ สบาย ตามคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
โดยผู้บริโภคขานรับเป็นเสียงเดียวกันถึงความเบาจริงงงงงง ของเนื้อครีม ตามชื่อ สินค้า SOFT CREAM ซึมเร็ว เกลี่ยง่าย เบาหน้า ไม่เหนอะ แถมคุมมันอยู่หมัด เบาาาจนหวั่นจะไม่ใช่ครีมกันแดด เบาเหมือนครีมบำรุง รอบนี้เราเลยปล่อยแคมเปญล่าสุด ‘สยบแดดเอาจริง บางเบา เอาอยู่’ ชูนวัตกรรม DOUBLE Encapsulation พร้อมผลทดสอบประสิทธิภาพปกป้องแสงแดดได้คงที่และยาวนานต่อเนื่อง… “ตอกย้ำความเอาจริง เอาอยู่เรื่องกันแดดทุกมิติ”
โดยจุดเด่นต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญ รวมถึงราคาที่คุ้มค่า มาในรูปแบบและขนาดต่างๆ ที่เหมาะสม เหตุผลเหล่านี้ก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เวลาผู้บริโภคคิดถึงกันแดดทีไรก็มักจะคิดถึง KA ก่อนเสมอ
ซึ่งทาง KA ก็แอบกระซิบมาว่า เนื่องจากการวัดค่า SPF บนฉลากบรรจุภัณฑ์ จะมีการกำหนดปริมาณครีมกันแดดในการวัด ดังนั้นวิธีใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง แนะนำให้ใช้ปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพตรงตามที่ระบุบนฉลากนะ
หากใครสนใจ สามารถสั่งซื้อ หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://bit.ly/KAThailandxBrandThink
#กันแดดต้องKA #กันแดดเบลล่า #KAUVSoftCream #สยบแดดเอาจริง #บางเบาเอาอยู่ #เบาที่สุดที่เคยมีมา #KAThailandOfficial