3 Min

‘แค่เพื่อนจริงดิ?’ คำถามยอดฮิตในใจแฟนสาว วิจัยพบ เพศหญิงมีแนวโน้มหึงเพื่อนเพศตรงข้าม ของคู่รักมากกว่า

3 Min
2820 Views
24 Jun 2022

แค่เพื่อนจริงเหรอ?’ คำถามนี้อาจเกิดขึ้นในใจของใครหลายๆ คนมาก่อน เมื่อได้เห็นแฟนหรือสามีภรรยาของตัวเองมีเพื่อนเพศตรงข้ามวนเวียนอยู่ในชีวิต ปฏิเสธไม่ได้ว่าความระแวงนี้เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ แต่มีงานวิจัยที่พบว่าเพศหญิงมักเป็นฝ่ายที่หึงเพื่อนเพศตรงข้ามของคู่รักมากกว่า

งานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Evolutionary Behavioral Sciences นำโดย อลิซซา เอ็ม. ซูครีส (Alyssa M. Sucrese) มหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน (The University of Texas at Austin) ร่วมกับทีม ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับ ความหึงหวงในความสัมพันธ์แบบคู่รัก ภายใต้บริบทที่มีมิตรภาพนอกสมรสกับเพื่อนต่างเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง 

ผลลัพธ์ที่ได้ คือการค้นพบว่า ผู้หญิงจะหึงหวงเพื่อนเพศตรงข้ามของคู่รักตนมากกว่าผู้ชาย

ในงานวิจัยครั้งนี้ ได้มีการรวบรวมอาสาสมัครจำนวน 364 คน ซึ่งทั้งหมดแต่งงานแล้ว เป็นคู่รักต่างเพศ (Heterosexuality) อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา อายุน้อยที่สุดของอาสาสมัครคือ 18 ปี และทุกคนพูดภาษาอังกฤษ โดยวิธีทดลองคืออาสาสมัครจะถูกสุ่มให้ไปอยู่ 1 ใน 4 กลุ่มที่พวกเขาจะได้อ่านสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่จะทำให้พวกเขาจินตนาการถึงตอนที่คู่รักของพวกเขากำลังผูกมิตรใหม่กับเพื่อนเพศตรงข้าม

ภายหลังการทดลอง การวิจัยค้นพบว่า อาการหึงหวงจะสูงขึ้น หากคนที่คู่รักของอาสาสมัครไปผูกมิตรด้วย มีเพศเดียวกับอาสาสมัคร อธิบายคือ ถ้าอาสาสมัครเป็นเพศชาย อาสาสมัครคนนั้นจะรู้สึกหึงมากขึ้นจริงๆ หากได้นึกภาพสถานการณ์ที่แฟนเพศหญิงของตัวเองไปผูกมิตรกับเพื่อนเพศชาย

ในการวิจัยครั้งนี้ นักวิจัยค้นพบว่า ผู้หญิงมีระดับการหึงหวงที่สูงกว่าผู้ชาย เมื่อต้องจินตนาการถึงคู่ครองตัวเองกับเพื่อนเพศตรงข้าม งานวิจัยยังเสนอแนะด้วยว่า ความหึงหวงในหมู่อาสาสมัครหญิงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่า พูดง่ายๆ คือถ้าเพื่อนแฟนยิ่งหน้าตาดีมีเสน่ห์ ก็ยิ่งหึงหนักขึ้นไปอีก

นอกจากนั้น งานวิจัยยังชี้แนะอีกว่า ความสำเร็จในการสืบพันธุ์ของผู้หญิงมักจะรู้สึกถูกสั่นคลอนโดยเพื่อนสาวของคู่รักของตน แม้มิตรภาพนั้นจะไม่มีเรื่องโรแมนติกเข้ามาเกี่ยวข้องเลยก็ตาม เนื่องจากการเป็นเพื่อนของเพศชาย มักเรียกร้องการประคับประคองในหลายๆ อย่าง เช่น เวลา และทรัพยากรในความสัมพันธ์ ซึ่งคล้ายคลึงกับสิ่งที่ผู้หญิงมักเรียกร้องจากแฟนตัวเอง 

ส่วนการหึงหวงในเรื่องเพศ งานวิจัยนี้ไม่พบความแตกต่างระหว่างเพศชายกับหญิง คือทั้งสองเพศต่างก็กังวลว่าแฟนตัวเองจะไปมีอะไรกับเพื่อนของตัวเองพอๆ กัน 

อีกเรื่องที่การวิจัยค้นพบ คือ ผู้ชายกลายเป็นเพศที่รู้สึกหึงหรือน้อยใจมากกว่า เวลาเพื่อนของคู่รัก เป็นคนหน้าตาดี ไม่ว่าเพื่อนจะเป็นเพศอะไรก็ตาม ทีมวิจัยเสนอแนะว่า กรณีนี้อาจเกิดขึ้นเพราะผู้ชายจะทั้งกังวลว่าเพื่อนผู้ชายหน้าตาดีของคู่รักจะกลายมาเป็นคู่แข่งหัวใจ และทั้งกังวลว่าเพื่อนผู้หญิงหน้าตาดี จะกลายมาเป็น ‘wing woman’ ของเพื่อนสาวที่ทำหน้าที่สนับสนุนหรือช่วยเพื่อนตัวเองให้ทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ที่เข้ามาจีบได้

การวิจัยนี้มีข้อจำกัดตรงที่เป็นการศึกษาคนที่แต่งงานแล้วคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้ศึกษาเป็นคู่ๆ ไป อีกทั้งทีมวิจัยไม่ได้ดูข้อมูลด้วยว่า คู่รักของอาสาสมัครแต่ละคนมีเพื่อนเพศตรงข้ามมากแค่ไหน อาสาสมัครที่คู่รักของตัวเองไม่มีเพื่อนเพศตรงข้ามในชีวิตจริงสักคนเลย อาจจะระบุระดับความหึงได้แม่นยำน้อยลง เนื่องจากขาดประสบการณ์ร่วม 

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ว่า ผู้หญิงหึงเพื่อนสาวของแฟนตัวเองมากกว่านี้ เป็นเพียงความจริงที่ได้จากงานวิจัยกลุ่มคนเล็กๆ ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นกว้างใหญ่และซับซ้อนกว่านั้นมาก งานวิจัยนี้จึงไม่อาจตีความแทนความรู้สึกทั้งหมดของคนเพศใดเพศหนึ่งได้

จะหญิงหรือชาย หรือเพศใดๆ ก็ตาม มนุษย์เราต่างมีโอกาสหึงกันได้ทั้งนั้น หากวันใดวันหนึ่งคำถามแค่เพื่อนจริงดิ?’ เริ่มโผล่ขึ้นมาคั่นกลางความสัมพันธ์ ทางที่ดี คู่รักควรพูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผลและตรงไปตรงมา เพื่อรักษาความรู้สึกของกันและกันต่อไป อย่าปล่อยให้ความระแวงกลายเป็นพิษภัยทำลายความรักเลย

อ้างอิง